ครั้งแรกของ Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK พร้อมเผยที่มาของลวดลายบนเคสมือถือซัมซุง ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 200 เซ็ตเท่านั้น! วางจำหน่าย 27 มีนาคมนี้
ซัมซุง Galaxy Z Flip สมาร์ทโฟนพับได้รุ่นล่าสุ
คอลเล็คชั่นพิเศษนี้จะมาใน Boxset สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบด้วย Galaxy Z Flip และเคสรุ่นพิเศษภายใต้คอนเซ็ปต์ The Reflection of Style ที่ผสมผสานเอกลักษณ์แห่งงานดี
โดย Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK Special Case Limited Edition เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานแฟชั่
ซึ่งก่อนหน้านี้ แพรวดอทคอม ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องและดูแลโปรเจ็กต์นี้ นั่นคือ คุณธันย์ชนก วิริยะบูรณ์ กรรมการบริหารบริษัทไอริส 2005 จำกัด และคุณวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ทั้งสองได้ให้ข้อมูลและเผยถึงที่มาในการร่วมงานกันครั้งแรกของสองแบรนด์ดัง จะมีความพิเศษอย่างไรบ้าง มาตามอ่านกันได้เลยค่ะ

ซัมซุง Galaxy Z Flip แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อย่างไรบ้าง
คุณวิทยา : “ตัวอย่างของกลุ่มคนแรกๆ ที่ได้เห็นมือถือรุ่นนี้จะมีความรู้สึกว่าเหมือนตลับแป้ง คือด้วยรูปแบบแล้วก็รู้สึกเหมือนตลับแป้งจริงๆ สำหรับการออกแบบจุดเด่นของมันคือพับได้ ผู้หญิงจะชอบถือกระเป๋าเล็กๆ ผู้ชายก็จะชอบเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง มันก็จะสะดวกต่อการพกพา ผมไปโชว์ให้ภรรยาดูเขากรี๊ดเลย คือกระเป๋าใบเล็กที่มีอยู่ ได้เอามาใช้แล้ว มันก็มีความรู้สึกที่เป็นแฟชั่นมากขึ้น
อีกเรื่องก็จะเป็นส่วนของหน้าจอนะครับ อย่างที่บอกเวลาเปิดมามันจะแบนเรียบครับ มันก็จะเป็นจุดเด่นข้อหนึ่ง คือมันพับแล้วเวลาที่เราจะใช้ เราสามารถใช้ได้ 2 จอ จอหนึ่งเปิดดูหนังได้ อีกจอสามารถเล่นไลน์ เล่นอะไรก็แล้วแต่ท่าน เพราะว่าเราสามารถใช้ได้ 2 จอในเวลาเดียวกัน
อีกจุดหนึ่งที่หลายๆ คนจะชอบมากๆ เลยคือการถ่ายรูป การทำบล็อกหรือวิดีโอ เรื่องของกล้องถ่ายภาพคือไม่ต้องเป็นห่วงเลย เขาค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงทางด้านการถ่ายภาพ เรื่องของลูกเล่นต่างๆ ลูกเล่นใหม่ๆ กดถ่ายภาพแค่ภาพเดียว แต่กล้องจะประมวลผลให้เราได้ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอกว่า 14 รูปในเวลาเดียวกัน ซึ่งคนที่เล่นโซเชียลเขาสามารถเลือกได้เลยว่าจะโพสต์เป็นรูปหรือจะโพสต์เป็นวิดีโอ ก็จะเป็นลูกเล่นอะไรต่างๆ ที่มีในมือถือรุ่นนี้”
ซัมซุงมาร่วมมือกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ได้อย่างไร
