รุ่นใหม่ไฟแรง! เปิดทัศนคติการทำงานของ “ออฟ-กัน” คู่จิ้นสายวายสุดฮ็อต

รุ่นใหม่ไฟแรง! เปิดทัศนคติการทำงานของ “ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร” และ “กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์” คู่จิ้นสายวายสุดฮ็อต

“ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร” และ “กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์” เป็นอีกหนึ่งคู่ซี้ในชีวิตจริงที่แฟนๆ ติดตามเชียร์และรักแบบสุดใจ เราจึงได้เห็นกระแส #ออฟกัน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่ตลอด รวมถึงเพราะทั้งคู่ทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่ เรียกว่าเป็นคนบันเทิงรุ่นใหม่ที่ไฟแรงจริงๆ

มีแนวคิดในการทำงานอย่างไรบ้าง

ออฟ : “ผมอยากทำทุกงานให้ออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม ผมจึงใช้วิธีพยายามทำตัวเองให้สนุก ตลก และแฮ็ปปี้ตลอดเวลา เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นมุมนั้นของเรา ไม่อยากให้ทีมงานเครียดหรือเป็นห่วง แม้ว่าข้างในเราจะเครียดมากๆ ก็ตาม

“วิธีการทำงานของผมจึงค่อนข้างจริงจัง อันดับแรกต้องอ่านบทให้หมดก่อน เพื่อวิเคราะห์ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวละครคิดหรือรู้สึกอย่างไร หรือเมื่อเจอเหตุการณ์นั้นแล้วเป็นอย่างไร มีการเติบโต เปลี่ยนแปลง หรือการไล่ระดับของชีวิตเป็นอย่างไร โดยผมจะหมายเหตุเอาไว้ว่าตอนนี้รู้สึกแบบนี้นะ ซีนนี้เพิ่งอกหัก ซีนนี้มีความสุข เพื่อให้เข้าใจและเล่นได้ต่อเนื่องครับ”

กัน : “สำหรับกัน นอกจากทำเวิร์คชอปก่อนถ่ายละคร กับการทำการบ้านด้วยตัวเอง ทำความเข้าใจกับบท ก็จะมาฟังผู้กำกับที่หน้างานอีกครั้งว่าเขาอยากให้ตัวละครเป็นอย่างไร เพิ่มเติมตรงไหน แล้วก็ลองเล่นตามที่เขาอยากให้เป็น โดยพยายามจะไม่กดดันตัวเอง เพราะยิ่งกดดันยิ่งเล่นไม่ดี เหมือนสมัยเด็กเคยเล่นบทที่ต้องร้องไห้ ซึ่งเครียดมาก พอเวลาผ่านมาก็เข้าใจว่ายิ่งกดดัน น้ำตายิ่งไม่ไหล

“กันชอบเล่นบทที่ไกลตัวหรือแบบที่ไม่ใช่ตัวเองเลย อย่างบทเครียดๆ ร้องไห้ (หยุดนึก) หรือก้าวร้าว นักเลง ซึ่งขัดกับบุคลิกและหน้าตาของกันที่ดูไม่สู้คนเลย (เน้นเสียง) ตรงข้ามกับตัวจริงของเรามากๆ ซึ่งบทแบบนี้ต้องใช้อารมณ์เยอะ ทำให้เราได้คิด ได้ดีไซน์ และได้แชร์กับพี่ผู้กำกับว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ เหมือนได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แต่บทใกล้ตัวก็สนุกไปอีกแบบนะครับ คือเล่นเป็นตัวเองได้เลย ไม่ต้องเครียด เพราะกันชอบพูดชอบคุย สนุกสนานอยู่แล้ว” (ยิ้ม)

คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของการทำงานตรงนี้

กัน : “กันเข้าวงการมาตั้งแต่ ป.4 บอกคุณแม่ว่าอยากเข้าไปอยู่ในทีวี จากนั้นคุณแม่ก็พาไปแคสติ้งเลย ฉะนั้นงานนี้จึงมาจากความชอบของตัวเองล้วนๆ จึงค่อนข้างสนุกกับมัน แต่ถ้าถามถึงเสน่ห์…กันคิดว่าคือการที่เราได้เจอ ได้รู้จักคนใหม่ๆ อยู่ตลอด เพราะพื้นฐานกันขี้เหงาด้วยน่ะ ชอบออกไปเจอเพื่อน อยู่กับเพื่อน การทำงานตรงนี้ทำให้เราได้เจอกับคนใหม่ๆ หลายแบบอยู่ตลอด กันว่านี่แหละคือความสนุกที่เป็นเสน่ห์ (ยิ้ม)

“ส่วนเนื้องาน ตั้งแต่เข้า GMMTV ก็ได้ทำหลายอย่างจริงๆ ทั้งงานแสดง พิธีกร ร้องเพลง แต่ถ้าเรื่องที่อยากทำให้ดีขึ้นก็คือการร้องเพลง เพราะตั้งแต่เด็กกันไม่ค่อยชอบร้องเพลง ไม่กล้าจับไมค์ เพราะเขิน ยิ่งเวลาคุณพ่อพยายามให้ขึ้นเวทีร้องเวลามีงานก็ยิ่งเขิน แต่เดี๋ยวนี้ด้วยงานทำให้กล้าร้องมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มั่นใจในเสียงนะครับ รู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร”

ออฟ : “สำหรับผมที่ไม่ได้เป็นคนเก่ง ได้มาทำงานตรงนี้ก็ต้องบอกว่าโชคช่วยประมาณหนึ่งเลยนะ จากที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ก็มีพี่ที่แกรมมี่มาชวนเป็นพิธีกร จากตอนแรกที่พูดไม่ชัด ร้องเพลงกับเต้นไม่ได้เลย ก็ต้องทำให้ได้ และทำให้รู้ว่าผมชอบเป็นพิธีกรนะ เพราะชอบพูด (ยิ้ม) แล้วช่วงแรกที่ทำงานเป็นพิธีกรรายการสด พูดผิดไม่ได้ พูดไม่ชัดก็ไม่มีโอกาสแก้ตัว จึงทำให้เราต้องฝึกพูดในชีวิตประจำวันอยู่ตลอด ต้องพัฒนาตัวเองให้ไว เพื่อให้ทันคนอื่น

“และห้ามหยุดอยู่กับที่ เพราะจะเหมือนเราถอยหลัง จมลงเรื่อยๆ เพราะมีคนเก่งๆ เกิดขึ้นตลอด แล้วยิ่งอายุเยอะขึ้น ความรับผิดชอบหรือความคาดหวังก็สูงขึ้นด้วย ผมไม่อยากให้คนอื่นผิดหวัง จึงไม่หยุดพัฒนาตัวเอง อย่างเวลาว่างผมชอบดูหนัง ซึ่งไม่ได้ดูเพื่อความสนุกอย่างเดียว แต่จะศึกษาด้วยว่าทำไมเขาเล่นแบบนี้ เขารู้สึกอะไรอยู่ เพราะผมเรียนด้านนี้มา (คณะเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร) จึงชอบศึกษาการทำงานเบื้องหลัง ซึ่งบอกเลยว่าทั้งหมดนี้มาจากความพยายามและพรแสวง จริงอยู่ว่าเมื่อก่อนผมอาจจะไม่จริงจังขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าทำอะไรต้องทำจริง เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาดูถูกหรือเห็นว่าเราดีแต่พูด จึงอยากทำผลงานออกมาให้ดี เพราะสุดท้ายจะดีหรือไม่ดีต้องดูกันที่ผลงานครับ”

---

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 962

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก “คริส-สิงโต” คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

ขยันไม่หยุด! “วิน-เมธวิน” เผยแม้งานในวงการบันเทิงจะแน่น แต่ก็ทำธุรกิจส่วนตัวด้วย

จับเข่าคุย “ไบรท์-วชิรวิชญ์” ตัวตน ความฝัน และการฟันฝ่าวงล้อมดราม่า