Hertitude CLINIC (เฮอร์ทิจูด คลินิก) ก่อตั้งขึ้นโดย คุณหมออาร์ม นายแพทย์วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ Medical Director ชื่อดัง ปังไม่หยุด ขยายสาขาเพิ่มขึ้นในปี 2024 นี้ เปิดสาขาใหม่สุดหรู ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท ณ ศูนย์การค้า Emsphere ที่ก้าวล้ำด้วยนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล พร้อมการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ

ซึ่ง Hertitude นิยามมาจากคำว่า Her Attitude หมายถึง ผู้หญิงมีทัศนคติที่ดี เก่งรอบด้าน มีความมั่นใจและที่สำคัญยังไม่ลืมการดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ จุดเด่นที่นี่คือ คลินิกสุดหรู โดดเด่นด้วยเทคนิคการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคลและได้รับการยอมรับมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของคนไข้สูงสุดซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หลากหลายแบรนด์จากทั่วโลกที่คัดสรรมาแล้ว ใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและเลเซอร์จากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และ เกาหลี

สำหรับสาขาที่ 4 ตั้งอยู่ที่ Emsphere ชั้น 8 อาคาร EM TOWER ในบรรยากาศที่ให้ประสบการณ์ความล้ำสมัยที่ไม่มีใครเหมือน มีความเป็นส่วนตัว ตกแต่งแบบ Contemporary design ให้ความรู้สึกอบอุ่นในขณะเดียวกันยังมีความ professional โอบล้อมด้วยวิวธรรมชาติและสังคมคนเมือง คนไข้ที่มารับบริการสามารถสัมผัสบรรยากาศจากห้องหัตถการในโซนต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง

และมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน คือ Beyond Beauty เหนือกว่าแค่ความงาม เรามอบประสบการณ์การรักษาที่ปลอดภัยด้วย Professional ด้านความงาม และเชื่อในความงามที่ปราศจาก downtime (ไม่ต้องพักฟื้น)

ลาพักรถ จอดรถไว้บ้าน..ยาก! แต่ใช่ว่าทำไม่ได้ คนทรู ปักวันปลอดรถโลก (Car Free Day) “เปลี่ยนการเดินทาง เปลี่ยนโลก” ลดดีกรีโลกเดือด

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างมหาศาล เป็น “ตัวการหลัก” ของภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรง จากข้อมูลของ World Bank Data พบว่า ภาคการขนส่ง ติดท็อปชาร์ต 3 อันดับที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด ซึ่งเป็นชนิดของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศโลกถึง 76% ทำให้เกิดการสะสมพลังงานความร้อนมากที่สุดและมีอายุในชั้นบรรยากาศนานถึง 300 – 1,000 ปี โดยในปี 2566 การขนส่งในประเทศไทยมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึงประมาณ 30% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด โดยเฉพาะ “การใช้รถยนต์ส่วนบุคคล” ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 325 – 245 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อคนต่อกิโลเมตร มากกว่าการเดินทางโดยรถสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า ถึง 10 เท่า

คนทรู “ยื่นใบลาพักรถ” ช่วยลดคาร์บอน

ในปี 2566 การเดินทางมาทำงานของพนักงานทรู ติด 1 ใน 5 อันดับสูงสุดของแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมของบริษัทฯ (GHG Scope 3) คิดเป็น 5,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือมีปริมาตรเท่ากับการปล่อยบอลลูนลูกใหญ่ถึง 5,300 ลูกสู่ชั้นบรรยากาศ หรือหากจะคำนวณอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ให้เห็นภาพ ก็คือ 1 ตันของคาร์บอนไดออกไซด์ต้องใช้ต้นไม้โตเต็มวัยดูดซับคืนถึง 85 ต้น นั่นหมายความว่า เราต้องปลูกต้นไม้ขนาดโตเต็มวัยถึง  405,500 ต้น เพื่อที่จะดูดซับคาร์บอนทั้งหมดจากการเดินทางของพนักงานในปีผ่านมาได้

และเพื่อสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปด้วยกัน ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดปฏิบัติการ “True Car Free Day” เปลี่ยนการเดินทาง เปลี่ยนโลก รับ World Car Free Day หรือ วันปลอดรถโลก 22 กันยายน 2567 เชิญชวนคนทรูทั่วประเทศ ร่วมกันเปลี่ยนวิถีการเดินทางมาทำงานที่คุ้นชินในแต่ละวัน เป็นการเดินทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ด้วยการหันมาใช้รถสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ หรือ Carpool ติดรถกันมา รวมถึงการปั่นจักรยาน และเดินมาทำงานที่ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย ซึ่งการที่พนักงานทรูไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเพียงแค่ 1 วัน เปรียบเสมือนเราได้ปลูกต้นไม้วันละ 170 ต้น ถ้าทำทั้งปีจะเท่ากับ 40,800 ต้นเลยทีเดียว

