โรคผมร่วงเป็นหย่อม

รู้จัก “โรคผมร่วงเป็นหย่อม” ที่ภรรยา ‘วิล สมิธ’ ถูกล้อเลียน

Alternative Textaccount_circle
โรคผมร่วงเป็นหย่อม
โรคผมร่วงเป็นหย่อม

หลังจากเกิดเหตุการณ์ทอล์กออฟเดอะทาวน์ในงานประกาศรางวัลออสการ์ปีนี้ (2022) ที่ทาง Chris Rock โดน Will Smith ตบหน้าป้าบใหญ่บนเวทีออสการ์ เนื่องจาก Chris Rock ยิงมุขตลกที่ไม่ตลกเรื่อง โรคผมร่วงเป็นหย่อม ที่ Jada Pinkett Smith ภรรยา Will Smith ต้องเผชิญกับอาการผมร่วงมาตั้งแต่กลางปี 2021 ซึ่งทำให้ต่อมาเธอได้ตัดสินใจโกนผม และโพสต์รูปผ่านอินสตาแกรมแจงเหตุผลที่ต้องโกนผมหมดศีรษะ เพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเธอไปผ่าตัดสมองมา

รู้จัก “โรคผมร่วงเป็นหย่อม” ที่ภรรยา ‘วิล สมิธ’ ถูกล้อเลียน

ซึ่งด้วยเหตุนี้ เราจึงขอพามารู้จักกับ Alopecia Areata หรือโรคผมร่วงเป็นหย่อม เป็นโรคที่เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ไปทำลายต่อมรากผมจนทำให้ผมร่วง โดยอาการอาจเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น คิ้ว ขนตา หนวดเครา หรือขนรักแร้ เป็นต้น โรคนี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่มักเกิดกับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ซึ่งปริมาณผมหรือขนที่ร่วงและที่งอกขึ้นมาใหม่ของผู้ป่วยแต่ละรายนั้นจะแตกต่างกันออกไป และในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แต่ก็มีการรักษาที่ช่วยให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ได้เร็วและป้องกันการหลุดร่วงในอนาคต

โรค ผมร่วง เป็นหย่อม

อาการของโรคผมร่วงเป็นหย่อม

จะมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ โดยทั่วไปบริเวณที่ผมร่วงจะมีลักษณะเป็นวงกลมเท่าเหรียญขนาดใหญ่ อาจมีอาการคันหรือมีผื่นแดงขึ้นบริเวณที่ผมร่วงด้วยแต่ก็พบได้น้อย หรืออาจมีขนร่วงตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ขนตา คิ้ว หนวดเครา หรือขนตามแขนขา เป็นต้น

ทั้งนี้ ขนและผมที่ร่วงนั้นจะงอกขึ้นใหม่ได้เองภายใน 3-4 เดือน แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจไม่งอกกลับขึ้นมาอีกเลย และอาการผมร่วงเป็นหย่อมอาจหายไปและกลับมาเป็นได้อีก ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและไม่สามารถคาดเดาการเกิดได้ นอกจากผมร่วงเป็นหย่อมแล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการผมร่วงทั้งศีรษะ (Alopecia Totalis) หรือเส้นขนตามร่างกายหลุดร่วงไปทั้งหมดด้วย (Alopecia Universalis)

นอกจากนี้ โรค Alopecia Areata อาจทำให้เกิดอาการที่เล็บได้ แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ซึ่งเล็บจะมีความผิดปกติ เช่น เล็บขรุขระ เล็บเปราะ หรือมีจุดแดงบริเวณโคนเล็บ เป็นต้น

สาเหตุของโรคผมร่วงเป็นหย่อม

เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยความผิดปกตินี้อาจสร้างความเสียหายต่อรูขุมขน จนทำให้รูขุมขนมีขนาดเล็กลงและไม่สามารถผลิตเส้นผมขึ้นมาได้ จึงเกิดเป็นอาการผมร่วง ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกช่วงวัย

แม้สาเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานผิดพลาดนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ เช่น

  • ความผิดปกติทางพันธุกรรม อย่างกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม
  • มีประวัติคนในครอบครัวเคยป่วยเป็นโรคนี้ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเบาหวานประเภทที่ 1 โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ โรคด่างขาว โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือภาวะลำไส้เป็นแผล (Ulcerative Colitis) เป็นต้น
  • การเจ็บป่วยอื่นๆ อย่างการติดเชื้อไวรัส
  • การได้รับยาบางชนิด
  • ความเครียด

การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อม

แพทย์สามารถวินิจฉัยอาการของโรคนี้ได้โดยตรวจดูหนังศีรษะตรงที่ผมร่วง และตัวอย่างเส้นผมในบริเวณที่เกิดอาการ รวมทั้งอาจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้ด้วยวิธีการ ดังนี้

