เรียบแต่โก้ ! Bottega Veneta ไอเท็มหนังสาน คงเอกลักษณ์ และคลาสสิก หาใครเหมือน

account_circle

Bottega Veneta แบรนด์เครื่องหนัง คุณภาพระดับ ไฮเอนด์ จากดินแดนมักกะโรนี เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความคลาสสิก ความหรูหรา รวมถึงความสุขุม ที่หาใครเหมือน

 Bottega Veneta
The Cabat

ถ้าให้นึกถึงกระเป๋าหนังแท้ คุณภาพดี และมีซิกเนเจอร์เฉพาะตัว คงต้องนึกถึงแบรนด์ โบเตก้า เวเนต้า เป็นอันดับแรก เพราะนอกจากดีไซน์ที่มีความเรียบหรูแล้ว โบเตก้ายังเป็นไอเท็ม Ready to wear ที่หยิบใช้เมื่อไหร่ก็ได้ อีกทั้งยังมีความคงทน ใช้ง่าย ใช้ได้นาน ไม่มีเบื่อ คุ้มค่ากับการลงทุน และถ้าหากจะให้แนะนำ ก็คงต้องบอกว่า กระเป๋ารุ่น The Cabat ควรค่ากับการลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นรุ่นในตำนาน มีดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่โดดเด่น

Bottega Veneta Atelier

โบเตก้า เวเนต้า ได้ถือกำเนิดในโลกแฟชั่นจากฝีมือของ Michele Taddei และ Renzo Zengiaro ในปี 1966 เขาทั้งคู่ได้ตั้งโรงงานแรก ณ เมืองวิเซนซา (Vicenza) ประเทศอิตาลี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม และยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอิตาลี

 Bottega Veneta

 Bottega Veneta
The Intrecciato Microbutterfly

จากฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์และช่างฝีมือที่ใช้เทคนิคการสานหนังแบบ Intrecciato  บนไอเท็มของแบรนด์จึงทำให้ลวดลายนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของโบเตก้า และสร้างยอดขายถล่มทลายอย่างต่อเนื่องในยุค 7o’s และเพราะความพิถีพิถัน รวมถึงความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ในยุค 80’s โบเตก้า ได้กลายเป็นไอเท็มที่เหล่าคนดัง เซเลบริตี้ และนักแสดงฮอลลีวู้ดต่างหลงรัก และชื่นชอบเป็นอย่างมาก

 Bottega Veneta

แต่ในช่วงปี 1990 หลังจากที่ Renzo Zengiaro และ Michele Taddei เกษียณตัวเอง จึงทำให้กระแสการตอบรับที่ดีกลับเริ่มลดน้อยลง ถึงอย่างไรก็ตามในปี 2001 โบเตก้า เวเนต้า ถูกซื้อโดยบริษัท Kering (Gucci Group) ซึ่งแต่ละแบรนด์ในเครือนี้บอกเลยว่า เป็นระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่มีชื่อเสียงและยอดขายติดอันดับโลก เช่น Gucci, Saint Laurent, Alexander McQueen & McQ, Balenciaga, Stella McCartney, Brioni, Christopher Kane และ Puma อีกทั้งยังได้แต่งตั้ง Tomas Maier มาเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ประจำแบรนด์ในปี 2002 ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง นำความสำเร็จมาให้โบเตก้า เวเนต้า อีกครั้ง

Tomas Maier

ไม่เพียงแค่เขาจะทำแบรนด์ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ไมเออร์ยังได้ขยายแฟล็กชิพสโตร์ไปในหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น ลอนดอน ปารีส ร่วมถึง กรุงเทพฯ ในประเทศไทย อีกทั้งยังครอบคลุมทวีปยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย อเมริกาเหนือและใต้อีกด้วย

The Lauren 1980
The Palio Fringe Tote คอลเลคชั่น FW18
The Palio Fringe Messenger FW18
The BV Luna

“When your own initials are enough,” (เมื่อคุณมีชื่อย่อของคุณเองก็เพียงพอแล้ว) สโลแกนของแบรนด์ที่สื่อถึงคำปรัชญาที่ว่า เรามีความแตกต่างและความมั่นใจ เพราะเราไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เราไม่เน้นความฟู่ฟ่า แต่เราใส่ความปราณีตลงไปในสินค้าของเราทุกชิ้น ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่โบเตก้าจะครองใจใครหลายๆ คน

The new Tambura FW18
The small Olimpia FW18
The iconic Cabat

The MI-NY

ซึ่งลวดลายการถักหนังแบบ Intrecciato นี่หละที่เปรียบเหมือนชื่อย่อของแบรนด์ เพราะหากลองสังเกตจะพบว่า โบเตก้า เวเนต้า ไม่มีชื่อแบรนด์ในตัวสินค้าเหมือนกับแบรนด์อื่นๆ เลย แต่หากถามว่า โบเตก้า เคยลองใส่ชื่อแบรนด์ลงในไอเท็มของพวกเขาไหม บอกเลยว่าใช่ แต่นั่นทำให้ความเป็นตัวตนของแบรนด์หายไป ซึ่งก็เป็นก่อนที่ Tomas Maier จะเข้ามา

ในช่วงฤดูร้อนปี 2006 โบเตก้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสินค้า ที่เปรียบเสมือนเป็นงานศิลปะ  เป็นสินค้าหัตถกรรม เป็นงานฝีมือที่เป็นวิถีดั้งเดิมของแบรนด์ โบเตก้า จึงได้เปิดโรงเรียน La Scuola dei Maestri Pellettieri di Bottega Veneta เพื่อฝึกอบรมและสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่สนใจจะเป็นช่างฝีมือ ทั้งการทำแพทเทิร์น การฟอกหนัง การสานหนังแบบ Intrecciato ลายซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ซึ่งหนึ่งคอร์ส ใช้ระยะเวลา 3 ปี และนักเรียนยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์อีกด้วย

PACIFIC INTRECCIATO NAPPA BRACELET
The BV Checker Slip-On

โบเตก้า เวเนต้า ไม่ได้มีเพียงแค่กระเป๋า แต่ยังมีสินค้าอื่นๆ อีกด้วยเช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ น้ำหอม อีกทั้งยังแตกไลน์ไปยังเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน แน่นอนว่าไมเออร์ยังได้นำเทคนิคการการถักหนังของแบรนด์ใส่ในสินค้าเหล่านี้ด้วย

ซึ่งในไลน์ของเสื้อผ้านั้น ไมเออร์ ได้วางแผนการขาย โดยออกแบบคอลเล็คชั่นขนาดย่อมเพื่อทดลองขายก่อนนำขึ้นโชว์บนรันเวย์ และออกคอลเล็คชั่นเต็ม เพื่อดูแนวโน้มว่าทางการตลาดว่าจะออกมาในทิศทางใดในปี 2006

ปัจจุบัน มีการแข่งขันในวงการอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่หลายๆ แบรนด์ต้องการสร้างเอกลักษณ์ และความเป็นตัวตน เพื่อให้ผู้คนจดจำ แต่สำหรับเโบเตก้า ดูเหมือนจะไม่ต้องปรับเปลี่ยน หรือลงแรงอะไรมากมาย เพราะตำนานก็ยังคงเป็นตำนาน

ภาพและที่มา : www.bottegaveneta.com, bottegaveneta

 

 

 

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up