Johnny Depp

จากคู่รักสู่คู่ร้าง เรื่องราวแสบ ๆ คัน ๆ ของ Johnny Depp และ Amber Heard

Johnny Depp
Johnny Depp

เรียกว่าเป็นมหากาพย์คนดังในวงการฮอลีวูดที่คนทั้งโลกให้ความสนใจ สำหรับคดีฟ้องหมิ่นประมาทระหว่าง Johnny Depp และ Amber Heard อดีตภรรยา ที่แต่ละฝ่ายต่างก็งัดหลักฐานออกมาสู้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ละอย่างที่ปรากฏออกมาล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องแซ่บ ๆ ที่ทั้งแสบ ทั้งคัน จนต้องร้องอุ้ย !  เพราะมันส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานรวมถึงชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนาน

Johnny Depp

จากคู่รักสู่คู่ร้าง เรื่องราวแสบ ๆ คัน ๆ ของ Johnny Depp และ Amber Heard

วันนี้ แพรว เลยจะพาย้อนไปชนวนเหตุที่เป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้คู่รักที่เคยหวานชื่น กลายมาเป็นคู่ร้างที่มีคดีฟ้องร้องใหญ่โต ที่รอศาลตัดสิน

Johnny Depp

 

1.คู่รักสู่คู่ร้าง

Johnny Depp และ Amber Heard  พบรักกันจากการถ่ายทำภาพยนตร์  The Rum Diary ในปี 2009 ก่อนจะเปิดตัวคบกันในปี 2012 และตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2015  หลังจากชีวิตคู่ได้เพียง 15 เดือน แอมเบอร์ ก็ฟ้องหย่า เดปป์ พร้อมเรียกเงินค่าเลี้ยงดู 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 1.5 ล้านบาท ต่อเดือน

โดย แอมเบอร์ อ้างว่าถูกอดีตสามีใช้คำพูดและกำลังทำร้ายร่างกายและจิตใจ รวมถึงล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งยังแฉอีกว่า เดปป์ ใช้ยาเสพติด และติดสุรา เวลาเมาเขาก็มักจะทำร้ายเธอเป็นประจำ แม้จะเคยรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แต่เขาก็ทำไม่ได้ นอกจากนี้เขายังระแวงว่าเธอจะนอกใจ ทั้งคู่มักทะเลาะกันเพราะความหึงหวงเป็นประจำ

Johnny Depp

จากการฟ้องหย่าในครั้งนี้ เดปป์ เลือกจ่ายเงินจำนวน 7 ล้านดอลลาร์ (218 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก เรื่องราวทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี  แต่หลังจากทั้งคู่หย่ากันแล้ว  แอมเบอร์ กลับเขียนบทความเกี่ยวกับ เหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ เดปป์ ตัดสินใจฟ้อง แอมเบอร์ ในข้อหาหมิ่นประมาท

2.ชนวนเหตุของการฟ้องร้อง

จากบทความดังกล่าวที่ แอมเบอร์ เขียนลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์  ทำให้ เดปป์ ตัดสินใจฟ้อง แอมเบอร์ และ The Sun ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจาก The Sun ใช้คำว่า “Wife-Beater” (ทุบตีทำร้ายภรรยา) มาพาดหัวในบทความดังกล่าว ทำให้เขาถูกสังคมตัดสินว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายภรรยา เป็นเหตุให้ถูกถอดออกจากภาพยนตร์ Fantastic Beasts และ Pirates of the Caribbean ภาค 6 อีกด้วย

Johnny Depp

 

Johnny Depp

สุดท้ายศาลในกรุงลอนดอนตัดสินให้ The Sun ชนะคดี เพราะมีหลักฐานมีแสดงว่า เดปป์ ทำร้ายร่างกาย แอมเบอร์ จริง ในระหว่างที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตสามีภรรยา แม้จะแพ้คดีให้กับ The Sun แต่เดปป์ ก็เดินหน้าฟ้อง แอมเบอร์ ต่อไปในข้อหาหมิ่นประมาทที่ศาลของอเมริกา เขาระบุว่าเธอสร้างเรื่องโกหก เพื่อหวังทำลายชื่อเสียง

