เวทีนางงามเมืองไทย

เวทีนางงามเมืองไทย เส้นใหญ่ ล็อคมง ปี 2020 ยังไม่หมดไปจริงหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
เวทีนางงามเมืองไทย
เวทีนางงามเมืองไทย

จับเข่าคุยกูรูนางงามตัวจริง  หนุ่ม-ประเสริฐ เจิมจุติธรรม  ในประเด็นร้อน เวทีนางงามเมืองไทย เส้นใหญ่ ล็อคมง ปี 2020 ยังไม่หมดไปจริงหรือไม่?

 เวทีนางงามเมืองไทย

เวทีนางงามเมืองไทย มีประวัติความเป็นมายาวนานไม่น้อยกว่า 86 ปี แล้ว หลังจากที่ประเทศไทยได้เริ่มจัดประกวดรายการแรกในปี 2477   “นางสาวสยาม” โดยรัฐบาลได้จัดขึ้นในงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ ต่อมาในปี 2482 ได้เปลี่ยนมาใช้ “นางสาวไทย” ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เรียกนามของประเทศว่าประเทศไทย สำหรับเวทีนี้หากมองผิวเผินอาจเป็นเพียงการแข่งขันความสวยความงาม แต่แท้จริงมันมีอะไรมากกว่านั้น มันสามารถสร้างโอกาสและเป็นบันไดสู่ความสำเร็จให้กับผู้เข้าประกวดได้ นี่จึงเป็นความฝันของผู้หญิงหลายคน

แต่! ผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียว ดังนั้นมันจึงนำไปสู่การแข่งขันที่ดุเดือด บรรดาสาวงามต่างสรรหาวิธีมาพิชิตใจคณะกรรมการซึ่งมีทั้งที่สู้กันถูกต้องและไม่ถูกต้อง  โดยเฉพาะประเด็น เส้นใหญ่ ล็อคมง เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ในอดีต จนกระทั่งปัจจุบันปี 2020 ก็ดูเหมือนว่าดราม่าแบบนี้ก็ยังไม่หมดไป  โดยในปีนี้เรียกว่าวงการนางงามเมืองไทยเดือดสุดๆ ตั้งแต่เวทีระดับท้องถิ่นยันเวทีใหญ่ระดับประเทศ กรณีแรกก็คือเวที นางสาวสมิหลา 2020 ที่ผู้เข้าประกวดบุกทวงความยุติธรรมบนเวที หลังได้คะแนนตอบคำถามดีแต่กลับตกรอบ ขณะที่คนเข้ารอบมีบางคนที่กรรมการให้ 0 คะแนน กรณีต่อมาคือเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ที่ผู้เข้าประกวดหมายเลข 82 เฌอเอม-ชญาธนุส สนิทสนมกับทีมงานกองประกวดเป็นพิเศษ ทั้งยังมีการให้คำแนะนำกันจนได้รางวัล “โกลเด้น เทียร่า” ซึ่งล่าสุดกองประกวดฯ ได้ออกมายืนยันว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน ดังนั้นเพื่อความยุติธรรมจึงขอตัดสิทธิ์ผู้เข้าประกวดคนดังกล่าว ทว่าแม้จะออกมาชี้แจงอย่างชัดเจน แต่กระแสข่าวลือเรื่องความไม่โปร่งใสก็ยังไม่หมดไป ทั้งยังมีบางกลุ่มที่เริ่มตั้งคำถามว่ายังมีแบบนี้อยู่อีกไหม

เฌอเอม-ชญาธนุส

เกี่ยวกับเรื่องนี้ หนุ่ม-ประเสริฐ เจิมจุติธรรม กูรูนางงาม ที่ยังพ่วงตำแหน่งกรรมการในรอบคัดเลือกและรอบชุดว่ายน้ำ ของเวทีการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ได้ให้สัมภาษณ์กับ “แพรวดอทคอม” ถึงประเด็น ” เส้นใหญ่ ล็อคมง ในปี 2020″ ไว้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