และในวัน True Car Free Day นี้ มีพนักงานทรูที่เดินทางมาทำงานในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลเข้าร่วมโครงการกว่า 1,065 คน สามารถช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ 627 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และลองคิดดูหากเราไม่หยุดเพียงแค่วันนี้ แต่ทำมากขึ้นๆ และต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เราจะช่วยกันสร้างปรากฎการณ์ลดภาวะโลกเดือดได้ทวีคูณขนาดไหน

ทำได้ แม้ว่ายาก! เปิดสถิติที่สุดแห่งวัน True Car Free Day

เมื่อจอดรถไว้บ้าน ชีวิตเปลี่ยน…เคยขับรถ เปิดแอร์ ฟังเพลงมาชิลๆ ก็ต้องหันมาใช้วิธีการเดินทางอื่นที่แน่นอนใช่ว่าต่อเดียวแล้วจะถึง จากการสำรวจเพื่อนพนักงานที่เข้าร่วมโครงการ “True Car Free Day” พบว่า มีเพียง 28% ที่ถึงออฟฟิศด้วยการเดินทางต่อเดียว ขณะที่ตัวเลขจำนวนพนักงานที่มีการเดินทางมากกว่า 1 วิธี คิดเป็น 72% ซึ่งจำนวนประเภทการเดินทางสูงสุดต่อพนักงานหนึ่งคน มีระยะเดินทางจากที่พักอาศัยถึงที่ทำงานเที่ยวเดียว 60 กิโลเมตร ไปกลับ 120 กิโลเมตร และใช้วิธีการเดินทางมากถึง 7 วิธี โดยเดินทางด้วย รถสองแถว ต่อด้วย เรือ วินมอเตอร์ไซด์ รถประจำทาง รถไฟฟ้า BTS MRT และเดิน ตามลำดับ ซึ่งการเดินทางของพนักงานส่วนใหญ่ต้องฟันฝ่าหลายต่อ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง สะท้อนให้เห็นว่า การพัฒนาเมืองที่สนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือใช้วิธีการเดินให้ถึงจุดหมาย เป็นนโยบายรัฐที่สำคัญที่จะช่วยทำให้เมืองกลายเป็น car-free city ได้จริง ซึ่งแม้ว่าการเดินทางที่ต้องฟันฝ่าหลายต่อ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางก็หลายทอดนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

ก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน

ทรู คอร์ปอเรชั่น ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางของพนักงานจาก 5,300 ให้เหลือ 4,800 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2567 นี้ ชูธง True Car Free Day อีกหนึ่งก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เพื่อนพนักงานพร้อมร่วมแรงร่วมใจที่จะช่วยกันทำให้ทรู บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมอื่นๆ ใน Scope 3 ให้ได้ 25% ภายในปี 2573 นับเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ทรู พิชิตเป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี 2573 และองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ในที่สุด

ฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของโจนส์ แลง ลาซาลล์ (เจแอลแอล หรือ JLL) และบริษัท ริชมอนทส์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด (ริชมอนทส์ หรือ Richmont’s) ร่วมเซ็นสัญญาความร่วมมือ สร้างโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในสหราชอาณาจักร และในต่างประเทศอีกหลายแห่ง

โดยการลงนามความร่วมมือระหว่างฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของเจแอลแอลและริชมอนทส์ครั้งนี้มุ่งเน้นการขายและการตลาดสำหรับทั้งโครงการในต่างประเทศที่ต้องการขายและทำการตลาดในประเทศไทยและโครงการในประเทศไทยที่ต้องการขยายฐานการตลาดไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ริชมอนทส์นำเสนอให้ลูกค้าผ่านเครือข่ายการขายโครงการพักอาศัยระหว่างประเทศของเจแอลแอล

ฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของเจแอลแอลได้รับการแต่งตั้งโดยบารัต ดีเวลลอปเม้นทส์ (Barratt Developments PLC) บริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ให้เป็นตัวแทนขายโครงการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เพียงผู้เดียว บารัต ลอนดอน (Barratt London) เป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย และดำเนินกิจการก่อสร้างบ้านมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี โดยสร้างบ้านมาแล้วกว่า 50,000 หลังภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือนี้ริชมอนทส์ได้กลายเป็นพันธมิตรใหม่ของทั้งฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของเจแอลแอล และบารัต ดีเวลลอปเม้นทส์ในประเทศไทย ซึ่งขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดช่องทางการขายใหม่ เพิ่มทางเลือกในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรให้แก่ผู้ซื้อชาวไทย

