กลัฟ คณาวุฒิ

รู้จักตัวตนลึกๆ ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ หนุ่มโลกส่วนตัวสูง หน้าหวานแต่ชอบเที่ยวแบบสายลุย

Alternative Textaccount_circle
กลัฟ คณาวุฒิ
กลัฟ คณาวุฒิ

หลายคนบอกว่า ‘กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์’ โลกส่วนตัวสูง แต่สิ่งที่ แพรว สัมผัสได้ระหว่างการพูดคุย คือเขาเป็นขาลุย (ขัดกับหน้าหวานๆ) สายเซอร์ รักเพื่อน ตั้งใจทำงาน และแคร์ครอบครัว แม้ TharnType The Series จะเป็นซีรี่ส์เรื่องแรกในชีวิต แต่กลัฟกลับโด่งดังเป็นพลุแตก สาเหตุหลักเพราะความทุ่มเท ชอบท้าทายความสามารถใหม่ๆ กลัฟจึงเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่น่าจับตามองที่สุดในนาทีนี้

กลัฟ คณาวุฒิ

เริ่มเป็นนักแสดงได้อย่างไรคะ

“ที่จริงผมอยู่ในวงการบันเทิงมาประมาณ 7-8 ปีแล้วครับ ก่อนหน้านี้แคสติ้งงานไม่เยอะ มีงานโฆษณาบ้างนิดหน่อย แต่เพิ่งมารับงานแสดงอย่างจริงจังคือช่วงเรียนปี 3 (ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) ผมมีโอกาสไปแคสติ้งเรื่อง คั่นกู ได้รับบท สารวัตร ซึ่งตอนนั้นลิขสิทธิ์ยังเป็นของ ‘แจ่มใส’ ตอนหลังแกรมมี่ซื้อไปทำ พอมีการเรียกดูตัวอีกครั้งจึงเปลี่ยนนักแสดง ซึ่งผมเข้าใจ โอเค ไม่ได้รู้สึกแย่ เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร หลังจากนั้นผมไปแคสติ้งเรื่อง Why R U The Series ซึ่งผู้กำกับบอกว่าคาแร็คเตอร์เรื่องนี้นักแสดงต้องแนวขาวตี๋ เลยแนะนำให้ผมไปลองแคสต์เรื่อง TharnType The Series เพราะคาแร็คเตอร์ตรงกับเรื่องนั้นมากกว่า ปรากฏว่าพอไปแคสติ้งก็ได้เลย”

เขินไหมคะที่เรื่องแรกก็เป็นซีรี่ส์สายวายเลย

“เขินครับ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ทางการแสดง และไม่รู้จักวงการซีรี่ส์วายมาก่อน ต่างกับพี่มิวที่มีประสบการณ์ด้านการแสดงบ้าง รู้เทคนิควิธีการต่างๆ เรียกว่าผมโชคดีที่ได้ร่วมงานกับพี่มิว นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเล่นคู่กับคนอื่นฟีดแบ็กจะเป็นอย่างไร อาจจะไม่ได้กระแสตอบรับที่ดีเท่านี้ครับ

กลัฟ คณาวุฒิ

ที่ว่าโลกส่วนตัวสูงนี่ขนาดไหนคะ

“คำว่าโลกส่วนตัวสูงของผม หมายถึงเวลาเจอใครที่ไม่สนิทก็จะเงียบๆ ถ้าเขาไม่ชวนเราคุยก็จะไม่คุยก่อน ต้องบอกว่าโชคดีที่พี่มิวพยายามเข้าหา จึงไม่เกร็ง”

การมีโลกส่วนตัวสูงต้องปรับตัวในวงการบันเทิงไหมคะ

“ปรับเยอะครับ โชคดีที่ผมชอบอยู่บ้าน ติดบ้าน ไม่ชอบเดินห้าง จึงไม่ค่อยมีปัญหากับเรื่องการพบเจอผู้คน แต่ถ้าวันไหนต้องไปก็มีพรางตัวบ้าง แต่สิ่งที่ต้องปรับเยอะสุดคือการนอนครับ เพราะปกติผมนอนดึกมาก คือตี 2 ตี 3 แล้วตื่นเที่ยงหรือบ่ายโมง พอมาทำงานแบบนี้ต้องนอนเร็ว ตื่นเช้า ส่วนเรื่องเวลาส่วนตัว ก็ต้องยอมสละที่ชอบทำไปบ้าง ไม่ว่าจะเล่นเกม เล่นกีฬา อีกเรื่องที่สำคัญมากคือการเล่นโซเชียลครับ ต้องระวังเรื่องการโพสต์ ต้องคิดเยอะว่าถ้าโพสต์ออกไปจะดีหรือเปล่า พาดพิงถึงใครไหม ส่งผลเสียต่อใคร ไม่อย่างนั้นทั้งเราและเขาจะดูไม่ดี”

กลัฟ คณาวุฒิ

รู้จักตัวตนลึกๆ ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ หนุ่มโลกส่วนตัวสูง หน้าหวานแต่ชอบเที่ยวแบบสายลุย

