โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า ทำไมต้องอายใคร? 8 คนดังระดับโลก เผยอาการป่วยหวังสร้างวิทยาทาน

โรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้า

เศร้าใจ หม่นหมอง หงุดหงิด รู้สึกผิด สิ้นหวัง คิดว่าตนไร้ค่า ความจำแย่ นอนไม่หลับ หนักสุดคือคิดถึงแต่ความตาย ถ้าใช่ นั่นอาจหมายถึงคุณกำลังมีภาวะสุ่มเสี่ยงเป็นผู้ป่วย โรคซึมเศร้า อยู่

คำถามคือเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้า คุณจะทำยังไง ซ่อนตัว เก็บงำอาการไว้เพราะอายที่จะให้ใครรู้ บอกเลยว่าผิดมหันต์ เพราะสิ่งที่คุณต้องทำคือเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง รวมทั้งบอกเล่าอาการของคุณกับคนชิดใกล้เพื่อให้เขาเข้าใจสภาวะที่คุณกำลังเผชิญอยู่ และเมื่อรักษาหายแล้วคุณจะใจดีออกมายอมรับอย่างไม่อาย เพราะหวังว่าอาการของเขาและเธอจะเป็นวิทยาทานให้ใครต่อใครได้ ดังเช่น 8 คนดังนี้ เราก็จะปรบมือให้ดังๆ

โรคซึมเศร้า ทำ ไมต้องอายใคร? 8 คนดังระดับโลก เผยอาการป่วยหวังสร้างวิทยาทาน

แบรด พิตต์ (ฺBrad Pitt)

โรคซึมเศร้า

พระเอกชื่อดังของฮอลลีวู้ดอย่าง แบรด พิตต์ ที่แม้จะอายุเยอะแล้วก็ยังหล่อไม่เลิก ตอนนี้ทุกคนคงชินตากับภาพครอบครัว โจลี-พิตต์ แสนสุข แต่หากย้อนไปในช่วงทศวรรษที่ 1990 ณ ห้วงเวลานั้นเขาต้องจมอยู่กับความหดหู่ พยายามหลีกหนีจากชีวิตแบบคนดัง แถมยังติดบุหรี่อย่างหนักมาแล้ว “ผมเคยเผชิญกับโรคซึมเศร้า ผมเคยติดต้องทำนิสัยอย่างเดิมทุกคืนก่อนนอน แล้วก็นับเลขเพื่อให้ตัวเองหลับ พอกลางวันก็แทบจะรอไม่ไหว อยากให้ถึงเวลากลับบ้าน เพื่อจะได้หมกตัวอยู่ในห้อง แต่ตอนนี้มันผ่านไปแล้ว ที่จริงผมหายมาเป็นสิบปีแล้วนะ และการเป็นโรคนี้ก็ช่วยให้ผมรู้จักตัวเองมากขึ้น ผมมองว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดีมาก แบบ ’เทอมนี้ผมกำลังเรียนวิชาโรคซึมเศร้า’ อะไรแบบนั้น”

แองเจลีนา โจลี (Angelina Jolie)

โรคซึมเศร้า

แองเจลินา โจลี นักแสดงรางวัลออสการ์ นอกจากฝีมือการแสดงจะถือได้ว่าเป็นตัวแม่แล้ว เธอยังใจบุญสุดๆ ด้วย เธอทุ่มเททำงานการกุศลมากมาย รับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงถึง 3 คน พ่วงด้วยตำแหน่งทูตพิเศษของสหประชาชาติ(UN) แต่เห็นชีวิตแฮปปี้แบบนี้ จริงๆ แล้วเธอเคยเป็นโรคซึมเศร้าในช่วงวัยรุ่นนะ และมันก็กำเริบอีกครั้งหลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตลงในปี 2007 “ตอนที่แม่ฉันเพิ่งเสียชีวิต ฉันต้องการจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ลืมเรื่องนี้ออกไปจากหัวสักพักนึง ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินเข้าไปสู่ที่ที่มีแต่ความมืดมิด แถมฉันยังไม่สามารถบังคับให้ตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียงในตอนเช้าได้ ดังนั้นฉันก็เลยตัดสินใจรับเล่นหนังเพื่อบังคับให้ตัวเองต้องแอกทีฟมากขึ้น”

กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow)

โรคซึมเศร้า

นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลดารานำหญิงลูกโลกทองคำและออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Shakespeare in Love คุณแม่ลูกสองที่มีผลพวงของการคลอดเป็นภาวะซึมเศร้าแถมพก “หลังจากฉันคลอดโมเสส(ลูกชาย) ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นซอมบี้ ไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก มันแย่มากๆ เลย กลายเป็นคนละเรื่องกับตอนที่แอปเปิ้ล(ลูกสาว)เกิด ตอนนั้นฉันมีความสุขมาก จนฉันยังไม่อยากเชื่อว่าฉันจะไม่รู้สึกแบบเดิมหลังจากโมเสสเกิด และฉันก็คิดแต่ว่าตัวเองเป็นแม่ที่แย่มากๆ แล้วก็เป็นคนที่ห่วยสุดๆ”