  • ตรวจชิ้นเนื้อหนังศีรษะ โดยนำตัวอย่างผิวหนังบริเวณที่เกิดอาการไปตรวจด้วยกล้องจุลทัศน์ เพื่อหาสาเหตุของอาการผมร่วง
  • ตรวจเลือด แพทย์อาจตรวจเลือดเพื่อดูความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ โดยวิธีนี้สามารถบอกได้ถึงปริมาณสารต่างๆ ที่อยู่ภายในเลือด เช่น ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ปริมาณโปรตีนที่บ่งชี้การอักเสบ และปริมาณธาตุเหล็ก เป็นต้น

การรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม

ปัจจุบันในทางการแพทย์ยังไม่สามารถรักษาโรค Alopecia Areata ได้ แต่เบื้องต้นแพทย์อาจแนะนำให้รอผมงอกขึ้นมาใหม่เอง ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพราะปกติแล้วผมของผู้ป่วยจะงอกกลับขึ้นมาใหม่ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องรักษา อีกทั้งโรคนี้ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม มีบางวิธีที่ช่วยให้ผมที่ร่วงไปงอกกลับขึ้นมาใหม่เร็วกว่าวิธีตามธรรมชาติ ดังนี้

  • การใช้สเตียรอยด์
    สเตียรอยด์จะยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างความเสียหายแก่รูขุมขน และทำให้เส้นผมสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งการใช้สเตียรอยด์มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบฉีดซึ่งได้ผลดีในกรณีที่ผมร่วงเป็นบริเวณไม่กว้างนัก และแบบทาซึ่งเห็นผลช้า และอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือน โดยการใช้ยาชนิดนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
  • การใช้ยาปลูกผม
    การรักษาด้วยวิธีการนี้มีโอกาสสำเร็จน้อย โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล แต่หากใช้ยาปลูกผมมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ควรหยุดใช้ยาและใช้วิธีอื่นรักษาแทน
  • การทำภูมิคุ้มกันบำบัด
    การทำภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นการให้สารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่ผิวหนังลงบนบริเวณที่ผมร่วง เพื่อทำให้เกิดการอักเสบที่จะนำไปสู่การกระตุ้นให้ผมกลับมางอกขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง แต่วิธีการนี้มีผลข้างเคียงที่อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังชนิดอื่นตามมาได้
  • วิธีการอื่น ๆ
    ผู้ป่วยอาจรับประทานอาหารเสริมจำพวกวิตามินหรือสมุนไพร รักษาโดยใช้น้ำมันหอมระเหยจากพืช หรือรับการฝังเข็ม ซึ่งอาจช่วยให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาทางเลือกเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าจะช่วยรักษาอาการผมร่วงหรือทำให้อาการดีขึ้นได้ ดังนั้น หากต้องการใช้การรักษาทางเลือกใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ให้ถี่ถ้วนก่อนเสมอ

ภาวะแทรกซ้อนของโรคผมร่วงเป็นหย่อม

  • อาการทางร่างกาย อาจเสี่ยงเป็นโรคทางภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ โรคด่างขาว หรือโรคโลหิตจาง เป็นต้น
  • อาการทางจิตใจ อาจเกิดความเครียด รู้สึกแปลกแยก หรืออาจเป็นโรคซึมเศร้าได้

การป้องกันโรคผมร่วงเป็นหย่อม

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดป้องกันโรค Alopecia Areata ได้ แต่สามารถรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นและทำให้ผมงอกกลับมาใหม่ให้เร็วที่สุด โดยผู้ป่วยควรดูแลตนเองและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมา รวมทั้งคนทั่วไปก็อาจหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคนี้ เช่น

  • ผ่อนคลายความเครียด เพราะความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคได้
  • เลือกกินอาหารที่มีสารบำรุงเส้นผม เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และธาตุสังกะสี เป็นต้น
  • ใส่วิก สวมหมวก หรือทาครีมกันแดดบริเวณหนังศีรษะที่เกิดอาการ เพื่อป้องกันแสงแดดทำอันตรายต่อหนังศีรษะ
  • สวมแว่นกันแดดในกรณีที่โรคนี้ส่งผลให้ขนตาร่วง เพราะอาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตาได้เนื่องจากไม่มีขนตาคอยป้องกัน

ข้อมูล : www.pobpad.com
ภาพ : Pexel 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ป้าบเข้าให้! วิลล์ สมิธ ตบหน้า คริส ร็อก หลังล้อเลียนภรรยาบนเวที Oscars

คุณหมอชาวญี่ปุ่นแนะ ผมร่วงหนัก เพราะสระผมผิดวิธีหรือเปล่า? มาดูวิธีที่ถูกกัน

แชร์วิธี ป้องกันผมร่วง มากกว่าปกติ จนแอบคิดว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า

แพทย์แนะอย่าวิตก กรณีรักษาโควิด-19 หายแล้ว แต่เกิด “ผมร่วง” หลุดเป็นกระจุก

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up