10 ลุคเปล่งความงามสไตล์ อั้ม พัชราภา จะแซ่บหรือหวาน ขุ่นแม่ก็ผ่านฉลุย

ตั้งแต่เพลิงพระนางจบไป ก็ยังไม่มีข่าวว่า อั้ม พัชราภา จะมีงานลงจอให้เห็นกันเลย

แต่ถึงแม้จะไม่มีงานละครมาให้แฟนๆดู แม่อั้มก็ชดเชยความคิดถึงด้วยการขยันอัพรูปลงไอจีรัวๆ เห็นทุกความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะออกอีเว้นต์หรือไปเที่ยวเล่นกับกลุ่มเพื่อน ก็สามารถเห็นภาพของอั้มได้ในทุกกิจกรรม

จากการอัพรูปทุกวันของนางเอกสาวนี่แหละ ที่ทำให้แพรวดอทคอมเห็นและสังเกตว่านอกจากจะสวยไม่เปลี่ยนแล้ว สไตล์การแต่งตัวยังหลากหลาย ไม่ว่าจะเท่ เปรี้ยว หรือหวานละมุน เธอก็จัดมาหมดแล้ว

วันนี้แพรวดอทคอมเลยอยากจะเอาสไตล์ที่คอนทรานส์กัน อย่างลุคเผ็ดแซ่บและหวานละมุนมาไฝว้กันหน่อย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจะจะไปเลยว่า

ขุ่นแม่ อั้ม พัชราภา แครี่ได้ทุกลุค จริงๆ

เดรสสายเดี่ยวสีขาวเรียบๆ บวกกับองค์ประกอบอื่น อย่างกระเป๋าหนังและรองเท้าสีน้ำเงินสด ทำให้ลุคนี้ดูหวานและเอลิแกนซ์ในเวลาเดียวกัน


 

สายแซ่บที่แม่อั้มถนัดก็ทำได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ เดรสสั้นลายเสือ ส่งให้สาวอั้มมีความเป็นนางพญาครองป่าไปเลย


 

เดรสลายเสืออีกแล้วจ้า ลุคนี้นอกจากจะเซ็กซี่ ก็ยังดูเท่ด้วยเครื่องประดับอื่น อย่าง โช้กเกอร์ กระเป๋าและรองเท้าสีดำ เป็นเดรสที่ใส่แล้วให้ความรู้สึกสบายๆ แต่ความเผ็ดสู้ตาย 


 

ลุคนี้เปรี้ยวอมหวานลงตัวมากกก ตัวเดรสเป็นสีส้มโอลด์โรส ดีเทลมีความมุ้งมิ้ง แต่ก็แซ่บจัดจ้านด้วยความบางของเดรสและส่วนที่แหวกอก แถมปากแดงๆก็ทำให้ลุคนี้คอมพลีตสุดๆ


 

สายหวานกันบ้าง เดรสสีพาสเทล ดีไซน์เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ แต่กลับดูไม่เลี่ยน สาวอั้มเลือกจับคู่เดรสกับรองเท้าส้นสูงสีเทาที่ดูเข้ากับชุดมาก และถึงแม้ว่านานๆทีจะเห็นแม่หวาน แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะงามมาก


 

ลุคหวานฟรุ้งฟริ้งกับมุมเดิมที่คุ้นเคย เดรสมีความสุ่มไก่นิดๆ ชั้นกระโปรงฟูฟ่อง สีม่วงอ่อนและชมพูหวานแนวพาสเทลตัดกับสีดำได้อย่างกลมกลืน เป็นลุคที่หวานกำลังดีและดีไซน์มีความเซ็กซี่โชว์ผิวหน่อยๆ


 

หวานเท่ก็มา ดีไซน์มีความหางปลา ความระบาย แต่ด้วยสีของชุดทำให้ดูไม่หวานจัด เป็นชุดที่ดูใส่ได้ง่ายๆแบบไม่ต้องคิดเยอะ ใส่ยังไงก็สวย เพราะถูกคิดมาให้แล้ว หรือเป็นเพราะสาวอั้มใส่ ทำให้ไม่ว่าชุดไหนก็ดูง่ายไปหมด


 