พูดถึงโซเชียล เวลาเจอข่าวดราม่า กลัฟรับมือยังไงคะ

“ต้องดูก่อนว่าเป็นเรื่องจริงไหม ถ้าไม่จริงก็ไม่สนใจ แต่เวลาเจอก็มีนอยด์นะ พยายามไม่เก็บมาคิด แต่มีคุยหลังไมค์กับพี่มิวบ้างแบบติดตลก จริงๆ ผมใช้วิธีหยุดเสพคอมเมนต์แล้วนอนดีสุด ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวก็เป็นวันใหม่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็นำมาแก้ไข อย่างเรื่องการแสดงที่เคยโดนติ ผมกลับมานั่งดูตัวเองว่าจริงอย่างที่เขาพูดไหม ซึ่งก็มีที่เป็นจริงบ้าง ผมก็พยายามแก้ไขตอนที่แสดง TharnType ซีซั่น 2”

กับกลุ่มคนที่คอยสนับสนุนอย่างแฟนคลับ มีเรื่องไหนที่พวกเขาทำให้แล้วประทับใจที่สุดคะ

“ตอนไปรับรางวัล Best Kiss Scene ของ LINE TV จากฉากจูบข้อเท้านี่แหละครับ ความที่รางวัลนี้ประกาศท้ายๆ งาน เราจึงออกมาช้ามาก ประมาณ 4 ทุ่ม ห้างเริ่มปิดไฟแล้ว แต่ภาพที่เห็นคือแฟนคลับที่มารอตั้งแต่บ่ายช่วยกันหยิบโทรศัพท์มาเปิดแฟลชแสดงความยินดีให้เรา เห็นแล้วหายเหนื่อยเลยครับ แฮ็ปปี้ที่ทุกคนน่ารักมาก

“ช่วงรับปริญญาผมได้ช่อแบงก์ดอกไม้รวมๆ เฉียดล้าน คุณแม่นั่งแกะมา 2 วันยังไม่หมด รู้สึกเกรงใจและขอบคุณพี่ๆ แฟนคลับมาก ที่รักและสนับสนุนผมขนาดนี้” (ยิ้ม)

กลัฟ คณาวุฒิ

มีอะไรอีกไหมที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับกลัฟ

“ผมเป็นสายลุยครับ ชอบไปเที่ยวตามน้ำตก ดอยต่างๆ มีทริปที่ผมประทับใจมากคือฟังพ่อกับแม่เล่าว่าที่ภูกระดึงไปยาก หนทางลำบาก ต้องทรหดอดทน พอได้ยินแบบนี้ก็ชวนเพื่อนเลย อยากลองไปดูสักครั้ง น่าจะเป็นความทรงจำที่ดี แล้วก็คิดไม่ผิดจริงๆ มีเรื่องดีๆ จากทริปนี้เกิดขึ้นเยอะ เรื่องแรกคือนอกจากความสวยงามของธรรมชาติ ผมยังได้ใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อน เพราะช่วงที่เราต้องเดินขึ้นภูกระดึงค่อนข้างไกล ผมสตาร์ตตั้งแต่ 7 โมงเช้า กว่าจะถึงคือ 4 โมงเย็น และเราไม่ได้ใช้ลูกหาบ ต้องแบกของกันเอง ซึ่งมันเหนื่อยพอสมควรเลยนะ เพื่อนผมคนนึงตัวใหญ่ เดินลำบาก แล้วเราเป็นคนเดินนำเพื่อน ก็ต้องคอยหยุดรอ พอเพื่อนแบกไม่ไหวก็ต้องช่วยๆ กันแบก จึงได้เห็นมิตรภาพของเพื่อนในแก๊ง”

ความฝันตอนนี้ล่ะคะ

“ผมอยากซื้อบ้านให้ครอบครัวครับ ไม่อยากซื้อรถ เพราะราคาจะตก สวนทางกับบ้าน ที่ดินมีแต่ราคาขึ้น แต่ยังเป็นความฝันที่อยู่อีกไกลมาก เพราะสเป็คบ้านที่เล็งไว้ ตีราคาออกมาก็แอบโหดอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือขยันทำงาน ตั้งใจเก็บเงินก่อนครับ”


อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 965

ภาพ : gulfkanawut

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชีวิตสะใภ้จิราธิวัฒน์ ‘มาร์กี้ ราศรี’ บทบาทเปลี่ยน ความคิดโต ขยันเก็บเงินมากกว่าใช้

เลี้ยงลูกสไตล์ขุ่นแม่! ‘ชมพู่ อารยา’ ว่าด้วยวีรกรรมของแฝด และเรื่องที่แม่ห่วงใย

กว่าจะสำเร็จไม่ง่าย ‘มิว ศุภศิษฏ์’ เคยแคสติ้งงานจนท้อ สู่ว่าที่ ดร. เจ้าของค่ายเพลง

Praew Recommend

keyboard_arrow_up