พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน ‘วิน-เมธวิน’ จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

Alternative Textaccount_circle
พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต
พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

เปิดเส้นทางชีวิตที่พุ่งแรงแบบฉุดไม่อยู่ของ ‘วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร’ จากวินสายกินในวัยเยาว์ สู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อตในวันนี้

ต้องบอกว่าผลงานแจ้งเกิดของน้องใหม่อย่าง “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” จากซีรีส์ ‘เพราะเราคู่กัน 2gether The Series’ ไม่ธรรมดาเลย การันตีด้วยหัวใจแฟนคลับที่พ่ายแพ้ให้กับความสดใสเป็นกันเอง ยิ้มทีไร ชวนใจละลาย อีกทั้งเส้นทางชีวิตกว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลย

พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

ก่อนหน้าจะเข้าวงการ “วิน-เมธวิน” เป็นอย่างไรคะ

“สมัยเด็กผมขี้อายมาก เวลาไปไหนเจอใครจะไม่กล้าคุย อย่างไปกินข้าวนอกบ้านจะสั่งอาหารกับพี่พนักงานก็ยังไม่กล้าเลย อยากกินอะไรต้องให้คุณแม่สั่งให้ และเวลาอยู่กับครอบครัวผมจะเป็นผู้ฟังมากกว่า ส่วนคนที่พูดจะเป็นคุณพ่อครับ (วินมีพี่สาว 2 คน และน้องชาย 1 คน)

“กระทั่งช่วง ม.ปลาย ผมรู้สึกว่าอยากออกไปเติบโตสัมผัสโลกกว้าง (หัวเราะ) จึงเลือกไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ปี ตอนนั้นเราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะไปอยู่รัฐไหน ซึ่งเมืองที่ผมไปอยู่ไม่ใช่เมืองใหญ่ มีแต่ธรรมชาติล้อมรอบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยน เพราะเป็นการใช้ชีวิตแบบที่ผมไม่คุ้นเคย เพราะผมโตในกรุงเทพฯ ชินกับสังคมเมือง กินข้าวหรือเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า แต่ที่นั่นคือมองไปทางไหนก็เจอแต่ไร่ข้าวโพด ผมจึงได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ วันหยุดนัดเพื่อนออกไป ตั้งแคมป์ในป่า ปิ้งมาร์ชแมลโลว์กินกัน (ยิ้ม)

“และ 1 ปีนั้นก็ทำให้ผมกล้าทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น ดูแลตัวเองได้ จากที่ไม่กล้าสั่งอาหารก็ต้องทำทุกอย่างเองหมด ทำให้มีความกล้ามากขึ้น” (ยิ้ม)

เป็นเหตุผลที่ทำให้สอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยเลยหรือเปล่า

“ใช่ครับ ซึ่งก่อนไปเรียนที่ไอโอวา ผมรู้แล้วว่าสามารถสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยโดยไม่ต้องเรียน ม.6 คือเป็นการสอบเทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายในประเทศไทย ตามหลักสูตรการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเลือกสอบเข้าเรียนต่อที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) เพราะคุณพ่ออยากให้เรียนด้านนี้เพื่อมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว ในอนาคต ซึ่งตอนนี้ก็เทอมสุดท้ายแล้วครับ ใกล้จบแล้ว (ยิ้ม)

“แต่ส่วนตัวแล้วผมอยากเรียนสถาปัตย์มากกว่า อยากเป็น สถาปนิก เพราะชอบออกแบบตกแต่งบ้าน แต่ไม่ได้วาดรูปเก่งนะครับ ชอบสเก็ตช์แบบในคอมพิวเตอร์แล้วตกแต่งห้องนอน ตกแต่งบ้าน”

พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

เล่าถึงที่มาของ “วินสายกิน” หน่อยค่ะ

(หัวเราะ) “เด็กๆ ผมคิดว่าตัวเองเป็นเด็กดีนะ ไม่ดื้อเลย (หัวเราะ) พอเลิกเรียนก็ไปเรียนพิเศษต่อตอนเย็น วีรกรรมแสบๆ ไม่มีเลย แต่เรื่องเด่นสุดคือเรื่องกินครับ (หัวเราะ) ผมเป็นสายกิน ต้องมีขนมตุนไว้ในล็อกเกอร์ที่โรงเรียนตลอด ซึ่งผมจะฝากคุณป้าแม่บ้านของโรงเรียนซื้อให้แล้วนัดส่งของกัน เพื่อแอบไม่ให้คุณครูเห็น ซึ่งเพื่อนจะรู้ว่าถ้าใครหิวต้องมาหาวิน เสบียงพร้อม! หรือบางครั้งก็แอบกินบะหมี่ใต้โต๊ะเรียนบ้างเท่านั้นเอง (ยิ้มเขิน)

