3 สาวเซเลบริตี้ “แป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์” “เฟย์-พรปวีณ์ นีระสิงห์” และ “มีมี่-อานุลัก วงสุสิ” พวกเธอเป็นสาวสวยเก๋ที่ชอบเดินทางท่องโลก พร้อมกับ สไตล์การแต่งตัว ที่ไม่ธรรมดา เรียกว่าต้องไปให้สุดแล้วหยุดที่ความคูลเท่านั้นถึงจะนับว่าเป็นทริปที่คอมพลีท ซึ่งวันนี้พวกเธอจะมาเล่าให้ฟังถึงสไตล์การแต่งตัวให้เริ่ดปังในแบบฉบับของตัวเอง
แป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์
“แป้งไปเที่ยวบ่อยเกือบทุกเดือนค่ะ ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบอยู่นิ่งกับที่นานๆ ชอบให้ชีวิตแอ๊คทีฟ ซึ่งการเดินทางช่วยได้ แน่นอนว่าประเทศที่ชอบที่สุดคืออังกฤษ นอกจากเคยเรียนที่นั่น แป้งยังชอบอากาศ ชอบผู้คน เดินทางไปไหนมาไหนง่าย เป็นอีกฟีลที่ไม่มีในเมืองไทย

“สำหรับเรื่องแต่งตัว แป้งรู้สึกว่าช่วงหนาวยากสุด ไม่ใช่ว่าเลือกไม่ถูก แต่กลายเป็นว่าต่อให้เลือกแต่งข้างในยังไง ข้างนอกก็เป็นโค้ตหรือแจ็กเก็ตอยู่ดี จึงใช้วิธีขนชิ้นในไปน้อยๆ แล้วทุ่มเทกับตัวนอกอย่างแจ็กเก็ตกับโค้ต เพราะเป็นสิ่งที่คนเห็น แป้งจะไม่ใส่ซ้ำ ถ้าจำเป็น ยอมถอดออกให้เห็นชุดตัวในดีกว่า (หัวเราะ) ด้วยเหตุนี้แป้งจึงชอบไปเที่ยวซัมเมอร์มากกว่า ชอบให้ผิวแทนๆ ใส่กางเกงขาสั้นกับรองเท้าส้นสูงปรี๊ด ช่วงวินเทอร์ก็ต้องมีเฟอร์ บู๊ตยาวจัดเต็ม

“ของแต่งตัวที่ขาดไม่ได้และต้องพกไปด้วยทุกทริปคือสนีกเกอร์ แต่ไม่ชอบรองเท้าแบบเทรนเนอร์ที่ดูสไตล์กีฬา แป้งเลือกรองเท้าแบบสลิปออน เน้นโทนสีดำ เหตุเพราะซุ่มซ่ามมาก เคยซื้อสีขาวกับสีชมพูมา แต่ตอนนี้กลายเป็นสีอะไรไปแล้วก็ไม่รู้
“เวลาแต่งตัวชอบเน้นที่กระเป๋าและรองเท้าปังๆ โดยเลือกกระเป๋ากับรองเท้าเป็นหลักก่อน แล้วค่อยดูว่าชุดไหนที่เข้ากัน ชอบชิ้นที่มีซิกเนเจอร์ ใช้แล้วอย่างน้อยต้องรู้ว่าคือยี่ห้ออะไร เรียกว่าเป็นคนติดโลโก้จนเพื่อนแซว อ้าว…จ่ายตังค์ตั้งแพง แล้วทำไมไม่ให้ใครรู้ล่ะ (หัวเราะ)
“สมมติเดินทาง 7 วัน จะดูก่อนว่าแต่ละวันไปไหนบ้าง แล้วหาชุดที่เข้ากับสถานที่ โดยแพ็คแยกชุดแต่ละวันไว้ก่อน แล้วค่อยจัดรวมลงกระเป๋าอีกที ซึ่งช่วยให้ชีวิตในวันเที่ยวจริงง่ายขึ้นมาก บางทีเราแต่งตัวเสร็จแล้ว เพื่อนยังยืนงงอยู่เลยว่าจะใส่ชุดอะไร
“ปกติแป้งชอบกระเป๋าใบเล็ก แต่จะมีใบใหญ่อีกใบไว้ใส่ของ และมีอีกใบที่แป้งเรียกว่ากระเป๋าประทังชีวิตสำหรับบรรจุทุกอย่างในนั้น ตั้งแต่ยากันยุง ปลาสเตอร์ ยาทุกอย่าง เวลาเดินทางไปต่างประเทศต้องดูแลตัวเองมากกว่าอยู่เมืองไทย”
เฟย์-พรปวีณ์ นีระสิงห์
“เฟย์ชอบเดินทางทั้งแบบทริปใกล้ๆ และไกลๆ เรียกว่าถ้าไม่ติดว่ามีงาน ที่บ้านแทบจะไม่เห็นหน้ากันเลย (หัวเราะ) เดี๋ยวนี้การเดินทางง่ายขึ้นมาก สามารถจองผ่านออนไลน์ได้ทั้งหมด แม้จะจองนาทีสุดท้ายก็ตาม ยิ่งเวลาไปเที่ยวกับที่บ้าน เฟย์จะเป็นเหมือนหัวหน้าทัวร์ สนุกกับการเตรียมทุกอย่างตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มออกเดินทาง

