อัพเดตชีวิตการทำงาน “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” แม้งานในวงการบันเทิงจะแน่น แต่ก็ทำธุรกิจส่วนตัวด้วย
เรียกว่าขยันไม่หยุดจริงๆ สำหรับ “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคที่แจ้งเกิดจากซีรีส์ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ซึ่งล่าสุดได้เผยกับ แพรว ว่า แม้ตอนนี้งานในวงการบันเทิงจะแน่นมาก และอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ด้วย
เห็นว่าตอนนี้คิวงานแน่นเอี้ยดเลย
“ครับ ประมาณว่าทำงานทุกวัน อย่างช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาถือว่าพีคมาก เพราะต้องถ่ายซีรี่ส์ 5 ตอนพิเศษ เพราะเรา (ยัง) คู่กัน กับพี่ไบรท์ด้วย ต้องตื่นประมาณตี 5 อาบน้ำแต่งตัว ไปถึงกองถ่ายประมาณ 6 โมงเช้า แล้วทำงานลากยาวทั้งวัน กลับถึงบ้าน 4 ทุ่ม แต่ยังนอนไม่ได้นะ เพราะตอนนี้ผมทำธุรกิจเสื้อผ้าขายทางออนไลน์ด้วย จึงต้องเคลียร์งานต่อ ชีวิตวนลูปอย่างนี้ทั้งเดือนเลยครับ
“สมัยเด็กผมเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดกันว่าการเป็นนักเรียนสบายที่สุดแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมอยากทำงาน ไม่อยากเรียน พอมาทำงานจึงรู้ว่าเรียนสบายกว่าจริง ๆ (หัวเราะ) แม้งานจะหนัก แต่ก็ถือว่าเราได้ทำสิ่งที่ตัวเราเองมีความสุขมากๆ อย่างแรกคือเป็นงานที่ให้ความสุขกับผู้คนและไม่จำเจ ซึ่งตรงกับนิสัยผมที่ไม่ชอบงานรูทีน บางวันได้ถ่ายแบบ บางวันถ่ายเอ็มวี ซึ่งยังมีอีกหลายอย่างที่ผมอยากทำ เช่น เล่นบทแอ๊คชั่น เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสถ่ายโฆษณาแล้วได้ขึ้นสะลิง ตอนลอยอยู่บนนั้นให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นซูเปอร์แมนบินได้ (หัวเราะ) เลยคิดว่าถ้าได้เล่นแบบจัดเต็มน่าจะมันนะ”
พอมีชื่อเสียงแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม
“ที่ชัดเจนเลยคือไปที่ไหนก็มีคนจำได้ครับ ผมเคยลองพรางตัวนะ ใส่หมวก ใส่แมสก์ แต่เขาก็จำกันได้อยู่ดี สำหรับผมยังคงเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัว และยังน่าตกใจอยู่ เพราะผมมาจากคนที่โนเนมมากๆ เมื่อก่อนใส่ชุดนอนออกจากบ้านได้ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่ออกจากบ้านต้องดูแลตัวเองมากขึ้น และชีวิตส่วนตัวแคบลง ผมยังไปโรงหนัง ไปห้างบ้าง แต่ก็จะมีแฟนๆ เห็นตลอด อย่างวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันของครอบครัว ผมกับที่บ้านจะออกไปกินข้าวกันเป็นปกติ แฟน ๆ ก็จะตามหาว่าผมอยู่ที่ไหน (หัวเราะ) แล้วเขาเจอกันไวมาก ซึ่งผมไม่รู้เลยว่าตามหากันได้ยังไง พอเจอเขาก็ขอถ่ายรูป ผมก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเห็นใจ บางคนเห็นหน้าก็ร้องไห้เลย บอกว่ามาจากต่างจังหวัด ดีใจมากที่ได้เจอ ซึ่งผมโอเคนะ เขาอุตส่าห์ตั้งใจมาขนาดนั้น”
ได้ยินว่าทำธุรกิจส่วนตัวด้วย เล่าให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“ตอนนี้ผมทำธุรกิจสองอย่าง คือมาการองที่ผมทำร่วมกับพี่สาว (หมิง-มินตรา) สามารถเข้าไปสั่งได้ในอินสตาแกรม @Souri.bkk งานนี้ผมมีส่วนร่วมโดยช่วยเสนอรสชาติต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 6 รสชาติ ช็อกโกเเลต เรดเวลเว็ต คาราเมล โอริโอ้ ครีมชีส และเลมอนที่ผมภูมิใจเสนอ เพราะชอบอะไรเปรี้ยวๆ ก่อนทำธุรกิจนี้เราสั่งมาการองมากินเกือบทุกร้าน เพื่อดูว่ารสชาติของเจ้าอื่นเป็นอย่างไร อย่างผมไม่ชอบแนวหวานจัด บวกกับชอบวัตถุดิบพรีเมียม เน้นไส้เยอะๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เราต่างจากแบรนด์อื่น
“ส่วนธุรกิจที่สองคือทำเสื้อแบรนด์ Velence ครับ เพราะผมก็ชอบแฟชั่น อยากลองทำแบรนด์ของตัวเอง ดูไอเดียมาจากหลายๆ ที่ แล้วนำมาปะติดปะต่อกัน สำหรับที่มาของชื่อแบรนด์ เอาจริงๆ นะ ทุกวันนี้ก็ยังนั่งหาความหมายของมันอยู่ (หัวเราะ) คือแค่อยากตั้งให้คล้ายกับชื่อเมืองวาเลนเซีย (Valencia) ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งของประเทศอิตาลี แต่ผมยังไม่เคยไปนะ เคยดูจากรูปแล้วสวยมาก เหมือนหลุดไปอีกโลก บวกกับชื่อก็เพราะดี จึงเลือกชื่อนี้”
“ถ้าประทับใจที่สุดน่าจะเป็นงาน V Live Global Live Fan Meeting เรียกว่าเป็นงานที่ทำให้ผมได้ก้าวผ่านสิ่งต่างๆ ที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนั้น เช่น การร้องเพลง ซึ่งผมกลัวร้องเพี้ยน ให้เต้นยังไม่น่ากลัวเท่าร้องเพลง แต่วันนั้นผมร้องออกมาได้โอเค ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำสำเร็จลุล่วง ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น บวกกับมีคนชื่นชมมาเยอะ จึงรู้สึกกล้าที่จะร้องเพลงมากขึ้นครับ เป็นอีกวันที่ภูมิใจมาก”
มองภาพในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
“สำหรับผมคิดว่าตัวเองคงไม่หยุดทำงาน ผมอยากทำงานในวงการบันเทิง หลังจากนี้ก็อาจจะเป็นธุรกิจที่บ้าน หามุมที่สนุกของมันแล้วทำต่อไปเรื่อยๆ กับอีกอย่างคือผมเคยไปดูหมอดูครับ หมอดูบอกว่าผมอาจจะบวชตอนอายุ 40 ไม่รู้ว่าจริงไหมนะ ต้องรอดูกันไป” (หัวเราะ)
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 962
ภาพเพิ่มเติม : @winmetawin
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน ‘วิน-เมธวิน’ จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต
หน้าตาดียกบ้าน เปิดภาพ 4 พี่น้องของหนุ่มฮ็อต วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร
ทริคฟิตหุ่นเฟิร์ม ‘วิน-เมธวิน’ เปลี่ยนจากสายกิน ลดน้ำหนัก 10 กิโลได้ในเดือนกว่าๆ