รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก “คริส-สิงโต” คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

Alternative Textaccount_circle
รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย
รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

เปิดมุมซี้ปึ้กของ “คริส-สิงโต” คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ถึงวันนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้ว

นับจาก SOTUS : The Series ออนแอร์เมื่อปี พ.ศ. 2559 ชื่อของ “คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์” และ “สิงโต-ปราชญา เรืองโรจน์” ก็ก้าวเข้าไปอยู่ในใจแฟนๆ อย่างเหนียวแน่น และยิ่งได้สัมผัสตัวตนของเขาทั้งคู่แล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยที่แฟนๆ จะรักเขามากมายอย่างนี้ รวมถึงความสนิทสนมของทั้งคู่ที่แฟนๆ พากันจิ้นเป็นพิเศษ เพราะความที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งถึงวันนี้ก็นานเกือบ 10 ปีแล้ว แพรว จึงขอพาทุกคนไปตอกย้ำความฟิน ด้วยมุมซี้ปึ้กของคู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย “คริส-สิงโต” ที่สัมผัสได้จากบทสัมภาษณ์นี้กันค่ะ

ตั้งแต่เล่นซีรีส์เรื่องแรกด้วยกันจนถึงตอนนี้ สนิทกันมากี่ปีแล้วคะ

สิงโต : “โอ้…นานมากครับ” (หันไปให้คริสช่วยนับ)

คริส : “น่าจะ 8-9 ปีแล้วครับ เพราะเรารู้จักกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ผมเห็นพี่สิงตั้งแต่ผมอยู่ปี 2 แล้วก็ทำงานด้วยกันมาตลอด จะมีห่างบ้างก็ช่วงที่ต่างคนต่างถ่ายละครของตัวเอง กับที่ห่างกันนานสุดคงช่วงกักตัวที่ผ่านมานี่แหละ เหงาเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ยังเล่นเกมด้วยกัน เห็นอะไรน่าสนใจก็ส่งให้กันดูตลอด หรือเวลาเบื่อๆ ผมก็ไลน์ไปถามว่า พี่สิงทำอะไรอยู่”

สิงโต : “ใช่…ประโยคแรกที่คริสทักคือ ‘ช่วงนี้พี่ทำอะไร…ผมเบื่อมากเลย’ ผมก็คิดนะ จะให้ทำอะไร…ฉันก็ต้องทำสารนิพนธ์ของฉันสิ (ทำเสียงเข้ม) แต่ก็เข้าใจเขานะ เพราะที่ผ่านมาเราทำงานด้วยกันตลอด พอวันหนึ่งไม่ได้เจอ ต่างคนต่างว่าง ก็เหงาแหละ”

รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

เวลาเจอกัน คำแรกที่ทักคือ…

สิงโต : “เรียกชื่อตามปกตินะครับ ไม่ได้สวัสดีแบบทางการ ส่วนมากจะ…ว่าไง”

คริส : “ผมก็…สวัสดีครับตามปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่อาจจะมีตีตูด…ชกท้องกันเบาๆ บ้าง” (หัวเราะ)

สิงโต : “ใช่ๆ บางทีไม่ได้ทักกันเป็นคำพูด แบบว่าเดินผ่านแล้วตีกันเบาๆ แต่เราจะทักกันแบบสุภาพนะ เพราะผมค่อนข้างซีเรียสเรื่องความเคารพรุ่นพี่รุ่นน้องมาก จะไม่ยอมให้รุ่นน้องใช้คำหยาบกับรุ่นพี่ เว้นแต่อุทานหรือแซวกัน อันนั้นไม่ซีเรียส แต่ถ้าเรียกกูมึง หรือตั้งใจใช้คำหยาบ ไม่โอเคครับ”

คริส : “บางทีผมเลยแกล้งแหย่ แบบเรียกเขาไม่เพราะ พี่สิงก็จะทำเสียงเข้มกลับมาว่า ‘เฮ้ย…พูดกูกับใครอะ’ (หัวเราะ) ซึ่งเวลาผมมีรุ่นน้องก็จะถ่ายทอดสิ่งที่รุ่นพี่สอนเราให้เขาด้วยเหมือนกัน แต่เรื่องแบบนี้ก็แล้วแต่คนด้วยครับ เพราะไม่รู้ว่าน้องจะคิดว่าเราไปบังคับให้เขาเคารพเราหรือเปล่า”