มุมมองเกี่ยวกับการคัดเลือกนางงาม

“พี่ต้องเล่าอย่างนี้ก่อนว่า การประกวดนางงามถ้าเราต้องการหาผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่ง พี่ว่าเราใช้เวลา 10 นาที ก็ได้แล้ว มอง 10 นาทีกรรมการก็รู้แล้วว่าคนไหนสวยที่สุด รูปร่างดีที่สุดก็ได้ตำแหน่งไป แต่การประกวดนางงามในระดับประเทศเขาต้องมีการเก็บตัวก็เพราะว่า พอเราได้ตัวผู้ชนะแล้วเขาก็ต้องเซ็นสัญญากับกองประกวด 1 ปี เพื่อจะทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนในต่างประเทศก็ดี หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก็ดี ดังนั้นการหาคนที่เหมาะสมที่สุด สำคัญกว่าการหาคนที่สวยที่สุด คำว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับพี่หมายความว่า ใครที่ดูว่าน่าจะทำงานด้วยได้ ในเวลา 1 ปี ดังนั้นความโปร่งใสมันไม่ได้อยู่ที่ผลของคณะกรรมการให้คะแนนกี่คะแนนเอามาตัดสินไม่ใช่ แต่เรื่องราวมันต้องร้อยมาระหว่างเก็บตัว มีวินัยในการทำงานมากที่สุด มีความจริงใจต่อการทำงานร่วมกับคนอื่นมากที่สุด คนนั้นเหมาะสมที่จะได้เป็นนางงามที่ได้รับตำแหน่งมากที่สุด สำหรับพี่เป็นแบบนี้ค่ะ ดังนั้นความโปร่งใสมันไม่ได้อยู่ที่ 2 ชั่วโมงที่เราเห็นบนเวทีการประกวด อันนั้นเป็นแค่หนึ่งโชว์เพราะว่า ในการประกวดเวทีระดับประเทศ มีบางรอบที่เราไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัส เช่น การสัมภาษณ์รายบุคคล ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้จะเป็นคณะกรรมการของกองประกวด ผู้ที่ใกล้ชิดกับกองประกวดจะสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล สัมภาษณ์ทัศนคติ สัมภาษณ์อะไรต่างๆ เขาจะต้องดูจนครบว่าคนนี้สามารถร่วมงานด้วยได้ไหม”

“เวลาเราดูการประกวดบนเวทีบางครั้งเราอาจจะรู้สึกขัดใจว่าทำไมคนสวยไม่ได้ ทำไมคนได้ไม่ใช่คนนี้ คือไม่ได้เลือกจากความสวยหรือความเก่งเพียงอย่างเดียว แต่พี่คิดว่ามันต้องรวมทั้งหมดเป็นคนๆ หนึ่ง โชว์ที่เราเห็น 2 ชั่วโมงมันเป็นแค่โชว์หนึ่งเท่านั้น เรื่องราวมันร้อยมาตั้งแต่วันรับสมัคร วันเก็บตัว แล้วก็การปฏิบัติตัวในกองประกวดระหว่างทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง พี่เลี้ยงกองประกวดให้คะแนนแบบไหน พี่เลี้ยงกองประกวดเองก็มีส่วนสำคัญ เพราะพวกเขาจะได้เห็นว่านางงามคนไหนมีวินัย นางงามคนไหนมีปัญหาน้อยที่สุด นางงามคนไหนสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้มากที่สุด”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020

ปี 2020 ประเด็น เส้นใหญ่ ล็อคมง ยังไม่หมดไป

“พี่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เพราะว่าอย่างที่พี่บอกไปว่าคนที่จะมาร่วมกับเขาได้ ต้องหาคนที่ทำงานร่วมกับเขาได้จริงๆ เพราะเขาจะต้องดูแลคนนี้ไปในระยะเวลาหนึ่งปี และการดูแลในสมัยนี้ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกับสมัยก่อน เพราะเนื่องจากมีผู้สนับสนุนเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นตัวแทนให้กับกองประกวดได้ ดังนั้นการที่จะมีเด็กเส้นหรือเด็กฝาก พี่ว่าสมัยนี้ไม่มีแล้ว”

“อีกอย่างโลกโซเชียลทุกวันนี้มันไปไกลกว่าที่คิดเอาไว้ ใครทำอะไรอย่างไร มันพร้อมจะหลุด พร้อมจะถูกแฉเสมอ พี่เชื่อว่ากองประกวดไม่เอาเกียรติภูมิ ของตัวเองมากแลกกับการที่จะต้องช่วยเหลือคนใดคนหนึ่ง หรือเห็นแก่คนใดคนหนึ่ง”

