ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ

ล้วงหัวใจ! ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ เซเลบริตี้หนุ่มสุดฮ็อต ทำไมโสดนานถึง 7 ปี

Alternative Textaccount_circle
ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ
ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ

Exclusive Talk เซเลบริตี้หนุ่มสุดฮ็อต ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ ลูกชายคนเล็กของทายาทหมื่นล้าน ตระกูลค้าทองคำแท่ง พร้อมล้วงหัวใจ ทำไมโสดนานถึง 7 ปี

หลังจากนางเอกสาวหน้าหวาน “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” ประกาศแต่งงานกับ “เซนต์-ธราภุช คูหาเปรมกิจ” ทายาทหมื่นล้าน ตระกูลค้าทองคำแท่ง หลายคนก็จับตามองไปที่หนุ่มๆ บ้านนี้เป็นพิเศษเนื่องจากยังมีหนุ่มหล่อแถมโสดอยู่อีกตั้ง 2 คน คือ ลูกชายคนกลาง “ฮิม–อิสริยะ คูหาเปรมกิจ” และลูกชายคนเล็ก ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ โดยเฉพาะคนนี้ เพราะสไตล์หนุ่มตี๋เกาหลีทำให้ไท้เป็นที่ชื่นชอบของหลายคนมากๆ ซึ่งในวันงานฉลองแต่งงานของ “มิว&เซนต์” แพรวดอทคอม ได้มีโอกาสสัมภาษณ์หนุ่มคนนี้แบบเอกซ์คลูซีฟ งานนี้นอกจากเรื่องงานแล้วก็ยังไม่พลาดพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องหัวใจที่โสดมาถึง 7 ปี ของหนุ่มคนนี้ด้วย

คูหาเปรมกิจคูหาเปรมกิจ

ทำไมตอนแรกถึงปฏิเสธไม่ยอมทำธุรกิจที่บ้าน?

“เพราะคิดว่าเราควรไปหาประสบการณ์ข้างนอกก่อน เพื่อที่จะได้เรียนรู้การเป็นพนักงาน ซึ่งผมก็ทำไปประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่จะกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งการที่เราทำแบบนั้นมันทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่คนทำงานอยากได้คืออะไร เราจะได้ปฏิบัติต่อพนักงาน ผมว่าการไปเก็บเกี่ยววิชาความรู้จากข้างนอก และได้มีโอกาสทำงานในองค์กรใหญ่ทำให้ผมได้ความรู้และนำมาปรับใช้กับการบริหารธุรกิจที่บ้านได้มากเลย”

เป็นความคิดของเราเองหรือเป็นเพราะที่บ้านปลูกฝังว่าอยากให้เริ่มทำจากตำแหน่งน้อยๆ ก่อน?

“คือจริงๆ ก็คุยกับคุณพ่อและคุณแม่อยู่แล้ว ว่ายังไม่อยากกลับมาเริ่มที่บ้านเลยทีเดียวเพราะว่า เราอยู่กับธุรกิจนี้มาค่อนข้างนาน เราค่อนข้างคุ้นชิน  ดังนั้นจึงอยากไปหาประสบการณ์จากข้างนอกก่อน เพื่อทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ไม่เช่นนั้นเราจะไม่เห็นว่าข้างนอกเปลี่ยนไปแค่ไหนแล้ว อีกย่างผมว่าทุกวันนี้โลกมันเปลี่ยนไป มันก็ควรจะต้องตามโลกให้ทัน ไม่นั้นธุรกิจเราจะตกยุคไปนั่นเอง”

สำหรับปีนี้ไท้วางเป้าหมายของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง?

“ตอนนี้ผมเพิ่งจะกลับมาบริหารธุรกิจของครอบครัว ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ห้างทอง จิ้นไถ่เฮง จำกัด ก็ตั้งเป้าว่าเราต้องมีการเติบโตอยู่ และเนื่องจากผมจบการตลาดมาจึงอยากนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”

 ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ

มีอะไรที่เป็นอุปสรรคสำหรับการทำงานของเจเนอเรชั่นใหม่แบบเราไหม?

