ตรวจสุขภาพร่างกายแบบ Anti-Aging คืออะไร? ต่างจากตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร

ตรวจสุขภาพร่างกายแบบ Anti-Aging คืออะไร? ต่างจากตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร

Alternative Textaccount_circle
ตรวจสุขภาพร่างกายแบบ Anti-Aging คืออะไร? ต่างจากตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร
ตรวจสุขภาพร่างกายแบบ Anti-Aging คืออะไร? ต่างจากตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร

คิดว่าตัวเองดูแลสุขภาพร่างกายดีหรือยัง? เพราะสุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเรา อยากได้สุขภาพดี ต้องดูแลร่างกายให้ดี ช่วงต้นปีควรมาตรวจสุขภาพประจำปีกัน เพราะในแต่ละปีเราใช้ร่างกายกันหักโหม อยากตอบแทนร่างกายให้อยู่กับเราไปนานๆ ก็ต้องบำรุงรักษากันหน่อย

และในปัจจุบันนอกจากจะตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปแล้ว บางคนนั้นมีการตรวจสุขภาพในแบบ Anti-Aging เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการตรวจทั้ง 2 แบบมีการตรวจเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง การตรวจสุขภาพทั่วไป เป็นการตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย ว่ามีแนวโน้มหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอะไรบ้าง หรือมีโรคเกิดขึ้นแล้วค่อยทำการรักษา

แต่การตรวจทาง Anti-Aging เป็นการตรวจหาความผิดปกติก่อนที่จะเกิดโรค เพียงแค่มีอาการหรือความเสื่อมเกิดขึ้น เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง นอนไม่หลับ ความจำแย่ลง หรือสมรรถภาพทางเพศไม่ดีเหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดโรคก่อนแล้วค่อยมาตรวจ หรือไม่มีอาการอะไรก็สามารถมาตรวจได้ เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพเชิงรุก จะมีการตรวจลึกถึงระดับเซลล์ เช่น ตรวจระดับสารเคมี สารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ฮอร์โมน ตรวจดูสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย เป็นต้น ซึ่งจะทำให้สามารถค้นพบสาเหตุของอาการเสื่อมหรือความชราได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะเกิดโรคหรือมีความผิดปกติในร่างกาย และยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องการตรวจยีน การตรวจยีนเป็นหนึ่งในการตรวจแบบ Anti Aging เป็นการตรวจดูรหัสพันธุกรรมหรือ DNA ที่ประกอบมาเป็นร่างกายแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถใช้บ่งเอกลักษณ์ตัวบุคคลได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บอกข้อมูลด้านสุขภาพได้ในหลายแง่ด้วยกัน ได้แก่

  • ความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง สมองเสื่อม เป็นต้น
  • การตอบสนองต่อยา โอกาสในการแพ้ยา การเกิดผลข้างเคียง
  • ช่วยการวางแผนคัดกรองโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพื่อการวางแผนครอบครัวได้
  • การวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมที่วินิจฉัยได้ยาก
  • ปัจจัยทางพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพ

ซึ่งข้อมูลด้านยีนส์หรือพันธุกรรม สามารถนำมาใช้ประกอบกับการตรวจสุขภาพด้านอื่นๆ ทำให้แพทย์ได้ข้อมูลที่ตรงจุด ช่วยในการวางแผนดูแลสุขภาพ และเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค วางแผนการดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ แนะนำว่าควรตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไป และการตรวจแบบ Anti-Aging ทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน เนื่องจากเป็นการตรวจคนละแบบกัน ไม่สามารถทดแทนกันได้ ซึ่งการนำข้อมูลทั้ง 2 ด้านมาประกอบกับ ก็จะยิ่งช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อการมีสุขภาพดีและอายุที่ยืนยาว

ข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Addlife Total Check Up Center ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)
ภาพ: Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up