คุณวิทยา : “สิ่งที่ทำให้มือถือรุ่นนี้มันพิเศษกว่ารุ่นอื่น เพราะมีเรื่องของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เข้ามา ดังนั้นเราคิดว่าในเมื่อมือถือเรามันมีโปรไฟล์แล้ว เราจะทำให้พิเศษขึ้นได้ยังไง เราก็เลยลุกขึ้นมาร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ซัมซุงและแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK อย่างที่ผมบอกว่าแบรนด์ซัมซุง 10 ปีข้างหน้า เราโฟกัสเป็นอย่างมากในเรื่องของเทคโนโลยี เพราะเป็นการก้าวสู่โลกอนาคต เราเชื่อมั่นว่าแบรนด์ที่เราจะร่วมมือด้วย จะต้องเป็นแบรนด์แฟชั่นของประเทศไทย แบรนด์ไหนที่มีดีเอ็นเอตรงกับแบรนด์ของเราบ้าง เราก็เจอแบรนด์นี้ที่เราตามดูคอลเล็คชั่นต่างๆ ก็จะมีความพิเศษทางด้านของผลงาน เรื่องของวัสดุต่างๆ เรื่องของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ เราก็เลยเสนอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ว่าเราอยากให้พระองค์ท่านออกแบบเคสมือถือ ทำให้มันออกมาพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับบุคคลที่ชอบความไม่เหมือนใครและมีจำนวนที่จำกัดมากๆ ”
ทางแบรนด์ SIRIVANNAVARI รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับซัมซุงเป็นครั้งแรก
คุณธันย์ชนก : “ขอบคุณทางแบรนด์ซัมซุงนะคะที่ให้แบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ร่วมดีไซน์ ส่วนใหญ่เราก็จะร่วมงานกับทางด้านไลฟ์สไตล์ โปรดักส์บิวตี้นะคะ ไม่เคยไปแตะในเรื่องของเทคโนโลยีเลย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทำร่วมงานกับทางซัมซุง ก่อนอื่นคือได้เสนอมาว่าอยากให้ออกแบบเคส เราก็คิดว่ามันน่าท้าทายมาก เพราะว่ามันมีดีไซน์ที่แตกต่างและแหกกฎจากตลาดทั่วไป เราก็คิดว่าน่าจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และวิสัยทัศน์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI กับแบรนด์ของซัมซุงก็คล้ายๆ กัน เรื่องของการพัฒนาผลิตภัณท์ คือตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้”
ที่มาของงานดีไซน์
คุณธันย์ชนก : “คือแบรนด์ SIRIVANNAVARI และแบรนด์ซัมซุงมีตัวอักษรที่เหมือนกันคือตัว S เราเลยดึงเชื่อมโยงมาในงานดีไซน์ โดยการนำลวดลายของตัว S มาวางและพลิกไปมา ทำให้เกิดเทคนิคที่เรียกว่า Flip กราฟิก พอเราพลิกไปพลิกมาก็ได้เป็นรูปตัวซี หรือตัว Z ค่ะ มันก็จะสัมพันธ์กับชื่อรุ่น Z Flip ซึ่งคอนเซ็ปต์ท่านหญิงทรงดีไซน์เอาทรงปริซึมเข้ามานำเสนอความเป็นโมเดิร์น ความทันสมัยให้ตรงกับผู้ใช้งานมือถือรุ่นนี้ โดยคอนเซ็ปต์ก็คือการสะท้อนถึงสไตล์ของผู้ใช้งาน
ซึ่งทางแบรนด์ SIRIVANNAVARI และแบรนด์ซัมซุงก็จะก้าวไปด้วยกันโดยผ่านรูปแบบของการดีไซน์ ตัวสีท่านหญิงก็ทรงบอกว่าผู้ใช้งานไม่ใช่ผู้หญิงอย่างเดียว ก็เลยลองเลือกสีที่แตกต่าง ก็เป็นสีชมพูและเป็นสีโทนฟ้า เพื่อให้สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีได้มีทางเลือกในการใช้งาน ถ้าพูดถึงเรื่องดีไซน์ DNA ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ท่านจะเน้นเรื่องของการทำกราฟิกค่ะ แล้วสัญลักษณ์ก็คือนกยูง อดเสริมไม่ได้คือต้องมีโลโก้นกยูงด้วย แต่ก็พยายามออกแบบมาให้ล้ำและโมเดิร์น”
อยากทราบว่าใช้เวลานานแค่ไหนในการทำ
คุณธันย์ชนก : “ตอนที่เริ่มเวิร์คกับทางซัมซุงคือกลางเดือนมกราคม เพื่อให้ทันเปิดตัวสิ้นเดือนมีนาคมค่ะ คือค่อนข้างใช้เวลา เอาตรงๆ เราได้ทำงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก เราค่อนข้างมืออาชีพมาก ก็มีเวิร์คกับทางกราฟิก และท่านหญิงก็ดีไซน์ ทางทีมกราฟิกของเราก็ทำงานค่อนข้างได้ดี ไม่ได้มีการติดขัดอะไร และนอกจากเคสแล้ว ที่ท่านหญิงทรงดีไซน์ก็จะมีภาพหน้าจอด้วย”