3.คำให้การในชั้นศาล

เดปป์ ชี้แจงว่าสิ่งที่ แอมเบอร์ กล่าวอ้างเขาเป็นพวกทำร้ายเธอ ไม่ใช่เรื่องจริง แต่กลับเป็นฝ่ายอดีตภรรยาที่ทำร้ายร่างกายเขา โดยเดปป์มีพยาน คือ นักบำบัดที่เคยดูแลชีวิตสมรสของทั้งคู่ ให้การกับศาลว่า แอมเบอร์ มักใช้ความรุนแรงยั่วยุเพื่อให้ เดปป์ โต้ตอบกลับ และหลักฐาน คือ คลิปเสียงที่ แอมเบอร์ ยืนยันว่าเธอเป็นคนลงมือทำร้าย เดปป์ อยู่บ่อยครั้ง มาแสดงต่อศาล

หลังจากมีการเผยแพร่คลิปเสียงนี้ทำให้มีแฟนหนังกว่า 3.8 ล้านรายชื่อเรียกร้องให้ถอด แอมเบอร์ ออกจากหนัง อควาแมน 2 ก่อนจะมีข่าวลือตามมาว่า วอร์เนอร์ บราเธอส์ ในฐานะผู้สร้างหนังเรื่องดังกล่าว อาจจะลดบทบาทของ แอมเบอร์ ในอควาแมน 2 ให้เหลือเพียง 10 นาที

Johnny Depp

ขณะเดียวกันมีข่าวลือว่า แอมเบอร์ อาจขอความช่วยเหลือจาก Margot Robbie ให้เธอได้มีส่วนร่วมใน Pirates of the Caribbean ภาคใหม่ ที่เดปป์ถูกถอดออกจากเรื่องนี้ เพราะข่าวฉาว

นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า แอมเบอร์ นำเงินจากการฟ้องหย่า เดปป์ ไปบริจาคให้กับ สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU)  และ โรงพยาบาลเด็กในลอสแอนเจลิส จริงตามที่เคยพูดไว้หรือเปล่า เนื่องจากไม่มีเอกสารยืนยัน

Johnny Depp

 

Johnny Depp

พร้อมกันนี้ เดปป์ ยังแฉด้วยว่า แอมเบอร์ เองก็ใช้ยาเสพติดเช่นกัน และยืนยันว่าสาเหตุที่ทั้งคู่แยกทางกัน เป็นเพราะเขาทนพฤติกรรมของเธอไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่อุจจาระบนเตียง ขณะที่แบรนด์เครื่องสำอางที่ แอมเบอร์ อ้างว่าคอนซีลเลอร์รุ่นที่เธอใช้ปกปิดร่องรอยการถูกทำร้ายออกมาโต้กลับคำให้การของแอมเบอร์ ระบุว่าคอนซีลเลอร์รุ่นดังกล่าวถูกผลิตและวางจำหน่ายในปี 2017 ขณะที่การฟ้องหย่าเกิดขึ้นในปี 2016

ทั้งนี้ แอมเบอร์ ให้การว่าเคยชกหน้า เดปป์ ไปหนึ่งครั้ง เพื่อปกป้องน้องสาวของตัวเอง ที่พยายามเข้ามาห้ามในเหตุการณ์ที่ทั้งคู่กำลังทะเลาะกัน เธอให้เหตุผลว่าทำไปเพื่อปกป้องตัว

Johnny Depp

Johnny Depp

อย่างไรก็ตามมหากาพย์การฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทระหว่างเดปป์และแอมเบอร์ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาล  และคงต้องลุ้นกันยาว ๆ ว่าสุดท้ายแล้วผลการตัดสินของคดีนี้จะจบลงเช่นไร


ข้อมูลจาก  FB : catdumb.com, mangozero.com, beartai.com,matichonweekly.com

ภาพจาก @amberheard ,Getty Images

Praew Recommend

keyboard_arrow_up