แพทย์เตือน น้ำตาลในเลือดสูง หนึ่งในสาเหตุที่มีอาการปลายนิ้วชา พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน จะส่งผลเสียร้ายแรงได้ในอนาคต ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ในปัจจุบัน สังคมไทยการใช้ชีวิตมีความตึงเครียด เร่งรีบ ความกดดันต่างๆ และสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ ทำให้คนไทยเน้นอาหารการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพเป็นหลัก โดยเฉพาะอาหารที่มีรสชาติหวาน ซึ่งสถิติในปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยมีผู้ที่เป็นเบาหวาน 4.4 ล้านคน มากขึ้นทุกช่วงอายุ มากเป็นอันดับ 4 รองจาก จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ที่น่าเป็นห่วงพบในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงาน
‘น้ำตาลในเลือดสูง‘ หนึ่งในสาเหตุอาการปลายนิ้วชา จะส่งผลร้ายแรงในอนาคตอย่างไร

โรคเบาหวานมี 3 ประเภท คือ
1. เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้
2. เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้ออินซูลิน
3. เบาหวานขณะตั้งครรภ์
นอกจากโรคเบาหวานทั้ง 3 ประเภทแล้วยังมีโรคเบาหวานที่พบได้ไม่บ่อย อย่างโรคเบาหวานที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือแบบโมโนเจนิก อีกทั้งยังมีโรคเบาหวานจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การใช้ยา หรือเกิดจากโรคของตับอ่อนอักเสบ หากผู้ป่วยเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสูงไม่ดีพอ ก็อาจจะเป็นต้นเหตุของโรคแทรกซ้อนต่างๆ ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้
ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจเกิดภาวะเสียหายกับเส้นประสาทบริเวณมือและเท้า นำไปสู่อาการชาปลายนิ้วบริเวณนิ้วมือ หรือนิ้วเท้าได้ ซึ่งพบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน

วิธีการป้องกันรักษาภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน สามารถทำได้ คือ
- การควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- รับการตรวจปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เช่น ไขมันคลอเลสเตอรอล ไขมันไตรกลีเซอไรด์
- งดการสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติ ในระหว่างการรักษาโรค ควรพบแพทย์โดยด่วน
ข้อมูล : โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