การทำงานต่างจากการออกแบบเสื้อผ้าอย่างไรบ้าง
คุณธันย์ชนก : “ก็ต่างพอสมควร เพราะว่าเราต้องนึกถึงรูปแบบที่ออกมาบนมือถือ ทั้งการใช้ของผู้ใช้งานมือถือต้องใช้ได้จริงด้วย รูปลักษณ์ก็ต้องโมเดิร์นด้วยเหมือนกัน โจทย์ก็คือต้องทันสมัย การเลือกวัสดุ เราก็ต้องหาอย่างอื่นมาทำ ท่านหญิงก็ทรงถามว่าถ้าเราทำแบบนี้ จะต้องใช้วัสดุอะไรมันถึงจะเบา วัสดุไหนที่ออกมาแล้วให้มู้ดแอนด์โทนที่ปริซึมออกมาสวยที่สุด ก็ซับซ้อนพอสมควร แต่ก็สนุกกับการทำงานกับทางซัมซุงค่ะ”
เหตุใด ซัมซุง ประเทศไทย นำเสนอชื่อแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ในโปรเจ็กต์นี้
คุณวิทยา : “คือจริงๆ แล้วในเรื่องของการนำเสนอ แน่นอนก็มีการเสนอชื่อแบรนด์ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทำไมถึงต้องเป็นแบรน์นี้ ก็เพราะว่าเรามองเห็นแบรนด์ของพระองค์ท่าน มีจริตของแบรนด์ที่ตรงกัน แบรนด์ SIRIVANNAVARI มีการทำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของการดีไซต์ ซึ่งจริงๆ มันคือ DNA ของการนำเสนอ แต่จะเป็นแบรนด์ไหนก็ต้องคิดกันว่าทำยังไงถึงจะเสริมมูลค่าให้กับแบรนด์ ให้กลายเป็นแรร์ไอเท็ม
แน่นอนเราก็จะเลือกจากแฟชั่นดีไซเนอร์ ดีไซเนอร์กระเป๋า ดีไซเนอร์เสื้อผ้า เราก็คิดว่าดีไซเนอร์เสื้อผ้าน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด มองดีไซเนอร์ของไทยก็มีอยู่เยอะมาก ซึ่งตอนที่เราเลือก เราก็ปวดหัวพอสมควร เพราะซัมซุงมีความระมัดระวัง และสิ่งที่ทำต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน และแน่นอนเราต้องไม่ทำให้แบรนด์ของพระองค์ท่านเสียหาย เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เพราะผมมองว่าเวลาพระองค์ท่านจะทำงานกับแบรนด์ไหน พระองค์ท่านต้องพิจารณามากพอสมควร ว่าทำแล้วจะเสริมคุณค่าและมูลค่าซึ่งกันและกันไหม”
ฟีดแบ็คของทางซัมซุง สำนักงานใหญ่ เมื่อได้เห็นงานดีไซน์
คุณวิทยา : “ทางสำนักงานใหญ่ต้องตรวจสอบก่อนที่จะทำเป็นเคสตัวอย่างออกมา ก็มีความพอใจมากตั้งแต่เรื่องของดีไซน์ จริงๆ ความตั้งใจของผู้บริหารจากต่างประเทศจะบินมาดูผลงานชิ้นนี้ในงานแฟชั่นโชว์ด้วย แต่โดนยกเลิกเพราะโควิด-19 ก็น่าเสียดายมากๆ ครับ และดูจากดีไซน์ที่คุณธันย์ชนกได้เล่าไป ก็มีการผลิตจากพลาสติกแบบพิเศษมีการเล่นลวดลาย สุดท้ายมันก็จบด้วยดีไซน์ที่ลงตัวมากๆ
ส่วนสีของโทรศัพท์เรามี 2 สีด้วยกัน เรามีสีดำกับสีม่วง ซึ่งเป็นสีที่กำลังมาแรงเลยของปีนี้ ดีไซน์พระองค์ท่านก็ออกแบบให้เป็น 2 สี โทรศัพท์สีม่วงก็ใช้สำหรับเคสสีชมพู ส่วนโทรศัพท์สีดำก็ใช้สำหรับเคสสีฟ้า มือถือที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ ดีไซน์ก็จะมีจำนวนจำกัดเพียง 200 เซ็ตเท่านั้นในประเทศไทย และมีวางจำหน่ายเฉพาะที่ Samsung Experience Store 10 สาขา”
บทสัมภาษณ์ : ฮานะ_แพรวดอทคอม
ภาพ : SIRIVANNAVARI BANGKOK , Samsung Thailand