ชุดตรวจโควิด-19

ไทยทำได้! ผลิต ชุดตรวจโควิด-19 รู้ผลเร็วไม่เกิน 45 นาที ต้นทุนไม่ถึง 500 บาท

Alternative Textaccount_circle
ชุดตรวจโควิด-19
ชุดตรวจโควิด-19

สถาบันวิทยสิริเมธี ศิริราช ปตท. พัฒนาชุดตรวจไวรัสโคโรนา 2019 รู้ผลเร็ว 30-45 นาที ต้นทุนถูก 475 บาท ใช้อุปกรณ์ในไทยทั้งหมด ช่วยให้ไทยรับมือกับการระบาดของไวรัสระยะที่ 3 ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเร่งผลิตชุดทดสอบ ขณะนี้มีสต็อกชุดตรวจประมาณ 10,000 ชุด และสามารถผลิตออกมาได้วันละ 4,000 ชุดต่อวัน

เมื่อวานนี้ (17 มีนาคม 2563) นายจำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) ร่วมแถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั่วโลกในขณะนี้ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายในเร็ววัน สถาบันวิทยสิริเมธี จึงได้ใช้ศักยภาพและองค์ความรู้ของบุคลากรสถาบันฯ เร่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ให้สามารถตรวจโรคได้ภายใน 30-45 นาที รวดเร็วกว่าวิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากกลุ่ม ปตท. และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

นอกจากนั้น ยังได้รับความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจาก สถาบัน Broad Institute, Massachusetts Institute of Technology and Harvard, USA และความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ที่จะเร่งพัฒนาทดสอบความแม่นยำ ตลอดจนพัฒนารูปแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยลดระยะเวลาการวินิจฉัยโรค ด้วยต้นทุนต่ำ ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย สนับสนุนให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

และ นายชยสิทธิ์ อุตมาภินันท์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล สถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า สถาบันฯ ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ภาควิชาจุลชีววิทยา เริ่มทดลองกับตัวอย่างจากคลินิกแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมแผนผลิตชุดทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการในขั้นตอน Clinical Trial ในเดือนเมษายนนี้

“ขณะนี้มีสต็อกชุดตรวจประมาณ 10,000 ชุด และสามารถผลิตออกมาได้วันละ 4,000 ชุดต่อวัน แต่ต้องรอการประกาศยืนยันผลการทดสอบการใช้ และการยืนยันจาก รพ.ศิริราชอีกครั้ง หากได้รับการประกาศใช้แล้ว เชื่อว่า จะสามารถเร่งผลิตออกมาใช้ได้ต่อไป”

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า สถาบันฯ ขอขอบคุณ กลุ่มปตท.และธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้สนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งโครงการ ExpresSo ซึ่งเป็นหน่วยงานนวัตกรรมของปตท.ที่สนับสนุนบุคลากรเข้าร่วมดำเนินการเพื่อเตรียมแนวทางในการขยายชุดทดสอบไปยังโรงพยาบาลในภาคีเครือข่ายอย่างเร่งด่วน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดตรวจโรคดังกล่าวจะเพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัยเชื้อไวรัสนี้ของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศไทยได้อย่างทันท่วงที และทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงในเร็ววัน

สำหรับชุดตรวจ COVID-19 ใช้เทคนิค CRISPR Diagnostic เพื่อลดเวลาที่ต้องใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรค ซึ่งปัจจุบันต้องทำในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ใช้เวลานาน ให้สามารถตรวจวินิจฉัยได้รวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้น และต้นทุนในการตรวจต่ำที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคนี้ของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งสถาบันวิทยสิริเมธีเร่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัย COVID-19 โดยความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจาก สถาบัน Broad Institute, Massachusetts Institute of Technology and Harvard, USA และความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ในการวิจัยเพื่อพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้สามารถตรวจโรคได้ภายใน 30 – 45 นาที ซึ่งรวดเร็วกว่าวิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้เวลา 4 – 6 ชั่วโมงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจาก กลุ่มปตท. และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ทั้งนี้ผลการผลิตและทดสอบชุดตรวจวินิจฉัย COVID-19 ในห้องปฏิบัติการ โดยคณะนักวิจัยของ VISTEC ได้ผลดังนี้

1.ลอง VISTEC Test Kit Diagnostics เพื่อตรวจจับไวรัส COVID-19 ได้ผลดีมาก การตรวจวินิจฉัยรวดเร็วเหมือนการทดสอบหญิงตั้งครรภ์

2.วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2563 มีการทดสอบโดยการใช้เชื้อไวรัส COVID-19 ของจริงที่รพ.ศิริราช

3. ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจัดทำชุดอุปกรณ์ตรวจวัดทุกอย่าง ในเมืองไทยประมาณ 15 US$ (ประมาณ 475 บาท)

สรุปคือ

1. VISTEC สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูงผลิตชุดตรวจจับไวรัส COVID-19 ได้สำเร็จในเวลาอันสั้นเป็นคณะแรกๆ ของโลก

2. ชุดตรวจวัดนี้ เมื่อผลิตเป็นจำนวนมากจะช่วยให้ไทยรับมือกับการระบาดของไวรัสระยะที่ 3 ได้ดียิ่งขึ้น เพราะมีราคาถูกมาก ใช้เวลาตรวจสั้น มีความไวสูง และผลิตได้เองภายในประเทศ

3. VISTEC/ปตท. พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับหน่วยงานของรัฐนำไปผลิตเป็นชุดตรวจในปริมาณมากๆ


ขอบคุณข้อมูล : hfocus.org
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แพทย์ชี้เหตุผลที่ คนอ้วน จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ง่ายที่สุด

ไขข้อสงสัยนอกจากแอลกอฮอล์ “น้ำสบู่” ทำลายไวรัส โควิด-19 ได้หรือไม่?

ทางเลือกใหม่ นวัตกรรมน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส สูตรปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อผิวแพ้ง่าย

“หมอเอ้ก” แจง หน้ากากอนามัย ต้องใส่ทุกคนไหม และหน้ากากผ้าป้องกันได้หรือไม่

เตือน! เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ต้องเข้มข้นเกิน 70% ถึงฆ่าเชื้อ COVID-19 ได้

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up