บียอนเซ่  โนวส์ (Beyoncé Knowles)

โรคซึมเศร้า

เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)

มอนสเตอร์สาวซ่าส์ เจ้าของชีวิตสุดรันทด ทั้งชีวิตยากจน พ่อแม่เป็นชนชั้นแรงงาน ติดยา ถูกข่มขืนสมัยเป็นวัยรุ่น ไม่แปลกที่ความบัดซบทั้งหลายทั้งปวงที่เธอเผชิญดึงเธอเข้าสู่ภาวะซึมเซร้า แต่สิ่งที่สุดยอดกว่าคือความกล้าที่จะพูดถึงมันต่างหาก “นั่นเป็นเพราะฉันได้เรียนรู้ว่าความเศร้าโศกไม่ได้ทำลายเรื่องดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น คุณก็แค่ต้องหาทางกลับไปสู่ความสุขให้ได้ มองหาแสงสว่างเล็กๆ ที่เหลืออยู่ ซึ่งฉันโชคดีที่หาแสงสลัวๆ นั่นเจอ”

ไมลีย์ ไซรัส (Miley Cyrus)

Miley Cyrus

นักร้องสาวซ่าส์กับเครดิตกล้า บ้า เปรี้ยว ไม่แคร์โลก ทำรายได้สูงตั้งแต่อายุยังน้อยจนติดลิสต์ 100 คนดังทรงอิทธิพลขแงนอตยสารฟอร์บส์ และก็เพราะภาพลักษณ์ ‘จอมแสบ’ ที่ติดตัวนี่แหละที่เป็นเหตุให้เมื่อเธอออกมาสารภาพว่าเป็นโรคซึมเศร้า จึงมีผู้คนกลุ่มหนึ่งสมน้ำหน้า “หลายคนมองอาการซึมเศร้าของฉันเหมือนว่าฉันทำตัวน่ารังเกียจ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกที่ฉันจะไม่ยอมเปิดใจด้วย และประสบการณ์ทั้งหมดที่ฉันเจอ ทำให้ฉันรู้ว่าจะช่วยคนอื่นๆ ได้ยังไง อย่างแรกที่ฉันสามารถบอกได้คือเราไม่จำเป็นต้องฝืนทำตัวเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือรู้สึกว่าต้องทำตัวมีความสุขตลอดเวลา มันไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าการต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นมีความสุขแล้วล่ะ”

เอลเลน ดีเจนเนอเรส (Ellen Degeneres)

หลายคนคงรู้จักเอลเลนจากรายการทอร์คโชว์ชื่อดังของอเมริกา The Ellen DeGeneres Show และผู้พากย์เสียงตัวละคร โดรี่ ปลาบลูแท้งค์ความจำสั้นจาก Finding Nemo แน่นอนว่าไม่มีใครคิดหรอกว่าพิธีกรสายตลกที่คอยสร้างความบันเทิงอย่างเธอจะเคยเผชิญกับโรคซึมเศร้าเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยกลัวมันเกิดขึ้นกับฉัน ฉันต้องหยุดซิทคอมของตัวเอง ฉันโดนโจมตีอย่างหนักในโลกออนไลน์ ฉันเปลี่ยนจากคนที่มีรายได้มากมายเป็นหาเงินไม่ได้สักดอลลาร์ และโดยเฉพาะการที่ฉันต้องเดินออกมาจากสตูดิโอที่เคยทำงานหนักมาถึง 5 ปี รับรู้ว่าทุกๆ คนปฏิบัติกับฉันอย่างไร้ค่าเพียงเพราะฉันเป็นเลสเบี้ยน และสิ่งนี้แหละที่ทำให้ฉันดำดิ่งสู่ภาวะซึมเศร้าในที่สุด”

เจ. เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling)

J.K. Rowlingเจ. เค. โรว์ลิง หรือชื่อจริงคือ โจแอนน์ โรว์ลิง ที่พวกเรารู้จักกันในฐานะผู้เขียนวรรณกรรมแฟนตาซีชื่อดังแห่งยุค “แฮร์รี่ พอตเตอร์” แต่ก่อนที่เธอจะมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ เธอเคยลำบากถึงขนาดต้องพึ่งเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แถมด้วยโรคซึมเศร้า จนเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว “ฉันไม่เคยรู้สึกอับอายที่เคยเป็นโรคซึมเศร้านะ ไม่เลย ก็มันมีอะไรต้องอายล่ะ ฉันเคยเผชิญกับช่วงเวลาที่แย่สุดๆ และฉันก็ภูมิใจที่ผ่านพ้นมันมาได้”

หลังจากอ่านบทความนี้จบ ถามตัวเองสิว่าคุณแปลกใจกับเรื่องของใครบ้าง และเรื่องของพวกเขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้จริงรึเปล่า ถ้าได้ก็ช่วยแชร์ต่อๆ ไป

เผื่อจะไปถึงคนที่กำลังตกอยู่ในภาวะ โรคซึมเศร้า เช่นเดียวกับคนดังเหล่านี้


 เรื่อง : Ghibli

ภาพ : Getty Images

Praew Recommend

keyboard_arrow_up