“สมัยเด็กเรื่องกินเป็นเรื่องเดียวที่คุณแม่ต้องเตือนต้องบ่น ตลอดครับว่า วินหยุดได้แล้วนะ! จะกินอะไรขนาดนั้น ทำเหมือนคนอดอยากไม่ได้กินข้าวอย่างนั้นแหละ (หัวเราะ) เพราะผมกินเยอะจริงๆ และหิวทั้งวัน ลองนึกภาพข้าวผัดจานใหญ่ที่สุดตามร้านอาหาร พร้อมต้มยำหม้อไฟ ผมกินคนเดียวหมดเลยนะ กินแบบบ้าคลั่งมาก (หัวเราะ)

“แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดเป็นเด็กอ้วนนะ เรียกว่าตัวแน่นๆ แบบ มีเนื้อ (หัวเราะ) คงเพราะร่างกายเผาผลาญเร็วด้วย พอกินไปสักพักก็หิวอีกแล้ว (หัวเราะ) เคยกินวันหนึ่ง 6-7 มื้อเลยนะ แบบหิวทุก 2 ชั่วโมง ก็เลยดูเหมือนว่ากินทั้งวัน แต่พอทำงาน ไม่สามารถกินทั้งวันเหมือนเมื่อก่อนได้แล้วครับ ตอนนี้หิวก็ต้องอดทน กิน 3 มื้อตามปกติพอ (ทำเสียงเศร้า) นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อทำงาน ซึ่งผมก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้นะ” (หัวเราะ)

พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร

“ที่จริงก่อนหน้านี้ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นนักแสดงได้เลย กระทั่งมีคนชักชวนมาเป็นนักแสดง GMM TV ซึ่งกำลังจะทำซีรีส์เรื่องนี้พอดี ผมจึงได้มาแคสติ้งและรับบทเป็นไทน์ครับ

“ตอนเห็นบทครั้งแรกก็ไม่ได้ตกใจนะ เพราะสมัยนี้สังคมเปิดกว้างมากขึ้น จึงมีซีรีส์แนวนี้ออกมาเรื่อยๆ และก็ไม่ได้กังวลที่ต้องเล่นคู่กับผู้ชาย เพราะผมมองว่าเป็นซีรีส์รักเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ (ยิ้ม) แต่ที่กดดันคือเป็นการแสดง ครั้งแรก ทั้งกังวลว่าจะทำได้ไหม จะออกมาดีหรือเปล่า แต่ก็ปลอบตัวเองว่าเราน่าจะทำได้แหละ เพราะตัวละครไทน์มีส่วนใกล้เคียงกับผมอยู่ (หัวเราะ)

“ไทน์มีบุคลิกร่าเริง พลังงานเยอะ ซึ่งผมก็ประมาณนั้นนะ เพียงแต่ไม่เยอะเท่าไทน์ ส่วนนิสัยอื่นๆ ในเรื่องก็ต้องมีปรับบ้าง ซึ่งก่อนจะเปิดกล้อง ทางค่ายก็มีให้ไปเรียนการแสดงเพิ่มและทำการบ้านกับบท ทำความเข้าใจตัวละคร เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละฉากตัวละครรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร และตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามผู้กำกับเพิ่มเติม เพราะผมอยากทำให้เต็มที่ที่สุด ยิ่งเป็นเรื่องแรกของเราด้วยก็ใส่เต็มที่ครับ จะได้ไม่เสียดายทีหลัง

“ถ้าถามว่ากดดันไหม จริงๆ มากเลยแหละ แต่ตอนเล่นก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง จะได้ไม่เกร็งเกินไป (หัวเราะ) ผมยังจำซีนแรกที่เล่นได้ดีเลยนะ เป็นการถ่ายโปรโมตละคร และเป็นครั้งแรกที่ต้องอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ ตื่นเต้น มากครับ เกร็งจนแบบกลั้นหายใจ ทุกสิ่งที่ร่ำเรียนมาเหมือนจะหายไปหมดเลย (หัวเราะ)

“เพราะผมยังใหม่มากๆ แต่ก็พยายามปรับตัวให้เร็วที่สุด ทำความคุ้นชินกับทุกคนเพื่อลดความเกร็งลง ถ้านับจาก Ep.1 ไล่มา ผมคิดว่าการแสดงของตัวเองค่อยๆ ดีขึ้นนะ ผ่อนคลายมากขึ้น” (ยิ้ม)

พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

รุ่นพี่ “ไบร์ท” ให้คำแนะนำอะไรบ้าง

“ยอมรับว่าเจอพี่ไบร์ทช่วงแรกๆ ผมเกร็งนะ เพราะว่าเขานิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่พอเริ่มสนิท ได้ทำกิจกรรมหรือเตะฟุตบอล ก็ทำให้แสดงคู่กันได้ดีขึ้น ซึ่งเขาคอยแนะนำอยู่ตลอด อย่างบางทีผมไม่เข้าใจว่าตัวละครรู้สึกอย่างไร ทำไมพูดประโยคนี้ พี่ไบร์ทก็ช่วยไกด์ให้ และเวลาเข้าฉากด้วยกัน พี่ไบร์ทก็ช่วยส่งอารมณ์ให้ เพื่อทำให้ผมเล่นได้ดีขึ้น ช่วงแรกผมจะพูดกับเขาประจำว่า พี่…ผมกลัวจะเป็นตัวถ่วง เพราะผมใหม่ที่สุด นักแสดงคนอื่นๆ ก็มีประสบการณ์กันหมด พี่เขาก็จะคอยให้กำลังใจ บอกว่าสู้ๆ เว้ย” (ยิ้ม)

