JIM MAKEUP สอนทริคแต่งหน้า 3 สไตล์ Glass Skin, Soft Matt และ Fashion Look 

JIM MAKEUP เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง อันดับต้นๆ ของไทย สอน เทคนิคแต่งหน้า 3 ลุค 3 สไตล์ ทั้ง Glass Skin, Soft Matt และ Fashion Look

ปลายปีนี้เทรนด์การแต่งหน้าเดินทางไปถึงไหนแล้วนะ อะไรยังอยู่ อะไรกำลังมาแรง และเพื่อให้สาวๆ ได้สนุกกับการแต่งหน้าและไม่ตกเทรนด์ เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดังของเมืองไทย อย่าง “จิม-ปรีชา ดวงเพชร” หรือ “JIM MAKEUP” ได้มาสอนเทคนิคแต่งหน้าให้สวยโดนใจ ถึง 3 ลุค 3 สไตล์ ทั้ง Glass Skin Look, Soft Matt Look และ Fashion Look ด้วยผลิตภัณฑ์ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น (ARTISTRY STUDIO SHANGHAI EDITION) นอกจากนี้ยังแถมกลเม็ดเคล็ดลับต่างๆ ที่จะทำให้สาวๆ เพิ่มความมั่นใจ พร้อมครีเอทลุคใหม่ๆ ในทุกวัน

เทคนิคสุดปังจาก JIM MAKEUP ที่ทุกคนสามารถเอาไปมิกซ์แอนด์แมตช์ได้กับการแต่งหน้าทุกแบบ โดยแอบขอแทรก 4 เทรนด์การแต่งหน้าที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ไปใน 3 ลุคที่คุณจิมจะมาสอน ได้แก่ เทรนด์การแต่งหน้าแบบ Glass Skin โชว์งานผิว, เทรนด์ Red Lips หรือการทาปากด้วยสีแดงในแบบต่างๆ เนื่องจากสีแดงเป็นสีที่อยู่กับการแต่งหน้ามาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะทาตอนไหนก็อินเทรนด์เสมอ, เทรนด์การแต่งตาโดยลากหางตาให้ยาวขึ้นด้วยโทนสีน้ำตาลอบอุ่น และเทรนด์การแต่งหน้าแบบคัลเลอร์ฟูลเพิ่มสีสันด้วยสีโทนฟ้าและน้ำเงิน ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย !

ลุคที่ 1 ลุคสวยธรรมชาติเผยผิวใสแบบ Glass Skin Look

สำหรับลุคแรกเป็นลุคที่เหมาะกับการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน เป็นการแต่งโดยเน้นความเป็นธรรมชาติ มองแล้วสบายตา เผยผิวสวยใส แบบ Makeup No Makeup

1. เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการลงไพรเมอร์ โดยเลือกใช้ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น 2 อิน 1 เพอร์เฟ็คติ้ง ไพรเมอร์ สูตรโกลว์ ฟินิช ไพรเมอร์ เพื่อปรับผิวให้ดูสม่ำเสมอ เบลอรูขุมขนให้ดูเรียบเนียน และสร้างผิวฉ่ำโกลว์ โดยสำหรับคนผิวแห้งจะเหมาะกับสูตรนี้เป็นพิเศษ เพราะลงแล้วจะทำให้ผิวใส มีความดิวอี้แบบ กลาสสกิน แต่สำหรับคนผิวมันถ้าอยากมีผิวใสกลาสสกินก็สามารถใช้ได้เช่นกัน โดยผสม อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น 2 อิน 1 เพอร์เฟ็คติ้ง ไพรเมอร์ สูตรแมตต์ ฟินิช ไพรเมอร์ เพื่อเพิ่มความแมตต์ให้ผิว ไม่ให้มันจนเกินไป
2. จากนั้นเก็บผิวให้เนียนกริบด้วยคุชชั่น โดยเลือกให้สีของคุชชั่นตรงกับสีผิวหน้า โดยสามารถทดลองสีบริเวณหลังมือก่อนได้เพราะสีใกล้เคียงกับสีผิวหน้าที่สุด แต่สำหรับคนที่มีสีผิวหน้าที่เข้มกว่าตัว ก็สามารถใช้คุชชั่นสีที่สว่างกว่าผิวเล็กน้อยได้ เพื่อปรับสีผิวให้สมดุล
3. เพิ่มความเรียบเนียนไร้ที่ติยิ่งขึ้นด้วยคอนซีลเลอร์ ด้วยทริคพิเศษคือการใช้แปรงแท็บคอนซีลเลอร์ จะช่วยทำให้คอนซีลเลอร์ติดทนกับผิวได้นานขึ้น และลงแป้งฝุ่นเพื่อเป็นการเซ็ตเครื่องสำอางที่ลงไปก่อนหน้านี้
4. เติมเต็มคิ้วตามทรงคิ้วเดิม โดยไม่ต้องวาดใหม่ สาวๆ คนไหนยังเขียนคิ้วไม่เก่งก็ไม่ต้องกังวลไปว่าคิ้วจะเท่ากันหรือไม่ แค่ทำให้ใกล้เคียงกันก็พอเพื่อความเป็นธรรมชาติ
5. เมื่อเตรียมผิวกลาสสกินเสร็จแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนการแต่งแต้มสีสัน เพื่อทำให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นโดยเลือกใช้ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ซอฟท์ แอนด์ ซิลค์กี้ อาย & ชีค ป๊อป ทรีโอ ที่โดดเด่นด้วยแพ็คเกจตลับแม่เหล็ก สามารถสลับเซ็ตสีที่ถูกใจได้ตามใจชอบ เลือกใช้ไฮไลท์มาปัดบริเวณสันจมูกและโหนกแก้มเพื่อทำให้หน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
6. เติมความละมุนให้ดวงตาด้วยการการเติมอายแชโดว์จากตลับเดิม ซึ่งสำหรับลุคนี้เลือกเป็นเซ็ตสีเซี่ยงไฮ้ นู้ดส์ ที่เน้นเป็นโทนสีคอรัล โดยมีทริคคือหากทาตาบนให้เงยหน้าขึ้นเพื่อให้เปลือกตาเปิดและทาได้ง่ายขึ้น โดยเลือกใช้สีที่เข้มกว่าทาที่เปลือกตาทั่วๆ หลังจากนั้นใช้สีที่อ่อนกว่าทาบริเวณตรงกลางตาเพื่อให้รับกับแสงที่ตกกระทบตรงดวงตา หลังจากนั้นใช้สีที่เข้มทาตรงขอบตาบริเวณไลน์เนอร์
7. ปัดพวงแก้มจากตลับเดิมอีกครั้ง โดยเลือกสีที่เข้มที่สุด โดยใช้เทคนิคการแตะแบบแป้งฝุ่น ปัดเบาๆ โดยอย่าปัดต่ำกว่าบริเวณจมูกเพราะจะทำให้ดูแก้มห้อย มีตลับเดียวก็อุ่นใจ สวยครบจบในหนึ่งตลับ
8. กรีดตาคมสวยด้วยอายไลน์เนอร์ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ลิควิด เพ็น ป๊อป อายไลน์เนอร์ ที่ใช้ได้ง่าย เพราะหมึกจะค่อยๆ ไหลออก ไม่แห้งไป ไม่เหลวไป โดยเลือกใช้สีน้ำตาลเพิ่มความเป็นธรรมชาติ ค่อยๆ สะกิดลากทีละนิดให้เชื่อมกัน หลังจากนั้นปัดมาสคาร่าเพิ่มความยาวและความหนาให้ขนตา เพื่อเพิ่มให้ดวงตากลมสวยน่ามอง
9. เติมเรียวปากให้สดใสด้วย อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ไลท์ อัพ ซิลค์กี้ แมตต์ ลิป คัลเลอร์ โดย
   เทรนด์ลิปตอนนี้คือต้องไม่แมตต์ไป และมีความวาวแบบพอดี โดยเลือกใช้สีเชอร์รี่ เรด เริ่มจากทาด้านในก่อนและค่อยๆ เกลี่ยออกมาด้านนอกจนเลยริมฝีปากออกมา เพื่อให้ปากดูอวบอิ่ม น่าจุ๊บมากขึ้น

