คิดถึง คิมอูบิน ... ครบ 1 ปีที่ชาวโลกรู้ว่าเป็นมะเร็ง ขออปป้าจง #staystrong

คิดถึง คิมอูบิน … ครบ 1 ปีที่ชาวโลกรู้ว่าเป็นมะเร็ง ขออปป้าจง #staystrong

ย้อนกลับไปวันที่ 24 พฤษภาคม ปีที่แล้ว(2017) ทันทีที่ Sidus HQ ต้นสังกัดของ คิมอูบิน ออกมาเปิดเผยอาการป่วยเป็น มะเร็งหลังโพรงจมูก แฟนคลับ #บินนี่ ทั่วโลกก็ถึงกับช็อคไปตามๆ กัน

ข้อความที่ต้นสังกัดออกมาบอกในวันนั้นคือ “เมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างทำงานตามตารางงานต่างๆ คิมอูบินรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย จึงได้ไปโรงพยาบาล และได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก โชคดีที่อยู่ในขั้นตอนที่ยังไม่สายไปในการรักษา ซึ่งเขาได้เริ่มรักษาด้วยยาและการฉายรังสีแล้ว”

มะเร็งหลังโพรงจมูก คือเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อเมือกหลังโพรงจมูก ผู้ป่วยจะมีอาการน้ำมูกปนเลือด และหูอื้อเหมือนเยื่อแก้วหูอักเสบ ซึ่งก็ทำให้เข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นหวัดหรือเยื่อจมูกอักเสบ ในรายของอูบินนอกจากจะมีเลือดกำเดาไหลบ่อยๆ แล้ว เขายังมีอาการคอบวมเป็นพักๆ ด้วย ซึ่งห้วงเวลานั้นอูบินได้ผ่านการแคสติ้งภาพยนตร์เรื่อง ‘Wiretap’ ของผู้กำกับชเวดงฮุนแล้ว แต่กลับมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจเข้ารับการตรวจวินิจฉัยก่อนถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้พบว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก

คิมอูบิน

ว่ากันว่าในตอนแรกอูบินตั้งใจว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเข้ารับการรักษา แต่คนรอบข้างและทีมงานภาพยนตร์ รวมถึงผู้กำกับชเวดงฮุนต่างก็ห้ามปราม บอกให้เขาไปรักษาตัวก่อน จากนั้นก็มีการเปิดเผยแนวทางการรักษาว่าคณะแพทย์เลือกจะรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกของอูบินด้วยยาและการฉายรังสี โดยจะไม่มีการผ่าตัดเพื่อไม่ทำให้สมองกระทบกระเทือน

การเปิดเผยของแพทย์ที่ว่าแม้จะโรคที่รักษาได้ง่ายแต่เปอร์เซ็นต์หายขาดก็มีความเป็นไปได้สูง ทำให้แฟนๆ จำนวนมากที่ช่วยกันสวดภาวนา จนเกิดแฮ็ทแท็ก #prayforkimwoobin ขึ้นในโลกโซเชียล

กระทั่งปลายปีที่แล้ว ก่อนปีใหม่เพียงไม่กี่วัน คิมอูบิน ก็ได้ออกมาทำให้แฟนๆ น้ำตาปริ่ม ด้วยการโพสต์ข้อความอัพเดทสุขภาพของเขาผ่านทางแฟนคาเฟ่ของตัวเองว่า

คิมอูบิน

“ผมพบว่าตัวเองหยิบปากกาขึ้นมาถือค้างกลางอากาศหลายต่อหลายครั้งด้วยความสงสัยว่าผมจะเริ่มเขียนจดหมายฉบับนี้ยังไงดี ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผมอยากจะเขียนจดหมายถึงพวกคุณนานแล้ว แต่เพราะต้องจดจ่ออยู่กับการรักษาและดูแลสุขภาพของตัวเอง จนกระทั่งเจ็ดเดือนผ่านไป ด้วยความเคารพ ผมใช้เวลาคิดนานมาก กว่าจะเขียนจดหมายถึงพวกคุณ เพราะผมรู้สึกกลัวทุกครั้งที่ชื่อของผมจะปรากฏอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่คนค้นหา แต่ผมก็อยากจะคุยกับพวกคุณจริงๆ อยากขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และอยากจะคุยกับทุกคนก่อนสิ้นปี