เวทีนางงามเมืองไทย

ยอมรับว่าคนอาจจะเสื่อมศรัทธาในเวทีนางงามเมืองไทยไปบ้าง

“มันก็ต้องมีบ้างที่มันอาจจะลดลงไป แต่เรื่องนี้มองได้สองมุม หนึ่งก็คือว่าการประกวดนางงาม ต้องยอมรับว่าในหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่นับปีที่แล้วกับปีนี้ การประกวดเหมือนเป็นการดูกันแค่เฉพาะกลุ่ม แต่ปีนี้ไม่ว่าจะกระแสด้านบวกก็ดี ด้านลบก็มาก ทำให้หลายคนที่ไม่เคยสนใจ ก็หันมามองว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่ อีกอย่างหนึ่งถึงจะมีข่าวดีบ้างหรือไม่ดีบ้าง แต่มันก็สร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการนางงาม สำหรับพี่คิดว่ามีข่าวดีกว่าไม่มีข่าว”

สิทธิพิเศษของนางงามบางคนมีอยู่จริง แต่ไม่ได้เป็นปัญหา

“พี่ว่าตรงนี้มันเป็นความรักลั่นของผู้คนที่อยู่ในสังคมของคนในวงการเดียวกัน สำหรับการเป็นพี่เลี้ยงนางงามถ้าเป็นพี่เลี้ยงนอกไม่ใช่พี่เลี้ยงในกองประกวดฯ มักจะถูกกันออกไป ตั้งแต่ในอดีตแล้ว พอส่งน้องเข้ามาอยู่กับเวทีแล้ว น้องจะถูกดูแลโดยพี่เลี้ยงกองประกวด แต่ทีนี้มันก็จะมีมุมรักลั่นกันเช่น ถ้านางงามคนนี้เคยเป็นนางแบบมากก่อน หรือเคยประกวดมาในหลายเวที พออยู่ในกองเขาก็อาจจะรู้จักกับช่างแต่งหน้าแต่ละช่างทำผม ซึ่งคนเหล่านี้ก็ทำงานอยู่ในแวดวงเดียวกัน ถามว่ามีสิทธิพิเศษไหม พี่ว่าอย่างน้อยที่สุดก็ต้องมี เพราะคนเคยรู้จักกัน พี่ว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนที่เราเคยรู้จักกันมาก่อน พี่ไม่มีปัญหาเรื่องสิทธิพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เกินไป เพราะนางงามบางคน แต่กับคนอื่นที่ไม่เข้าใจ อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นสิทธิพิเศษที่คนควรจะได้รับเท่ากัน แต่พี่ว่าในความเป็นจริงมันไม่ใช่”

อย่างไรก็ตาม หนุ่ม-ประเสริฐ ในฐานะกูรูนางงามและผู้ชื่นชอบการประกวดนางงาม ได้ทิ้งท้ายถึงน้องๆ ที่เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ที่กำลังสู้สุดใจอยู่ในตอนนี้ โดยกล่าวว่า “สำหรับน้องๆ ที่เหลืออยู่ พี่ก็อยากบอกว่า ปีนี้อาจจะมีดราม่าหนักหน่อย กำลังเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ว่าอย่างไรก็มีผลกระทบกับน้องๆ ที่เหลือทั้งนั้นแหละ แต่ต้องเข้มแข็งและก้าวผ่านไปให้ได้ มองเป้าหมายของเราว่าจะทำให้ดีที่สุดในช่วงสำคัญได้อย่างไร เพราะว่าเป็นครั้งหนึ่งที่ทุกคนจได้เดินบนเวทีอันทรงเกียรติ ที่คนจับตามองทั้งประเทศ และสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและครอบครัวให้ดีที่สุด และขอให้ทุกคนโชคดี”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปัดพัลวันฉาวรอบ 2 นางงามเส้นใหญ่ สนิทพีอาร์กองประกวดฯ

“เฌอเอม” ควง “เคน” เคลียร์ดราม่าทั้งน้ำตา ออกจากการประกวด MUT หรือไม่?

ล้วงลึกวิธีคิดในแบบ เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ สาวงามผู้ฉายแสงสู่จักรวาล

Praew Recommend

keyboard_arrow_up