นอกจากบารัต ลอนดอนจะแต่งตั้งเจแอลแอลให้เป็นตัวแทนขายโครงการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เพียงผู้เดียวแล้ว ความร่วมมือระหว่างเจแอลแอล และริชมอนทส์ครั้งนี้ยังทำให้นักลงทุนชาวไทยมีตัวเลือกที่มีคุณภาพดีเยี่ยมอีกมากมายจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วกรุงลอนดอนและเมืองอื่นๆในสหราชอาณาจักร รวมถึงตลาดที่น่าลงทุนอื่นๆ ระดับโลกอีกด้วย เช่น ออสเตรเลีย ดูไบ และญี่ปุ่น

ตัวอย่างโครงการพักอาศัยใหม่บางส่วนจากพอร์ตโฟลิโอของเจแอลแอลและริชมอนทส์

Ebury, ย่าน Westminster, โครงการแลนด์มาร์คในพื้นที่ SW1

สัมผัสวิถีชีวิตใหม่ที่ Ebury อาคารที่พักอาศัยอันมีชีวิตชีวาที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมายตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน

Ebury ตั้งอยู่ในทำเลสุดพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นย่านทำเลทอง (golden postcode) อย่าง Belgravia, Chelsea และ Westminster ใกล้แม่น้ำและอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งของกรุงลอนดอนรวมถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Sloane Square และ Victoria ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่พักอาศัยที่อยู่ในทำเลที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและดีที่สุดใจกลางลอนดอน

Ebury ประกอบไปด้วยอาคารพักอาศัย 9 อาคาร มีทั้งอพาร์ตเมนต์รูปแบบ 1, 2, 3 ห้องนอน และ 3 หรือ 4 ห้องนอนดูเพล็กซ์ราคาเริ่มต้นที่ ประมาณ 38.9 ล้านบาทริชมอนทส์จะจัดงานนำเสนอขายโครงการ Ebury ในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่โรงแรม Rosewood Bangkok

Paddington Gardens, ย่าน Paddington Basin, กรุงลอนดอน, พื้นที่ W1

Paddington Gardens เป็นอาคารพักอาศัยพื้นที่กว่า 20 ชั้น ที่พร้อมเข้าอยู่ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย เช่น บริการคอนเซียร์จตลอด 24 ชั่วโมง เลานจ์ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา สวนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางวา(หรือประมาณ 2.5 ไร่) ที่ได้รับการตกแต่งดูแลอย่างดี และที่จอดรถที่มีระบบรักษาความปลอดภัย

Paddington Gardens อยู่ห่างจากสถานี London Paddington เดินเพียง 5 นาที ซึ่งนี่คือสถานีรถไฟที่มีทั้งNational Rail, Crossrail, London Underground และ Heathrow Express ด้วยความที่ตั้งอยู่ในพื้นที่คมนาคมโซน 1 ของกรุงลอนดอน Paddington Gardens จึงเหมาะกับนักเรียนที่ต้องการที่พักใกล้โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำในกรุงลอนดอน ซึ่งมีอยู่หลายสถานศึกษาด้วยกันโดยสามารถเดินทางจากโครงการด้วยรถไฟใต้ดิน ใช้เวลาไม่เกินไม่เกิน 30 นาที ราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 36.5 ล้านบาท

The Founding, ย่าน Canada Water, กรุงลอนดอน

โอกาสแรกที่จะได้เป็นเจ้าของที่พักอาศัยในเขตใหม่ล่าสุดและยั่งยืนที่สุดใจกลางกรุงลอนดอนโดย British Land

เมื่อไม่นานมานี้ British Land ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นอพาร์ตเมนต์แบบสตูดิโอ, 1, 2 และ 3 ห้องนอนรวมทั้งหมด 186 ยูนิตที่โครงการ The Founding, ย่าน Canada Water ราคาเริ่มต้นที่ 30.9 ล้านบาทเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 35 ชั้น นี้คือโอกาสแรกสำหรับลูกค้าและนักลงทุนในการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในย่านนี้ ซึ่งปัจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงก่อสร้าง ให้กลายเป็นโครงการพัฒนาหลายเฟสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคยุโรป

พอร์ตโฟลิโอของบารัต ลอนดอน

บารัตเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจมากมายสำหรับนักลงทุนชาวไทย โดยเฉพาะในกรุงลอนดอน โครงการอสังหาริมทรัพย์ของบารัตออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอน ในช่วงที่บุตรหลานกำลังเรียนอยู่ที่สหราชอาณาจักร รวมถึงกลุ่มนักลงทุนชาวไทยอีกจำนวนมากที่ต้องการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง

เจแอลแอลและริชมอนทส์จะจัดแสดงโครงการในพอร์ตโฟลิโอของบารัต ลอนดอนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนกันยายนและตุลาคม 2567 โดยงานแรกจะเป็นงานนำเสนอขายเฟสล่าสุดของโครงการ Eastman Village ในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 ที่โรงแรม The Standard Bangkok

Eastman Village อยู่ห่างจากใจกลางกรุงลอนดอนเพียง 12 นาที เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่โดดเด่นของบารัต ลอนดอนที่แปลงโฉมโรงงานฟิล์ม Kodak ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในย่าน Harrow ราคาเริ่มต้นเพียง 15.5 ล้านบาท อีกทั้งมีการคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากการเช่าสูงถึง 6.7%

Hendon WatersideBermondsey Heights, SE1

Wembley Park Gardens, WembleyEastman Village, Harrow

ในช่วงที่นักลงทุนชาวไทยให้ความสนใจมองหาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศมากขึ้น เจแอลแอล และริชมอนทส์ก็มีพอร์ตโฟลิโอโครงการพักอาศัยใหม่ที่มีความหลากหลายมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสุดหรูใจกลางกรุงลอนดอนโครงการที่ราคาเช่าเข้าถึงได้ง่ายเหมาะแก่การลงทุนแบบเน้นรับผลตอบแทนเช่าและการลงทุนที่เน้นรับผลตอบแทนในระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการเช่าสูง

คุณเจมส์ พัดเดิ้ล, หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัยในต่างประเทศ, ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เจแอลแอล กล่าวว่า “ข้อตกลงความร่วมมือใหม่ระหว่างเจแอลแอล และริชมอนทส์นี้ถือว่ามาในช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชาวไทยที่กำลังมองหาสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักร ด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางของเราในสหราชอาณาจักร เรามีอสังหาริมทรัพย์หลายประเภทและระดับราคาให้ผู้ซื้อชาวไทยได้เลือก พันธมิตรของเราในสหราชอาณาจักรล้วนเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่พร้อมนำเสนอโอกาสลงทุนต่าง ๆ ที่น่าสนใจให้นักลงทุนชาวไทยที่ต้องการจัดพอร์ตโฟลิโอเพื่อกระจายความเสี่ยง”

คุณทิม สเคพวิงตัน, กรรมการผู้จัดการ, ริชมอนทส์ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือกับฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของเจแอลแอลครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับเราที่จะขยายขอบเขตการให้บริการและช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรแก่ลูกค้าชาวไทย ริชมอนทส์และเจแอลแอลพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าตลอดกระบวนการซื้อจนเสร็จสิ้น โดยมีเจ้าหน้าที่มากประสบการณ์ทั้งในกรุงลอนดอนและกรุงเทพฯ ให้บริการ”

ผู้ซื้อและนักลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อฝ่ายขายที่ดูแลโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของริชมอนทส์ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 062 427 9798 ทางอีเมล [email protected] หรือไปที่เว็บไซต์ www.richmonts.com เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

เพื่อเป็นการฉลองเปิดสาขาทองหล่อเราพร้อมดูแลน้องหมาน้องแมวอย่างครบวงจรด้วยแพ็คเกจพิเศษ

• ตรวจผิวหนัง 490 บาท จากปกติ 1,308 บาท
• ตรวจตา 990 บาท จากปกติ 1,787 บาท
• อัลตร้าซาวด์ 1,490 บาท จากปกติ 2,292 บาท
• ตรวจหัวใจ 2,990 บาท จากปกติ 6,991 บาท

เฉพาะวันที่ 1-30 กันยายน 2567 เท่านั้น

และนอกจากแพ็คเกจพิเศษเฉพาะช่วงเปิดสาขาแล้ว ที่โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์พวกเรามุ่งมั่นที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงทั้งในเรื่องของการรักษาโรคและบริการเสริมด้านสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณพ่อ คุณแม่สัตว์เลี้ยงยุคใหม่ผ่านแนวคิด Pet Humanization