“ประเทศที่ไปหลายครั้งแล้วไม่เบื่อขอยกให้ญี่ปุ่น แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง สถานที่ และผู้คนที่มีเสน่ห์น่าสนใจต่างกันไป อย่างเช่น โปรตุเกส โครเอเชีย คนที่นั่นน่ารัก ต้อนรับนักท่องเที่ยวดี อาหารก็ถูกปาก

“ถ้าไปกับครอบครัวมักจะเป็นการเที่ยวแบบลงเรือครูซ ล่องไปตามมหาสมุทรในแถบสแกนดิเนเวียน ได้ไปหลายประเทศในช่วง 12 วัน บางทีเมื่อวานเราอยู่ประเทศนี้ พอตื่นเช้ามากลายเป็นอีกประเทศแล้ว ตื่นเต้นดี อีกอย่างความที่ไม่มีสัญญาณใดๆ ทำให้ตัดตัวเราเองออกจากโซเชียลมีเดียทั้งหมดโดยปริยาย จึงได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างคุ้มค่า (ยิ้ม)

“เวลาไปเที่ยวทริปที่อากาศเย็น เฟย์ชอบใส่ชิ้นที่ทะมัดทะแมงและรัดกุม เช่น กางเกงหรือกระโปรงยาว ส่วนท่อนบนเป็นสเวตเตอร์และโค้ตจัดเต็ม รองเท้าที่เหมาะกับสถานการณ์ เช่น จะไปอะแลสกาก็ต้องเตรียมบู๊ตสำหรับลุยหิมะไว้ด้วย

“เทคนิคของเฟย์คือ ฟิตติ้งไว้ก่อน นอกจากทำให้ไม่เสียเวลาในการแต่งตัวแต่ละวันแล้ว ยังประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าเดินทางอีกด้วย สังเกตว่าทริปไหนที่เตรียมตัวไม่ทัน กระเป๋าจะหนักกว่าปกติ เพราะมักจะขนชุดเผื่อไปด้วยตลอด
“การได้ออกไปท่องเที่ยว สำหรับเฟย์เป็นเหมือนการเปิดประสบการณ์ ถ้าคุณไม่ได้ไปด้วยตัวเองก็จะไม่รู้ การไปเที่ยวไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือการเรียนรู้ที่จะให้เราได้เห็นอีกหลายมุมมองในโลกใบนี้”
มีมี่-อานุลัก วงสุสิ
“ความที่มีมี่ทำธุรกิจจิเวลรี่ที่ต้องดูแลตั้งแต่งานออกแบบ คุยกับช่าง ไปจนถึงพบปะลูกค้า จึงไม่ค่อยมีเวลาเดินทางมากนัก บางทริปกำหนดวันเดินทางไว้แล้ว แต่ดันตรงกับวันที่ลูกค้าอยากนัด จึงใช้วิธีเที่ยวทริปใกล้ๆ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ ส่วนมากไปแบบตัวเปล่า แล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่หมดที่โน่น (หัวเราะ)

“มีมี่ชอบแต่งตัวแนวเท่ๆ ชิคๆ เป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง จะแต่งแนวหวานหรือโป๊เปรี้ยวไม่ได้เลย แต่งเมื่อไหร่ดับ เพราะฉะนั้นเวลาไปต่างประเทศ มีมี่แต่งตัวตามอารมณ์และโอกาส ถ้าอยากใส่กางเกงยีนก็ใส่ บางอารมณ์อาจอยากใส่กระโปรงสั้น หรือบางครั้งอากาศร้อนจะตายแต่ใส่ถุงน่องก็มี (หัวเราะ)
“แบรนด์โปรดช่วงนี้บอกเลยว่า Fendi มาแรง อาจเพราะการดีไซน์ของเขาเป็นสไตล์ที่เราชอบ เรียบหรู ดูเท่ เขาเพิ่งเปลี่ยนสไตล์มาใช้โลโก้ FF กับเสื้อผ้าและแอ๊กเซสซอรี่ส์ด้วย ยิ่งชอบ เพราะคุ้นกับโลโก้ FF ที่เคยเห็นบนกระเป๋าคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก

“แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร สิ่งที่ต้องมีคือกระเป๋าสองขนาด ถ้าหิ้วขึ้นเครื่องชอบถือกระเป๋า Tote Bag ใบใหญ่หน่อย ใส่ของได้สารพัด แต่พอไปถึงที่หมายแล้ว มีมี่จะเปลี่ยนเป็นกระเป๋าใบเล็ก ถือง่ายๆ อย่าง ‘Fendi Peekaboo’ ไซส์เล็ก รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นใบนี้ใช้มาหลายปีแล้ว ตอนยังไม่รู้ราคารู้สึกว่าเหมาะกับเรามาก (ยิ้ม) แต่พอได้ยินราคาแล้ว อยากบอกว่าเราเหมาะกับกระเป๋าสีดำเรียบๆ ธรรมดา ไม่ต้องมีสีเงินก็ได้ (หัวเราะ) เพราะราคาใบนี้ 600,000-700,000 บาท เป็นกระเป๋าแฮนด์เมด ทำจากหนังงูไพทอน ชอบตรงที่ใส่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และพาสปอร์ตได้ครบ ไซส์เล็กกำลังดี มีช่องใส่ของสองฝั่ง เคยถือไปงานแกรนด์โอเพนนิ่ง Fendi ที่ออร์ชาร์ด สิงคโปร์ ทุกคนฮือฮามากที่เห็นเราถือ (ยิ้ม)

“พอมาถึงเรื่องรองเท้า ซึ่งสำคัญมากสำหรับการใส่เดินเที่ยว มีมี่มักเลือกใส่บู๊ต จะเป็นแบบยาวหรือสั้น แบบไม่มีส้นหรือมีส้นเล็กน้อยก็ได้ แต่ขอให้ใส่เดินง่าย ไม่ทรยศกัดเรา บางครั้งรองเท้าแพงๆ ก็กัดเราทั้งหน้า หลัง บน ล่าง จนไม่มีที่ว่างเลยก็มี รองเท้าบู๊ตคู่โปรดคือต้องมีสีสัน อย่างสีฟ้า สีเหลือง สีขาว เพราะถ้าใส่สีดำก็เหมือนรองเท้าทั่วไป สไตล์การแมตช์ของมีมี่คือใส่รองเท้าบู๊ตสีเหลือง แล้วเติมแอ๊กเซสซอรี่ส์ที่ห้อยกระเป๋าสีเหลือง หรือแมตช์กับผ้าคาดผม หมวก หรือเสื้อที่มีสีเหลืองแต่งแต้มอยู่นิดหนึ่งก็ดูสวยแล้ว

“อีกสองไอเท็มที่ต้องมีติดตัวเช่นกันคือ ผ้าพันคอ เพราะขี้หนาว ถ้าประเทศนั้นไม่หนาวมาก จะหยิบผ้าผืนเล็กๆ ทำด้วยซิลค์ติดไป ถ้าเป็นประเทศที่หนาวมาก อาจต้องมีส่วนผสมของวูล รวมทั้งสวมเสื้อเบลเซอร์ของ Chanel รุ่นที่เป็นผ้าทวีดผสมวูล ใส่แล้วอบอุ่น ตัวเดียวจบ
“ถ้าถามว่าการท่องเที่ยวให้อะไรชีวิต มีมี่คิดว่าการท่องเที่ยวเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีมาก ยิ่งถ้าได้ไปกับเพื่อนที่รู้ใจจะยิ่งดี เพราะเราเข้าใจกัน ชอบอะไรคล้ายๆ กัน เช่น อยากไปเที่ยว กิน หรือช็อปคล้ายๆ กัน ถ้าไปกับคนที่ไม่สนิทแล้วเกิดข้อขัดแย้งขึ้นมาจะทำให้เที่ยวไม่สนุก มีมี่จึงเลือกที่จะเดินทางไปกับเพื่อนสนิทเท่านั้น”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 942