สิงโต : “ใช่…เรื่องแบบนี้เราไม่บังคับกันดีกว่าครับ ใครอยากนับถือเราเป็นพี่ เขาก็จะเรียกพี่เองแหละ ซึ่งมันอยู่ที่การวางตัวของเราด้วยนะ”

ถ้าอย่างนั้นคริสพูดถึงรุ่นพี่สิงโตหน่อยค่ะ

คริส : “พี่สิงเป็นคนนิ่ง เงียบ ตรงข้ามกับผมที่ไม่นิ่ง ไม่เงียบเลย บางครั้งผมก็อยากนิ่งให้ได้เหมือนเขานะ ซึ่งผมพยายามลอกบางอย่างของเขามาอยู่ อย่างการมีทัศนคติที่ดี ความใจเย็น ยกเว้นเวลาเล่นเกมที่เขาจะเผยความหัวร้อนออกมา แบบไม่ยอมแพ้อะ คนอื่นอาจจะไม่เห็น แต่ผมเห็นผ่านสายตาเขา (ทำหน้าแบบรู้ทัน) เพราะพี่สิงเขาเก็บอารมณ์เป็น ซึ่งผมยกให้เขาเป็นไอดอลเรื่องนี้เลย”

สิงโต : “บางครั้งภายนอกสิงอาจดูเย็น แต่จริงๆ ข้างในหัวอาจจะร้อนมากครับ คือตีหน้านิ่งไว้ก่อน เดี๋ยวคู่ต่อสู้รู้ว่าเราโมโห ซึ่งเราไม่ยอมให้ใครมาเห็นจุดอ่อนเราหรอก หึๆ” (ยิ้มมุมปาก)

รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทยอะไรที่จะทำให้สิงโตหัวร้อนที่สุดคะ

คริส : (ชิงตอบก่อน) “เขาเป็นคนตั้งใจสูงครับ และอินกับอะไรง่าย ฉะนั้นผมคิดว่าเขาหัวร้อนกับ…เกม แน่นอนครับ!” (เลียนแบบการตอบในเกมโชว์)

สิงโต : (หัวเราะชอบใจ) “ผมเป็นประเภทที่เวลาตั้งใจทำอะไรจะไม่ชอบให้ใครมารบกวน แบบว่าอย่าเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะชวนคุย ไม่อย่างนั้นผมจะหงุดหงิดมาก แต่ไม่ถึงขนาดปรี๊ดจนโวยวายนะครับ แค่บางทีสีหน้าจะออก”

แล้วรุ่นน้องคริสในมุมของสิงโตเป็นอย่างไรบ้างคะ

สิงโต : “ช่วงแรกผมทึ่งเขามากเลยนะ คนอะไรพลังงานเยอะล้นเหลือสุดๆ แล้วความที่ผมค่อนข้างนิ่ง อย่างเวลาอยู่ในกองถ่าย ผมจะนั่งเงียบๆ ในมุมของตัวเอง แต่ถ้าบรรยากาศในกองเงียบเกินไป ผมก็จะเข้าไปเอนเตอร์เทนบ้าง แต่ถ้ากองไหนเฮฮากันอยู่แล้ว ผมจะเงียบ แต่คริสเขาเฮฮาตลอดเวลา ช่วงแรกที่เรายังไม่สนิทกัน มีบางวันที่คริสนั่งเงียบๆ ไม่พูด ผมก็สงสัยนะว่าเขานอยด์อะไรหรือเปล่า แต่พออยู่กันไปสักพักถึงรู้ว่าถ้าคริสเงียบคือง่วงครับ แบบว่ากำลังอยู่ในโหมด energy saving” (หัวเราะ)

เวลาอีกคนโมโห มีวิธีรับมืออย่างไร

คริส : “เชื่อไหมว่าอยู่ด้วยกันมา 8 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์นั้นเลยนะ พี่สิงเป็นคนที่ผมไม่เคยมีปัญหาหรือมีปากเสียงด้วยเลย เพราะเรารู้ว่าเขาเป็นอย่างไร อย่างถ้าพี่สิงเงียบ ผมก็จะไม่เข้าไปยุ่ง ส่วนถ้าผมหัวร้อน พี่สิงก็จะถอย จึงไม่เคยโกรธกัน อาจจะมีงอนบ้างนิดๆ หน่อยๆ เพราะพี่สิงชอบแซวอะ แต่ไม่เคยถึงขั้นงอนจนต้องง้อนะ”