 

ลุคที่ 2 ลุคสวยเป๊ะอวดผิวเรียบเนียนดุจกำมะหยี่แบบ Soft Matt

ลุคที่สองจะเป็นลุคที่บอกได้เลยว่าพลาดไม่ได้ เพราะเป็นลุคที่เบสิกแต่ใช้ได้กับทุกงาน ไม่ว่าจะแต่งไปเที่ยว แต่งไปทำงานหรือแต่งไปงานเลี้ยงก็เอาอยู่

1. ลงไพรเมอร์ สูตรที่ควบคุมความมันบนใบหน้าหลังจากนั้นลงรองพื้นสูตรคุมมันเพื่อให้ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น บางๆ ทั่วหน้า โดยอย่าลงบริเวณจมูกปริมาณมากไป เพราะจะทำให้เป็นคราบได้ง่าย
2. เก็บผิวให้กริบด้วยคอนซีลเลอร์ เลือกใช้สีที่ใกล้เคียงกับผิวหน้ามากที่สุด โดยแต้มคอนซีลเลอร์กับหน้าไว้ก่อน แล้วค่อยๆ เกลี่ย ให้คอนซีลเลอร์แห้งจะทำให้ติดผิวปกปิดได้ดียิ่งขึ้น
3. ลงไฮไลท์บริเวณเหนือแก้มและสันจมูก และเติมสีแก้มและเปลือกตาด้วยสีที่แมตช์กันด้วย อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ซอฟท์ แอนด์ ซิลค์กี้ อาย & ชีค ป๊อป ทรีโอ สีเซี่ยงไฮ้ พีช โดยลงก่อนที่จะลงแป้ง ในขณะที่ผิวหน้ายังมีความชื้นจากการทารองพื้นและคอนซีลเลอร์จะช่วยทำให้สีติดทนมากยิ่งขึ้น
4. หลังจากนั้นลงแป้ง โดยหากต้องการการปกปิดที่มากยิ่งขึ้นให้ใช้แป้งผสมรองพื้นค่อยๆ แท็บเบาๆ ที่ใบหน้าแทนการใช้แป้งฝุ่น
5. เพิ่มสีดวงตาด้วย อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ซอฟท์ แอนด์ ซิลค์กี้ อาย & ชีค ป๊อป ทรีโอ ตลับเดิม โดยเลือกใช้สีเซี่ยงไฮ้ พีช โดยใช้สีอ่อนลงที่บริเวณหัวตา จากนั้นใช้สีที่เข้มขึ้นทาบริเวณกลางตาจนถึงหางตา ลากเฉียงขึ้นเล็กน้อย แล้วทาลงมาถึงบริเวณขอบตาล่าง เหมือนเป็นตัววี (V) ที่หางตา ปิดท้ายสีสันบนเปลือกตาด้วยการใช้สีที่เข้มขึ้นมาทาบริเวณขอบตาโดยเริ่มลากจากหางตา โดยแตะอ่อนๆ เพื่อไม่ให้ตาดูดุเกินไป เพิ่มเทคนิคพิเศษด้วยการทาอายแชโดว์สีอ่อนบริเวณเหนือริมฝีปาก ให้ปากเป็นทรงกระจับสวยงามน่าดึงดูด
6. หลังจากนั้นปัดมาสคาร่า โดยปัดบริเวณโคนขนตาก่อน เพื่อให้ตรงโคนแห้งก่อนและหนากว่า ทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยๆ ปัดออกมา ตรงโคนขนตาจะแข็งแรง ช่วยให้ขนตาไม่ตก เด้งสวยทั้งวัน
7. เติมมงกุฎของหน้าอย่างคิ้ว โดยเทรนด์คิ้วตอนนี้ยังคงเป็นตรงๆ ฟุ้งๆ อยู่ ร่างตามโครงคิ้วเดิม โดยใช้สีดินสอเขียนคิ้วที่ใกล้เคียงกับสีผมเพิ่มความเป็นธรรมชาติ
8. จากนั้นทาปากด้วย อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ไลท์ อัพ ซิลค์กี้ แมตต์ ลิป คัลเลอร์ ซึ่งใช้งานได้สะดวกมากเพราะแท่งลิปมีไฟในตัว โดยเลือกใช้สีเบอร์รี่เรด ทาแบบไม่ต้องเต็มปากแล้วเกลี่ยออกให้เกินริมฝีปากเล็กน้อย หรือจะเติมลิปกลอสเพิ่มเติมเพื่อให้ปากอวบอิ่มขึ้นก็ได้