“มีความเกร็งนิดหนึ่ง พนักงานหลายคนอยู่กับเราตั้งแต่เริ่มบริษัทขึ้นมา พอเรากลับไป การทำงานต้องมีการปรับรูปแบบบ้าง แต่ต้องค่อยๆ พยายามเปลี่ยนเขา พร้อมกับอธิบายว่าทำไมเราถึงมองต่างไปที่เขาทำอยู่  ไม่รู้ว่าคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นบุกเบิกจะไปด้วยกันได้แค่ไหน แต่ผมก็พยายามผสมผสานอยู่ แต่อย่างหนึ่งที่มั่นใจได้เลยก็คือ คนรุ่นเก่าเขามีประสบการณ์มากกว่าเราอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถเตือนหรือป้องกันภัยไม่ให้เกิดความเสียหายได้ดีกว่าเราแน่นอน เราก็มองว่าตรงนั้นเป็นสิ่งสำคัญเพราะว่าหากเราไปนับหนึ่งใหม่ ก็คงต้องเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น”

คุณแม่ท่านฝากความหวังไว้กับไท้อย่างไรบ้าง?

“คุณแม่อยากให้เข้ามาบริหารอย่างเต็มตัวอยู่แล้วครับ จริงๆ แล้วคุณแม่ค่อนข้างเปิดแนวทางบริหารหรือแนวทำการตลาดใหม่ๆ คุณแม่บอกว่าลองดูสไตล์คนรุ่นใหม่ทำอย่างไร คือเราจะมีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตลอด”

นอกจากเรื่องงานแล้วไท้ชื่นชอบอะไรบ้างหรือว่ามีกิจกรรมที่น่าสนใจอะไรบ้าง?

“คือจริงๆ ผมว่า work life balance เป็นอะไรที่ทุกคนอยากได้อยู่แล้ว ผมก็พยายามทำให้มันเท่าๆ กัน เวลาทำงานเราก็คงต้องตั้งใจทำงานให้เยอะ พอถึงเวลาพักผ่อน ผมก็จะพักผ่อนเต็มที่ ถ้าคนรุ่นก่อนก็จะทำงานทุกวันไม่ค่อยหยุด แต่ผมว่ามันควรจะทำให้พอดีทั้งสองอย่าง”

 ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ

แต่ละทริปใช้เวลานานขนาดไหน?

“แต่ละทริปขึ้นอยู่กับว่าเราไปไหน จุดหมายปลายทางคืออะไร ถ้าจุดหมายปลายทางไกลอาจจะต้องใช้เวลาเยอะนิดหนึ่ง เพราะอุตส่าห์เดินทางไปแล้ว ก็เพิ่มวันนิดหนึ่ง แต่ถ้าจุดหมายใกล้ก็ดูว่าอาจจะอยู่ 3 วัน 5 วัน อย่างนี้ก็ได้ครับ”

ส่วนมากชอบไปประเทศอะไรที่สุด?

“ยุโรปก็ชอบ เอเชียก็ชอบ แต่ชอบที่สุดคือ ปารีส กับ นิวยอร์ก ผมชอบในความวุ่นวายนิดหนึ่ง อย่าง ปารีส มันก็จะมีความน่ารักของตึก ความน่ารักของ เวลาเราไปซื้อก็จะมีอาหาร ไม่ใช่แค่อาหาร แต่จะมีเครื่องประดับต่างๆ ที่น่าสนใจ ส่วนนิวยอร์กคนค่อนข้างสดใส ถึงจะเป็นเมืองที่ค่อนข้างยุ่ง แต่มันก็มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ”

ปกติไปกับใครมีเพื่อนไปไหมหรือนิยมไปคนเดียว?

“จริงๆ ไปกับเพื่อนเป็นส่วนใหญ่ผมว่าไปกับเพื่อนซัก 3 – 4 คน กำลังสนุก ไม่วุ่นวายมาก แต่ถ้าไปซัก 5- 7 คนเริ่มแบบวุ่นวาย เพราะแต่ละคนก็อยากไปทำนู่นทำนี่”

มาถึงสิ่งที่หลายคนอยากรู้ว่า นิยามและมุมมองชีวิตคู่ของไท้เป็นอย่างไร?

“ผมว่าการจะมีใครสักคนที่เข้ามาในชีวิต คนนั้นจะต้องเป็นคนที่ช่วยดูแลกันและกันมากกว่านั้นคือต้องส่งเสริมกันประมาณนี้”

คูหาเปรมกิจ
ภาพจาก : phonetastic21

ไท้มองความรักในวันนี้ อย่างไรบ้าง?