สิงโต : “ถ้ามีอะไรเราจะคุยกันตรงๆ ซึ่ง หลายคนเห็นเราคุยกันแล้วชอบคิดว่าเราทะเลาะกันหรือเปล่า เพราะสีหน้าจริงจังมาก บวกกับสิงชอบเถียงด้วยไง (ยิ้ม) แต่คริสจะรู้ว่าเวลาสิงคุยกับพี่ผู้จัดการน่ากลัวกว่านี้อีกนะ”

คริส : “จริงๆ เราเถียงเก่งกันทั้งคู่นะครับ แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งยังไม่มีใครยอม ผมก็คงต้องยอมพี่สิงอะ” (ทำท่าคอตกยอมแพ้)

มีเรื่องที่ต้องปรึกษาหรือขอคำแนะนำกันบ้างไหม

คริส : “เราปรึกษาและช่วยเหลือกันตลอดครับ เวลาทำงานก็ช่วยกันต่อบท เช็กเสื้อผ้าหน้าผมให้กันว่าโอเคหรือยัง เพราะเราคุยกันทุกเรื่องครับ มีอะไรก็ถามกัน ซึ่งผมเป็นพวกที่ไม่ชอบเริ่มจากปฐมภูมิอะ ถ้าอยากรู้อะไรแล้วต้องไปหาหนังสืออ่านเองจะขี้เกียจ แต่ชอบถามจากคนที่เขารู้อยู่แล้วมากกว่า อย่างเรื่องเลี้ยงแมว ผมยังถามพี่สิงเลย ทั้งที่เขาไม่ได้เลี้ยง”

สิงโต : “เรื่องแมวเนี่ย…ผมก็บอกคริสนะ ถามฉันทำไม ฉันแค่ชอบเฉ ๆ ไม่ได้เลี้ยง เข้าใจไหม” (หันไปย้ำกับคริส)

คริส : “แต่เขาก็ตอบผมได้ทุกเรื่องนะ ตอนนี้ผมเหมือนคนมีลูกเลยครับ แต่เป็นลูกแมวนะ (หัวเราะ) เวลาเห็นหน้าเขา ผมจะรู้เลยว่าตอนนี้ต้องการอะไร หิว ง่วง หรือจู่ๆ หนวดตั้งขึ้น แสดงว่ากำลังสนใจอะไรบางอย่าง วันนี้ก็พามาทำงานด้วย (หันไปเกาคางให้แมว) ตัวนี้ชื่อมัฟฟิน พี่สิงชอบนะ เพราะเขาชอบแมวขนปุย น่ารัก หน้าง่วงๆ หน่อย เห็นไหมว่าอุ้มไม่ปล่อยเลย”

สิงโต : “คือถ้าเห็นหน้าแล้วรู้สึกถูกชะตาก็จะเล่นกับตัวนั้นเลย แต่ไม่ใช่ว่าแมวทุกตัวจะทำให้สิงสนใจได้นะ อย่างพลูโต (แมวอีกตัวของคริส) สิงไม่ค่อยเล่นด้วยนะ เน้นมองดูอยู่ห่างๆ เพราะเป็นแมวที่พลังเยอะมาก วิ่งไม่หยุด กระโดดรอบห้อง แถมยังเหยียบหลังสิงอีก (ส่ายหน้า) แต่กับตัวนี้โอเคเลย” (ยกมัฟฟินขึ้นมากอด)

รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

ทั้งคู่ดูแลกันอย่างไรบ้างคะ

คริส : “ถ้าเขาไม่สบายก็คงไม่ถึงขั้นไปเช็ดตัวให้นะ เขิน (หัวเราะ) ก็จะถามไถ่อาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง กินยาหรือยัง”

สิงโต : “เมื่อก่อนกระเป๋าผมเหมือนคลังแสงเลยนะ ถ้าอยากได้อะไรมีหมด ยาต่างๆ ยาดม พาราฯ ยาแก้แพ้ ลิปมัน ประมาณว่าพร้อมดูแล ไม่เฉพาะกับคริสนะครับ กับทุกคนเลย” (ยิ้มกว้าง)