 

ลุคที่ 3 สวยโดดเด่นแบบ Fashion Look

ลุคนี้จะโฟกัสเฉพาะที่ดวงตาและสีโทนฟ้าและน้ำเงิน ที่หลายๆ คนถึงกับบอกว่า No Idea สำหรับการแต่งหน้าด้วยโทนสีนี้ แต่ใครจะรู้ว่าสีนี้แหละ เหมาะกับสาวเอเชียสุดๆ แต่งแล้วสวยโดนใจ ถ่ายรูปได้แบบเป๊ะปัง

1. เริ่มจากการใช้ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ซอฟท์ แอนด์ ซิลค์กี้ อาย & ชีค ป๊อป ทรีโอ สีเซี่ยงไฮ้ สตาร์ไลท์ ที่เป็นโทนสีน้ำเงินทาเปลือกตาเล็กๆ เบาๆ หลังจากนั้นทาบริเวณไลน์เนอร์ทั้งขอบตาบนและล่าง เป็นการเน้นให้ดวงตาสีน้ำตาลดำของคนเอเชียดูโดดเด่นขึ้นมา
2. เพิ่มความคมโดดเด่นด้วย อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ลิควิด เพ็น ป๊อป อายไลน์เนอร์ สีซิลค์ แซฟไฟร์ เริ่มจากบริเวณหางตาโดยลากยาวให้สูงขึ้นเล็กน้อย เขียนให้ชิดขอบตา สร้างลุคที่สนุกสนานขี้เล่นขึ้น
3. เติมสีปากให้ละมุน โดยเริ่มจากการใช้คอนซีลเลอร์เก็บบริเวณขอบปากก่อน หลังจากนั้นลงสีปากด้วย อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ เอดิชั่น ไลท์ อัพ ซิลค์กี้ แมตต์ ลิป คัลเลอร์ สีสไปซ์ เรด โดยทาจากบริเวณกลางปาก หลังจากนั้นใช้ลิปสีที่อ่อนกว่าหรือจะเป็นลิปกลอสก็ได้ทาบริเวณด้านนอกให้เลยขอบปากออกมา เพื่อไม่ให้สีปากแดงจนเกินไป จะได้ปากที่แดงระเรื่อจากข้างใน
4. สำหรับลุคนี้จะไม่ทาแก้มสีเข้ม เนื่องจากมีจุดเด่นบริเวณดวงตากับปากแล้ว จะเน้นการปัดแก้มสีอ่อนๆ ให้ดูมีเลือดฝาดแบบสุขภาพดี

การแต่งหน้า นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ ทุกคนแล้ว ยังทำให้ทุกคนได้สร้างสรรค์ความเป็นตัวเองผ่านออกมาทางเมคอัพอีกด้วย นอกจากนี้การอัพเดททริคการแต่งหน้าตามเทรนด์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ยังทำให้สาวๆ ทุกคนสนุกได้ทุกวัน

---

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดราคาขายบิวตี้ไอเท็มชิ้นเด็ดที่สร้างชื่อเสียงของ “ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี่” ในไทย

ลุคสวยมีสไตล์ไม่ซ้ำ! แชร์ทริคแต่งหน้าตามเทรนด์ด้วย 3 โทนสี ออทั่ม/วินเทอร์

กรี๊ดดดด..แท่งนี้ต้องมี! Pat Mcgrath Labs x Supreme ปากแดงสวยแพงเกินต้าน