ลุคนี้หวานด้วยลูกไม้บนตัวเสื้อและแขนที่แอบเล่นระบายเบาๆ สาวอั้มใส่ชุดสีขาวบ่อยนะ แต่ลุคนี้ให้ความรู้สึกแตกต่าง เพราะมันมองได้หลากสไตล์ ด้วยดีไซน์ของชุดจะหวาน จะเซ็กซี่หน่อย หรือจะเรียบหรูก็ได้ แต่รวมๆแล้วก็ออกมาสวยอีกนั่นแหละ 


 

ตัวเดรสหวานนะ แต่อินเนอร์แม่ส่องออร่าเซ็กซี่ควีนแรงมาก ด้วยเมคอัพสีอ่อนก็พอช่วยเบรกความเผ็ดได้อยู่ เป็นอีกลุคที่หวานซ่อนเปรี้ยวได้ลงตัวสุดๆ 


 

มาอีกแล้วกับความคอนทรานส์นี้ ดูดีไซน์และสีของกางเกงคือหวานได้อีก สีเสื้อก็หวานแต่รูปแบบดูแซ่บด้วยการเปิดไหล่ เป็นลุคที่ส่วนผสมทุกอย่างลงตัว ทำให้รู้ว่าจับความเผ็ดบวกกับความหวานก็ดูคอมพลีตได้


 

เห็นหรือยังว่าจะแซ่บหรือหวานแม่ก็รอดหมด แต่จะให้อารมณ์แตกต่างในทุกลุคที่เปลี่ยน ใครว่าสาวอั้มเซ็กซี่ได้เวย์เดียว นี่คิดใหม่นะ เพราะสายหวานก็ผ่านจ้า แต่ในความหวานก็จะมีความเปรี้ยวซ่อนอยู่ อาจจะเป็นเพราะหน้าของนางเอกสาวที่มองกี่ครั้งก็สวยสะกด สายตาพิฆาตชวนหลง เลยทำให้ลุคหวานแอบมีความเผ็ดอยู่เบาๆ

 

 

เรื่อง : Hana (ฮานะ)

ภาพ : IG@aum_patchrapa

 

 

 

 

3 ลุคเลอค่าสะกดทุกสายตา “ญาญ่า” สง่างามยิ่งขึ้นเพราะชุดสวยจากเจ้าหญิงพระองค์จริง

เสก “ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์” ออกมาเป็นลุคเจ้าหญิงอลิซแห่งฮรีสอซได้อย่างสมบูรณ์เหลือเกิน สำหรับผู้จัดฯคนเก่ง “แอน ทองประสม” ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดในการถ่ายทำละครเรื่อง “ลิขิตรัก” (The Crown Princess) โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายของนางเอก ซึ่งงานนี้ผู้จัดฯสาวพิถีพิถันในการเลือกสรรให้ออกมาเหมาะสมกับคาแร็คเตอร์

และยกระดับความสง่างามดุจเจ้าหญิงไปอีกขั้น เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานชุดราตรีหรูคอลเล็คชั่น SIRIVANNAVARI S/S 2017 จากแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่พระองค์หญิงทรงเป็นองค์ดีไซเนอร์ให้นางเอกลูกครึ่งได้สวมใส่ในละครเรื่อง “ลิขิตรัก” (The Crown Princess)

“ญาญ่า” สวมบทบาทเจ้าหญิง “พี่แอน” ผู้จัดฯก็ขอเล่นตามน้ำไปด้วย

ทั้งนี้ในงาน HD Extra Experience…สนุกสุด กับประสบการณ์ TrueMove H Best HD Network กับ TrueID Your EXTRA-TAINMENT “ญาญ่า” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึก โดยนางเอกสาวกล่าวว่า “รู้สึกโชคดีมากเลยค่ะที่ได้ใส่ชุดสวยๆ โดยเฉพาะชุดของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งหนูมีโอกาสใส่ประมาณ 2 ชุด ซึ่งทุกคนที่กองถ่ายตื่นเต้นกันมากๆ ก็ดูแลอย่างดีมากๆ เวลาใส่รู้สึกว่าสง่าขึ้นมาอีกระดับนึง พี่แอนกำชับว่าดูแลให้ดีนะ ซึ่ง ‘ญาญ่า’ ก็ซนน้อยลงนิดนึง จริงๆการที่หนูเป็นนางแบบมาก่อน หนูระวังทุกชุดอยู่แล้วค่ะ”