เม้าท์มุมตลกๆ ของอีกฝ่ายให้ฟังหน่อยค่ะ

คริส : (หัวเราะนำมาก่อนเลย) “พี่สิงเขามีโมเมนต์ฮาๆ ที่ช่วยเติมพลังให้ผมครับ นั่นคือเวลาที่ต้องเข้าฉากซีนแรกของวัน เขาจะมีความลิ้นแข็ง ลิ้นรวน แบบพูดยังไม่เข้าที่ ซึ่งเขาเป็นคนพูดไวอยู่แล้ว ก็จะแบบพูดรัวไม่เป็นภาษา @#%^@%$ อะไรก็ไม่รู้ (หัวเราะ) จากนั้นเขาก็จะวอร์มโดยใช้มือตีปาก ทำเสียงแบบชาวเผ่าอะ ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ผมรอ พอเห็นเขาทำแบบนี้ปุ๊บ ผมจะมีพลังทำงานทันที”

สิงโต : (หันไปมองหน้าคริส) “สิงกังวลว่าตัวเองจะพูดเหมือนท่องบท ไม่เป็นธรรมชาติ ก็เลยติดพูดเร็ว บางครั้งจึงมีอาการลิ้นพันกัน พูดไม่เป็นภาษา ก็ต้องวอร์มปากแลบลิ้นช่วย ซึ่งพอผมแบร่! (แลบลิ้น) คริสก็จะร้องเย้ พี่สิงมาแล้ว… (หัวเราะ) เหมือนทุกคนรอซีนนี้ของผมอะ”

คริส : “นี่คือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพี่สิงครับ”

รู้จักกันเกือบ 10 ปี! เปิดมุมซี้ปึ้ก "คริส-สิงโต" คู่จิ้นสายวายเบอร์ต้นของเมืองไทย

คบกันมาขนาดนี้ มีเรื่องอะไรที่รู้สึกคาดไม่ถึงบ้างไหมคะ

สิงโต : “จะเป็นในแนวอึ้งทึ่งมากกว่าครับ คือคริสพลังงานเยอะมาก เยอะจนแอบคิดว่าไม่เหนื่อยบ้างเหรอไง เฮ้อ…” (ถอนหายใจ)

คริส : “สำหรับผมไม่มีนะครับ ผมคิดว่าผมดูพี่สิงออกตั้งแต่แรกนะว่าเป็นอย่างไร และพออยู่ด้วยกันมาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่คาดไม่ถึง เพราะพี่สิงเขาตรงๆ เฟี้ยวๆ แบบนี้อยู่แล้ว เวลาอยู่ในคณะก็เดินใส่หูฟังอยู่คนเดียว นั่งร้านกาแฟคนเดียว ไม่สนใจใคร ซึ่งทุกวันนี้เขาก็ยังเหมือนเดิมนะ ชอบอยู่ในโลกส่วนตัว”

สิงโต : “ผมใส่หูฟังเพื่อปิดตัวเองจากภายนอก เพราะบางทีมีคนเดินเข้ามาทัก แล้วเราทำตัวไม่ถูก ก็เลยใส่หูฟังกันไว้เฉยๆ บางครั้งก็ไม่ได้เปิดเพลงนะ (หัวเราะ) แต่ผมไม่เชิงเป็น introvert (เก็บตัว) นะครับ เพราะถ้าต้องเข้าสังคมก็ทำได้ ไปเที่ยวกับเพื่อนได้ แต่ถ้าเมื่อไรต้องการพักจริงๆ ก็จะเลือกอยู่คนเดียวครับ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 962

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รักเหนี่ยวแน่นหนึบ! เปิดใจแฟนคลับ “คริส-สิงโต” ดูแลและผูกพันเหมือนคนในครอบครัว

ล้วงความลับ “คริส-พีรวัส” สารภาพจากใจ จริงๆ แล้วผมเป็นผู้ชายขี้งอน

รู้แล้ว…ทำไมใครๆ ถึงรัก “สิงโต-ปราชญา” ผมขี้เกรงใจ และทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา

Praew Recommend

keyboard_arrow_up