account_circleเรียกว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในขณะนี้เลยสำหรับ เรื่อง รอยสัก ลิซ่า BLACKPINK ที่ถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นในการถ่ายแฟชั่นล่าสุด แม้จะเสี้ยวเดียวของรอยสักแต่กลับเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ของประเทศไทยอย่างดุเดือด เนื่องจากเสียงแตกเพราะมีทั้งผู้ที่ชอบและไม่ชอบ โดยฝ่ายที่ไม่เดือดร้อนมองว่าสิทธิ์ที่ในร่างกายเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าการสักทำให้ถูกมองไม่ดีและรับราชการไม่ได้
ท่ามกลางความร้อนฉ่าของประเด็นนี้ ดูเหมือนว่ายังไม่มีการคอนเฟิร์มว่ารอยด้านหลังที่ได้เห็นกันนั้นเป็นรอยสักจริงหรือสติ๊กเกอร์แทททู แต่หลายคนเชื่อว่าน่าจะเป็นรอยสักจริงๆ เนื่องจากรูปนี้เป็นรูปที่มีความหมายกับลิซ่า
เปิดความหมาย ดอกเอเดลไวส์ ( Edelweiss) รอยสัก ลิซ่า BLACKPINK
ลิซ่าเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าเธอชื่นชอบดอก ดอกเอเดลไวส์ (Edelweiss) หรือราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ ดอกไม้ประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งปัจจุบันเป็นพืชที่ได้รับการคุ้มครองในกลุ่มประเทศแถบเทือกเขาแอลป์ โดยลิซ่าเคยเล่าว่าสมัยเด็กที่เธอได้มีโอกาสไปสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณพ่อ (มาร์โค บรูชไวเลอร์ ) ของเธอ โดยระหว่างทริปเธอและครอบครัวได้เคยไปตามหาดอกไม้นี้บนภูเขา มันจึงเป็นความทรงจำแสนประทับใจ
ทั้งนี้ต้นปีที่ผ่านมาลิซ่าได้จับมือร่วมกับแบรนด์จิวเวลรีเก่าแก่สัญชาติอิตาเลียน Bulgari ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก ปล่อยผลงานพิเศษ BVLGARI BVLGARI X LISA เป็นนาฬิกาข้อมือรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่เธอนั้นได้ออกแบบด้วยตัวเอง
โดยฝาหลังของนาฬิการุ่นนี้ออกแบบโดยใช้ ดอก ดอกเอเดลไวส์ (Edelweiss) เป็นสัญลักษณ์ พร้อมกับวาดอักษรตัว ‘L’ ซึ่งเป็นชื่อย่อของเธอลงไปด้วยเพื่อแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของเธอในโปรเจกต์นี้
อย่างไรก็ตามดอกเอเดลไวส์แม้จะเป็นดอกไม้สีขาวที่ดูบอบบางแต่กลับรอดในสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นจัดบนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,800-3,000 เมตร พิสูจน์ว่ามันไม่เพียงแค่สวยแต่ยังแข็งแกร่งเฉกเช่นเดียวกับลิซ่าที่ ความแข็งแกร่ง และ ความกล้าหาญ