“ตอนนี้ผมมองความรักในแบบที่เป็นจริง เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ผมมองว่าความรักต้องสวยงาม หรือแค่แอบชอบเราก็มีความสุข แต่พออายุเพิ่มขึ้นเราก็มองว่ามันเป็นอะไรที่จริง เราต้องอยู่กับเขาได้อยู่เป็นเพื่อนกัน เป็นคู่คิดกันได้”

สำหรับความรักไท้เชื่อในเชื่อในพรหมลิขิตหรือเชื่อในตัวเองมากกว่ากัน?

“ผมเชื่อในทั้งสองอย่างได้ไหม (หัวเราะ)  จริงๆ แล้วผมว่าการที่ความรักจะเกิดขึ้นได้มันก็คงมีพรหมลิขิตด้วยแหละแต่ ในความบังเอิญอันนั้นมันมีสิ่งที่เราเลือกที่จะทำอยู่ อย่างเช่น สมมติ ถ้าไปเจอเขาที่ร้านหนึ่ง ร้านนี้อาจจะเป็นที่ประจำที่เรามาอยู่แล้วจึงทำให้ได้พบกัน”

ตอนนี้มีความรักแล้วหรือยัง?

“มีเป็นแบบเพื่อนๆ กันมากกว่ายังไม่ได้เป็นแฟน”

ตอนนี้อายุเท่าไหร่และมองว่าจะแต่งงานอายุเท่าไหร่?

“ตอนนี้ผมอายุ 30 แล้วครับ ผมยังไม่แน่ใจว่าจะแต่งงานอายุเท่าไหร่ ผมว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า อย่ากำหนดเลยว่าอายุเท่านี้ จะต้องทำอย่างนั้น เพราะว่ามันไม่ใช่การเรียนหนังสือที่มันต้องมีเกณฑ์ในการเรียน อันนี้มันคือความรักผมว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติถึงเวลาที่เหมาะสม เจอคนที่เหมาะสมก็น่าจะดี ผมว่าถ้าเรากำหนดว่าอยากแต่งงานอายุเท่านี้เราไม่เจอใคร เราต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ ผมว่ามันก็อย่าไปกำหนดที่อายุดีกว่า”

ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ

เห็นว่าตั้งแต่เลิกรากับแฟนเก่าไป 7 ปี ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครเลย ทำไมถึงโสดนานขนาดนี้?

“อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมโสดนานขนาดนี้ (หัวเราะ)  แต่ผมก็ค่อนข้างมีความสุขกับชีวิตตอนนี้อยู่ เราอยู่กับเพื่อนทำงาน ก็ค่อนข้างแฮ็ปปี้เลย ยิ่งพอกลับมาทำงานที่บ้านแล้ว เรามีเป้าชัดเจนว่าเราอยากขยายยอดขายธุรกิจ ผมว่ามันมีอะไรในชีวิตที่ทำนอกจากการหาแฟน แฟนเป็นส่วนหนึ่งหรือคู่ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมในเรื่องต่างๆ แต่ถ้าเราต้องไปทุ่มให้เขาอยู่ฝ่ายเดียว ผมว่าความรักแบบนั้นก็ไม่ใช่ความรักที่อยากได้ มันต้องเป็นภาพรวมที่เราแฮ็ปปี้ เราต้องอยู่และต้องสบายใจ”

สุดท้ายที่ผ่านมาเคยทุ่มเทกับความรักขนาดนั้นไหม?

“อย่างที่บอกตอนเด็กๆ มันก็แฟนตาซีเนอะ เรามองว่าความรักมันต้องพิเศษและทุ่มเท แต่พอโตขึ้นมันก็จะเห็นมุมมองที่ต่างกันออกไป อย่างที่บอกความรักมันควรจะเป็นเพื่อนคู่คิด ควรที่จะอยู่ด้วยกันและสบายใจ และส่งเสริมกันในทุกๆ เรื่องครับ”


IG @tie_ku

เรื่อง : นนทพร สุทธิพิบูลย์

สามารถอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ฉลาด ทำงานเก่ง ! สเปคนี้โดนใจ ไท้-วสุวัส โอปป้าสุดหล่อ แห่งบ้าน คูหาเปรมกิจ

สละโสดไป 1 เหลืออีก 2 พี่น้องตระกูลค้าทองคำ เซนต์ ฮิม ไท้

เปิด เทคนิคการถ่ายภาพ สุดแจ่มฝีมือช่างภาพสมัครเล่น ไท้ วสุวัส น้องชายว่าที่สามีมิว นิษฐา  

Praew Recommend

keyboard_arrow_up