พิ้งกี้ เสียงเครือเผยปมเลิก ไฮโซเพชร ยันแม่ไม่ยุ่งและเงินไม่ใช่ปัจจัย

พิ้งกี้ เผยปมเลิก ไฮโซเพชร เพราะทัศนคติไม่ตรงกัน ยันไม่คิดแฉกลับหลังฝ่ายชายออกมาเผยหมดเปลือก เพราะชีวิตทุกวันนี้เดินหน้ามาไกล หากมีอะไรต้องคิดก็คิดถึงแต่สิ่งดีๆ เพราะอย่างน้อยเขาก็เคยเป็นสามี

พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช

ปีนี้เหล่าคนดังถือฤกษ์ลั่นระฆังวิวาห์กันเยอะ แต่ในทางกลับกันมีหลายคู่เลิกรากันเป็นจำนวนมากด้วยทั้งยังคาราคาซังและเลิกแบบฟ้าผ่าทำเอาหลายคนตกใจไปตามๆกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคู่ของนางเอกสาว พิ้งกี้ -สาวิกา ไชยเดช กับสามีนักธุรกิจชื่อดัง ไฮโซเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง ที่ออกมายอมรับว่าได้ตัดสินใจหย่าและแยกกันอยู่เป็นที่เรียบร้อย โดยในทีแรกฝ่ายหญิงยังไม่ขอเปิดเผยถึงสาเหตุ แต่ไม่นานหลังจากนั้นดีกรีความร้อนของเรื่องนี้มีความร้อนแรงมากขึ้นเมื่อไฮโซเพชรออกมาเผยว่าต้นเหตุมาจากครอบครัวของฝ่ายหญิง และการผิดสัญญาด้วยการกลับไปรับงานในวงการบันเทิง ทั้งที่เคยตกลงกันว่าจะช่วยทำธุรกิจ ซึ่งการที่ฝ่ายชายออกมาเปิดเผยทำให้พิ้งกี้ถูกวิจารณ์ไม่น้อย แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2560 พิ้งกี้ ยอมเปิดใจและเปิดปากถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเธอปฏิเสธว่าข่าวลือที่ออกมาหลายเรื่องไม่ใช่เรื่องจริง พร้อมยืนยันว่าสาเหตุที่ทำให้เตียงหักมาจากทัศนคติไม่ตรงกัน แต่เธอไม่ขอชี้แจงใดๆ เพราะไม่อยากทำให้ฝ่ายชายต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง อย่างน้อยก็เคยได้ชื่อว่าเป็นสามี

“กี้ขออธิบายว่าสาเหตุหลักๆ คือทัศนคติที่เรามองไม่เหมือนกัน แต่ไม่ขออธิบายมาก ไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้ใครเสียหาย เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องที่ต้องพูดถึงเขาในทางไม่ดี อย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นสามี เคยดีเคยดูแลกันยังไง เราก็เก็บตรงนั้นไว้ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีคงไม่คิดและปล่อยไปค่ะ ตอนนี้ขอมองไปข้างหน้า แต่ยอมรับว่าข่าวที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกเสียใจและตกใจเมือนกัน แต่สำหรับตอนนี้เราพูดมากไม่ได้ และไม่อยากจะตอบอะไรไปมากกว่านี้ เพราะเราก็เป็นคนอื่นกันไปแล้ว”

เมื่อถามว่าข่าวที่ออกมาทำให้คนในครอบครัวถูกพาดพิง ไม่อยากแก้ไขหรือ ในเรื่องนิ้ดาราสาวกล่าวว่า “หนูเป็นดารา เรื่องข่าวเสียหายมันมีตลอดอยู่แล้ว แต่กลับกันพี่เขาเป็นนักธุรกิจ กี้พูดในสิ่งที่ไม่ดีไม่ได้เพราะมันอ่อนไหวมาก เอาเป็นว่าใครจะมองไม่ดีไม่เป็นไร แค่เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ก็พอ

“แม่เองเขาก็เป็นผู้ใหญ่และเขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากตัวกี้นี่แหละที่เป็นคนตัดสินใจ แม่ไม่ได้เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการรับงาน เพราะแม่เองไม่สามารถบังคับกี้ได้ ตัวเราเองเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก การที่เรารับงานก็เพราะงานเลือกเราก่อน เพราะเราเป็นนักแสดง เพราะฉะนั้นไม่มีใครที่จะสามารถมาบังคับกี้ได้ว่าต้องทำอย่างนั้นหรืออย่างนี้ ทั้งนี้การที่เราเลือกแต่งงานมันเป็นการตัดสินใจระดับหนึ่งแล้วว่าเราคิดยังไงตอนนั้น ถามว่าร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากมีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวหรอก แต่เมื่อวันนึงมันไม่ประสบความสำเร็จเราก็ต้องยอมรับ ส่วนสาเหตุ มันเป็นเหตุผลของคนสองคนที่อาจจะมีอะไรไม่เข้ากัน หรือความคิดไม่ตรงกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่แน่ว่าบางทีในอนาคต 1-2 ปีข้างหน้าอาจจะมีอะไรดีๆ ก็ได้” พิ้งกี้กล่าว

อย่างไรก็ตามในประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเงินนั้น พิ้งกี้กล่าวว่า “เรื่องเงินเราก็ได้ยินมาจากข่าวก่อนหน้านี้ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แม่ก็ไม่เคยให้ข่าวใครอยู่แล้ว แต่ข่าวที่ออกมามันเยอะมาก กี้บอกเลยว่าทุกอย่างตัดสินใจด้วยตัวเราเอง เงินไม่ได้เป็นปัจจัยสำหรับกี้ เพราะกี้ทำงานตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว”

สุดท้ายในการสัมภาษณ์ดาราสาวยังได้ทิ้งข้อคิดไว้อีกด้วย โดยบอกว่า “ชีวิตในวันนี้แฮ็ปปี้ค่ะ แฮ็ปปี้ตรงที่ข่าวมันผ่านไปแล้วมันก็ผ่านไป ทุกคนต้องเดินหน้า กี้เองคงไม่คิดถึงอดีต เพราะไม่มีอะไรให้ต้องคิดค่ะ”


ภาพจาก : @taetae_parada,@pinkysavika

Praew Recommend

keyboard_arrow_up