“ผมเชื่อว่าด้วยการสนับสนุนและคำอธิษฐานของพวกคุณที่มอบให้ผม ทำให้ตอนนี้ผมปลอดภัยแล้วจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด 3 ครั้ง และฉายรังสี 35 ครั้ง ระหว่างการรักษาผมเข้มแข็งได้เพราะข้อความที่ทุกคนส่งมา ทั้งทางแฟนคาเฟ่และโซเชียลมีเดีย ขอบคุณทุกคนจากใจจริงครับ ตอนนี้ผมได้รับการรักษาที่จำเป็นหมดทุกขั้นตอนแล้ว แต่ยังต้องคอยเช็คดูอาการเพื่อฟื้นตัวต่อไป

“ตอนนี้ผมยังต้องติดตามผลการรักษาและรอเวลาที่ร่างกายฟื้นตัว ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาอีกหน่อย ก่อนที่ผมจะสามารถกลับมาทักทายทุกคนอีกครั้ง ผมบอกพวกคุณเสมอว่าเรื่องสุขภาพสำคัญที่สุด แต่สุดท้ายผมกลับมาป่วยซะเอง จึงอายนิดหน่อยที่กลายเป็นคนป่วยซะเอง แต่หลังจากนี้ผมจะดูแลสุขภาพมากขึ้น เพื่อที่จะนำข่าวดีมาฝากทุกคนในอนาคตนะครับ”

คิมอูบิน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ทาง SidusHQ ต้นสังกัดก็ออกมาแจ้งข่าวเพิ่มเติมว่า อปป้าที่รักของแฟนๆ ได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหาร

“คิมอูบินถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 และไม่นานหลังจากที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีฉายรังสี เขาก็ได้รับหมายเรียกจากกองทัพ ต่อมาเขาก็ได้รับการตรวจร่างกายและผลก็คือไม่เหมาะที่จะทำหน้าที่ในกองทัพ โดยเขาถูกจัดให้อยู่ในระดับ 6 ซึ่งหมายถึงเขาไม่สามารถที่จะเข้ากรมรัยใช้ชาติได้(การวัดผลการตรวจร่างกายของเกาหลีมีทั้งหมด 7 ระดับ โดยระดับ 6 บ่งชี้ว่าคิมอูบินได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารเนื่องจากโรค หรือมีภาวะความไม่สมบูรณ์ทางร่างกาย หรือจิตใจ)

“ตอนนี้คิมอูบินรักษาด้วยวิธีหลักๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังได้รับการตรวจเช็คร่างกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เราอยากจะให้ทุกคนช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับเขา เพื่อในอนาคตคิมอูบินจะได้มาทักทายทุกคนด้วยสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้”

คิมอูบิน

ก่อนหน้านี้ SidusHQ เคยออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับการให้เคมีบำบัด (คีโม) รอบแรกของคิมอูบินว่าถึงแม้นักแสดงหนุ่มจะไม่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากการทำคีโม นั่นคือผมของเขาไม่ร่วง แต่ทว่าน้ำหนักของเขาก็ลดลงไปกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งหลังจากนั้นคิมอูบินยังต้องรับคีโมอีก 2 ครั้ง รวมกับการฉายรังสีอีก 35 ครั้ง ตามเนื้อความในจดหมายที่เขาเขียนบอก จึงคาดว่ารูปร่างของเขาคงต้องเปลี่ยนไปพอสมควร

แต่หากนับว่าตอนนี้คิมอูบินเพิ่งมีอายุได้เพียง 28 ปีเท่านั้น(คิมอูบินเกิดวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1989) จึงเชื่อได้ว่าด้วยพลังใจและพลังกายของวัยหนุ่ม เขาจะต้องบิลด์ร่างกายจนกลับมาเป็นอปป้าสุดหล่อของแฟนๆ ได้อย่างแน่นอน

คิมอูบิน

คิมอูบิน

คิมอูบิน

คิมอูบิน

คิมอูบิน

โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ก็ครบรอบหนึ่งปีเต็มแล้วที่ชาวโลกได้รับรู้ข่าวการป่วยของเขา ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาแฟนๆ ทั่วโลกยังพากันโพสต์ข้อความอวยพรพร้อมติดแฮทแท็ก #getwellsoonkimwoobin อย่างต่อเนื่องแทบจะไม่เว้นวัน

คิมอูบิน

แพรวเองก็ขออวยพรให้อปป้าคิมอูบิน #staystrong กลับมาสร้างผลงานให้โลกบันเทิงเร็วๆ ยิ่งเป็นปลายปีนี้ได้ก็จะเริ่ดมว้ากกก

 

 

ที่มาภาพ : https://www.instagram.com/kimwoobin_89/

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up