ศัลยกรรมเป็นเหตุ! 'แตงโม' ขูดฟิลเลอร์แก้คาง โดนเส้นประสาท ทำปากผิดรูป

ศัลยกรรมเป็นเหตุ! ‘แตงโม’ ขูดฟิลเลอร์แก้คาง โดนเส้นประสาท ทำปากผิดรูป เหตุเพราะโดนว่าคางเบี้ยวเลยเสียความมั่นใจ

นักแสดงสาวสวย แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ถือคนดังในวงการบันเทิงที่ทำศัลยกรรมมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรม หรือกึ่งศัลยกรรม เติมนิดเติมหน่อย แก้ไขส่วนเก่า ฯลฯ แต่อย่างเคสล่าสุด สาวแตงโมเผยว่า ช่วงก่อนโควิด-19 ได้บินไปเกาหลีขูดฟิลเลอร์แก้คาง เพราะตอนถ่ายละครมีคนพูดว่าคางเบี้ยวจนเสียความมั่นใจ แต่พอไปผ่าตัดเสร็จ กลับมาเมืองไทยเพิ่งรู้ว่า เส้นประสาทถูกตัด เวลาพูดเวลาออกสื่อต้องเกร็งมากเวลาขยับปาก

โดย แอนนา พิธีกรรายการ เผ็ดมันส์บันเทิง ได้ต่อสายตรงถึงดาราสาวคนสนิท แตงโม นิดา เพื่ออัพเดตอาการอีกครั้ง หลังอาการเส้นประสาทด้านล่างช่วงคางไม่สามารถขยับได้ และต้องงดรับงานมาเกือบปี จนทำให้ป่วยเป็นทั้งโรคซึมเศร้า และโรคต่อมหมวกไตล้า จนทำให้สาวแตงโมต้องออกมาวอนของานรีวิวสินค้า เพื่อช่วยให้มีรายได้ในการรักษาตัว

ซึ่งล่าสุดสาวแตงโมก็อัพเดตว่า ปากขยับได้บ้าง แต่อาจจะมีผิดรูปบ้างเล็กน้อย ด้วยความที่ยังไม่หายดี 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องรอเวลา รักษาไปเรื่อยๆ ต้องคอยหมั่นรักษาคอยกระตุ้นเรื่อยๆ มีทานวิตามินบำรุง ก็ดีขึ้นตามลำดับเลยค่ะ บางคนคิดว่าอัมพาตไปครึ่งซีกหรือเปล่า ไม่ถึงขนาดนั้น จริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น แค่คางไม่ไปตามรูปปากค่ะ

ด้วยความที่เมื่อก่อนฉีดฟิลเลอร์ค่อนข้างเยอะ พอวันหนึ่งรู้สึกอยากเอาสารแปลกปลอมออกจากหน้า เราก็เลยไปขูดสารแปลกปลอมออก แล้วก็ใส่ซิลิโคลนแทน แต่การขูดนี่มันก็มีความเสี่ยงที่จะโดนหรือไม่โดนเส้นประสาทอะไรประมาณนี้ ช่วงแรกๆ ที่ไปทำมาคือเป็นเยอะมากค่ะ แต่ช่วงนี้ก็คือเริ่มดีขึ้นแล้ว

ส่วนเรื่องรับงานละคร สาวแตงโมบอกว่า ด้วยความที่ยังไม่หาย 100 เปอร์เซ็นต์ ก็เกรงใจผู้ใหญ่กลัวว่าเราจะทำงานให้เขาได้ไม่เต็มที่ เราก็เลยขอพักไว้ก่อน เผื่อว่ามันดีกว่านี้ เข้ากล้องไปแล้วดูธรรมชาติมากกว่านี้ เราก็อาจกลับมารับงานละครอีกก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความเมตตาของผู้ใหญ่เลยค่ะ ถ้าเกิดว่ามันดีขึ้นแล้วก็ติดต่อมาได้เลยนะคะ

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจ แตงโมเธอก็บอกว่าแย่ตั้งแต่คุณพ่อป่วยแล้ว และตอนนั้นตัวเองก็ป่วยเป็นต่อมหมวกไตล้าด้วย ก็ค่อนข้างแย่มากในช่วงนั้น เจอมรสุมมาหนักมากๆ ทั้งป่วยทั้งอะไร แล้วคุณพ่อมาเสียอีก จิตใจเราอาจเยียวยามาได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ แต่เราก็ต้องทำจิตใจให้มันดีขึ้นทุกวัน ให้บอกตัวเองว่าเราแย่ มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่เขาแย่กว่าเรา ที่เราเงียบไม่ได้ออกมาพูดอะไรก็เพราะว่า มันยังมีอีกหลายคนนะที่เขาแย่กว่าเราอีก แต่เขาก็ยังสู้ ซึ่งเราก็ต้องสู้เหมือนกัน ยังดีที่เราได้รับกำลังใจค่อนข้างเยอะ มันก็เลยช่วยเยียวยาจิตใจเราให้ดีขึ้น

สุดท้ายฝากถึงสำหรับคนที่อยากจ้างงานนะคะ ก็แล้วแต่เนื้องานเลยค่ะ ถ้าอยากให้โมสวยพูดเป๊ะ โมก็อาจจะต้องขอเวลารักษาตัวก่อน แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไรหรืออยากจะช่วยกัน ช่วยค่าเทอมลูกหรือว่าอยากจะช่วยให้โมมีรายได้ในการรักษาตัว ไม่ซีเรียสในการพูดในการพรีเซนต์ จ้างรีวิวได้เลยค่ะ ภาพนิ่งสบายมากเลยค่ะ เราก็จะไม่เม้มปากเยอะค่ะ ก็สามารถทำงานได้ค่ะ