เวลาต้องเล่นฉากหวานๆ ด้วยกัน เขินไหม

“เขินอยู่แล้วครับ คือฉากไหนที่ไทน์รู้สึกเขิน ผมก็เขินไปตามบท (ยิ้ม) ซึ่งพอคัตก็กลับเข้าโหมดปกติ แต่บางครั้งก็มีติดมาบ้างนิดหน่อยว่า อ้าว เมื่อกี้เขินผู้ชายเหรอ (หัวเราะ) ซึ่งมันก็น่าเขินจริงแหละ เพราะเรื่องนี้นอกจากเป็นผลงานเรื่องแรกแล้ว ยังเป็นการจูบผู้ชายครั้งแรกด้วย” (หัวเราะ)

ด้วยกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปไหมคะ

“ถ้าความเปลี่ยนแปลงในชีวิตจริง ผมยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้ทุกคนอยู่บ้านกัน สิ่งที่ผมเห็นชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงในโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่มีคนพูดถึงเราเยอะ มีคนติดตามมากขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเราออกไปเดินข้างนอก ในสถานการณ์ปกติ แฟนๆ จะจำผมได้ไหม จะรู้จักผมหรือเปล่า

“จะมีก็แต่เพื่อนๆ ส่งมาบอกว่าเปิดเฟซบุ๊กทีไรเจอแต่หน้าผมตลอด เริ่มรำคาญผมแล้วเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่พวกเขาก็ดีใจที่ผลงานของผมได้รับคำชื่นชม หรือคนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจและภูมิใจ ซึ่งท่านก็ติดตามดูผลงานเรานะ มีชมว่าสนุกดี หรือเล่นเป็นธรรมชาติขึ้นนะ แต่พอผมดูตัวเองก็ยังรู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีกว่านี้อีก ยิ่งซีนแรกๆ ผมรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสกลับไปเล่นใหม่น่าจะดีกว่านี้ (ยิ้ม)

“ส่วนคอมเม้นต์แฟนๆ ก็เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ครับ ส่วนใหญ่บอกว่าชอบ แม้จะเป็นเรื่องแรก แต่ทำออกมาได้ดี ซึ่งพอเห็นคนดูชอบและอินไปกับเรา มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งดีใจ ภูมิใจ และทำให้หายเหนื่อยเลยครับ” (ยิ้ม)

พุ่งแรงฉุดไม่อยู่! รู้จักตัวตน 'วิน-เมธวิน' จากวินสายกินสู่พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต

ให้คะแนนตัวเองเท่าไร

“ยังไม่กล้าให้เลยครับ ถ้าต้องให้ก็ 2-3 คะแนนพอ (หัวเราะ) เพราะเวลาเห็นพี่ๆ ในวงการที่เล่นเก่งมากๆ จะคิดเสมอว่าเขาทำได้อย่างไร จึงยังมีอะไรอีกมากมายที่ผมต้องเรียนรู้และพัฒนา”

อีกเรื่องที่ไม่ถามไม่ได้ หัวใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ

(ทำท่าแกล้งหนี) “ตอนนี้โสดครับ” (ยิ้มเขิน)

มุมมองความรักตอนนี้เป็นอย่างไร

“มองภาพไปไกลขึ้น มองไปถึงอนาคต และไม่ได้มีความคิดว่าคบแล้วเดี๋ยวก็เลิกเหมือนตอนเด็กๆ คบใครก็อยากคบนานๆ ครับ และจริงๆ ผมค่อนข้างอ่อนไหวนะ ซึ่งผมว่าทุกคนมีมุมนี้อยู่ในตัวเอง เพียงแต่ผมอาจจะมีความร่าเริงมากกว่า ผมรู้สึกว่าการใช้ชีวิตให้สนุกสดใสดีกว่าที่ถ้าเจออะไรก็เก็บมาเครียดหรือคิดมาก จนกลายเป็นว่าเราดาวน์อยู่คนเดียว จึงชอบทำตัวเองให้มีความสุขอยู่ตลอด ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความสุข คนรอบข้างก็จะมีความสุขไปด้วย”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 958

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฟินจิกหมอน! ส่องออเดิร์ฟยั่วๆ แฟชั่นเซ็ต #คั่นกู ‘ไบร์ท-วิน’ แพรว พ.ค. 63

หน้าตาดียกบ้าน เปิดภาพ 4 พี่น้องของหนุ่มฮ็อต วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร

10 คำถามล้วงหัวใจ ‘ไบร์ท-วชิรวิชญ์’ หนุ่มสุดฮ็อตผู้ใช้เวลากว่า 8 ปี พิสูจน์ฝีมือ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up