ซึ่งที่โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์สาขาทองหล่อเราเข้าใจดีว่าสัตว์เลี้ยงคือสมาชิกสำคัญในครอบครัว เราจึงทุ่มเทเพื่อมอบการดูแลที่ดีที่สุด ด้วยทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและ ด้วยเทคโนโลยีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยใกล้เคียงโรงพยาบาลคนมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท อาทิ

• 3D Echocardiogram ตรวจหัวใจแบบ 3 มิติ
• CT Scan ภาพเอกซเรย์อวัยวะภายใน 3 มิติ
• Slit Lamp การตรวจตาที่ต่อกล้องมอนิเตอร์ให้เห็นภาพก่อนหลังการรักษาได้อย่างชัดเจน
• เครื่อง Phacoemulsification ผ่าตัดสลายต้อกระจกแผลเล็ก

นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบพื้นที่ที่เป็นมิตรตามความต้องการของสัตว์เลี้ยง (Pet-centric Design) เช่น พื้นยางหรือกระเบื้องกันลื่น โซนแยกระหว่างสุนัขและแมว และประตูสองชั้นเพื่อความปลอดภัย เป็นต้น

และยังมีบริการเสริมอื่นๆ ที่เป็นในส่วนของ Non-Medical อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น:

• Pet Hotel บริการโรงแรมที่พัก
• Daycare บริการดูแลระหว่างวัน
• Pet Salon บริการอาบน้ำตัดขน
• Pet Pool บริการสระว่ายน้ำ
• Pet Park สวนออกกำลังกาย รวมถึงบริการส่งสัตว์เลี้ยงไปต่างประเทศ
• Pet Private Car รถรับส่งสัตว์เลี้ยง

ซึ่งโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ สาขาทองหล่อ เป็นหนึ่งใน 4 สาขาที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ร่วมกับสาขาหลังสวนและสาขาเชียงใหม่ ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 6,000 ครัวเรือนภายใน 1 ปี และด้วยแผนการ การขยายสาขาเพื่อเพิ่มความครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ ในเร็ว ๆ นี้ เรามีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่ง คือ สาขาเพชรเกษม นอกจากนี้เรายังมีแผนการขยายการดำเนินงานไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง (Pet Healthcare) เพิ่มเติม เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจรทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ สาขาทองหล่อ เปิดให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยงทั่วไปตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการคลินิกพิเศษโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ หรือนัดหมายบริการได้ที่

หมายเลขโทรศัพท์ 02 1069977

เว็บไซต์ https://arakanimal.com

หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/ArakAnimalHospital

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งสร้างความเสียหายในหลายจังหวัด จึงได้ร่วมกับเหล่าทัพ ทั้งกองทัพอากาศ กองทัพเรือ กองทัพบก และกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคีที่มีศักยภาพ มีความเชี่ยวชาญ มีกำลังพล และเครื่องมือสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูง ยากต่อการเข้าถึง รวมถึงพนักงานจิตอาสาของธนาคารในพื้นที่ประสบภัย จัดเตรียมถุงยังชีพ “น้ำใจไทยพาณิชย์” ภายใต้โครงการ “ช่วยผู้ประสบภัยกับไทยพาณิชย์” พร้อมลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย รวมจำนวนกว่า 4,000 ถุง เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ เชียงราย น่าน พิษณุโลก สุโขทัย และพระนครศรีอยุธยา ภายในถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสวยพร้อมรับประทาน อาหารสำเร็จรูป น้ำพริก นมถั่วเหลือง และยารักษาโรค เป็นต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วน เป็นกำลังใจ และเติมพลังให้ “ยิ้มสู้” ในวันที่ยากลำบาก  

สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมส่งกำลังใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยบริจาคผ่านมูลนิธิและองค์กรต่าง ๆ ได้แก่ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ กระแสรายวัน เลขที่ 020-3-04545-1 ลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า โดยส่งสำเนาหลักฐานการโอนเงิน พร้อมชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อ ที่อยู่ สำหรับการออกใบเสร็จรับเงินเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้ที่อีเมล [email protected] หรือ โทร. 0 2054 6546, สภากาชาดไทย ผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ กระแสรายวัน เลขที่ 045-3-04637-0 ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ส่งสำเนาหลักฐานการโอนเงิน ระบุว่า ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน สำหรับการออกใบเสร็จรับเงินเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้ที่อีเมล [email protected] หรือ โทร. 02-2564440-3, 02-2559911 และ 02-2511218

ธนาคารไทยพาณิชย์ขอส่งกำลังใจและแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอให้ผ่านพ้นวิกฤตโดยเร็ววัน