อย่างไรก็ตามงานนี้ “แพรวดอทคอม” ยังได้ไปเสาะหาภาพสวยๆของสาว “ญาญ่า” ที่สวมชุดแบรนด์ SIRIVANNAVARI มาให้แฟนๆได้ชมกันด้วย จะสวยสง่าขนาดไหน ไปชมกันเลย

“ญาญ่า” สวมชุดสุดหรูจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่พระองค์หญิงทรงเป็นองค์ดีไซเนอร์
“ญาญ่า” กับลุคเท่ๆ จากแบรนด์ SIRIVANNAVARI เช่นกัน
สวยสง่ากับชุดในคอลเล็คชั่น SIRIVANNAVARI S/S 2017

หนังอิโรติคนำร่องเซ็กส์ถึงสวรรค์

account_circle

“หนังเรื่องไหนช่วยนำร่องบิ้วอารมณ์เซ็กส์ได้บ้าง” คำตอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่นอน แต่สำหรับคู่ที่โนไอเดีย มาดามขอเสนอหนังอิโรติค 5 เรื่องที่ว่ากันว่า ดูเมื่อไหร่เตียงสั่นแน่นอน แต่ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันสักนิดว่า คุณเข้าใจคำว่า อิโรติคมากน้อยแค่ไหน เวลาจะเลือกหนังมาบิ้วกันจะได้ไหลลื่น ไม่ใช่พ่อหนุ่มอยากได้จัดหนัก แต่สาวเจ้าอยากได้ละเลียดอารมณ์ ถ้าเจอแบบนั้นเมื่อไหร่คงเงิบน่าดู

หนังอิโรติคเป็นหนังที่ถ่ายทอดภาพออกมาอย่างมีศิลปะ เน้นฉากหวาบหวิวแบบเฉียดไปเฉียดมาพอให้ได้ลุ้นๆ จะได้จินตนาการต่อไปเอง ถ้าจัดเป็นเรทเมื่อไหร่ หนังอิโรติกก็คือหนังเรทอาร์ ซึ่งย่อมาจากคำว่า Realistic ฉะนั้นภาพที่ออกมาจะสมจริงแบบไม่โจ้งครึ่งแก้หมดเห็นชัดทุกรูขุมแบบหนังเรทเอ็กซ์ ซึ่งเป็นหนังที่เห็นทุกสิ่งคาตา สอดจริงใส่จริงสมกับที่มาขอตัว X คือ  Xtreme นั่นเอง

Cr. http://www.imdb.com

“9 1/2 Weeks” หนังเก่าเก็บตั้งแต่ปี 1986 เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงเวลา 9 สัปดาห์ครึ่งของเจ้าของอาร์ตแกลเลอรี่สาว แม่ม่ายหย่าสามีที่บังเอิญไปเจอกับชายหนุ่มที่มีเซ็กส์แอพพีลสูง พอทั้งคู่ได้จึ๊กๆ กัน สาวอาร์ตก็เริ่มติดหนึบในบทรักแปลกๆ ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน หนุ่มๆ ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นอกจากหุ่นงามๆ ของนางเอกแล้ว ความถี่ยิบของฉากเอ็กซ์ในหนัง ช่วยกระตุ้นอารมณ์แฟนสาวข้างกายได้มานักต่อนักล่ะ

Cr. www.youtube.com

Wild Orchid” นี่ก็อีกเรื่องที่แม้จะเก่า แต่หนุ่มสาวยุคนี้ยังคงได้รับการบอกต่อถึงความแซ่บของเนื้อเรื่องที่ทนายสาวไม่ได้ทำหน้าที่แค่การเป็นทนาย เพราะนางเสิร์ฟเซ็กส์อันเร้าร้อนให้กับลูกค้าเศรษฐีหนุ่มแบบร้อนแรงสุดๆ จนคนดูเองร่ำลือกันว่านักแสดงคู่นี้เขาจัดเซ็กส์กันในฉากจริงๆ อะป่าว แต่มาดามว่านอกจากซีนซี๊ดแล้ว การจัดแสดง มุมกล้องและแอคติ้งตอนมีเซ็กส์ช่วยบิ้วอารมณ์แบบเห็นสวรรค์ลิบๆ แน่นอน มิน่าล่ะ คู่รักหลายยุคถึงยังคงหยิบหนังเรื่องนี้มาบิ้วกันบ่อยๆ

Cr. https://thecinemablographer.wordpress.com/

Lust ,Caution” ชื่อไทยคือเล่ห์ราคะ เป็นเรื่องที่มาดามการันตีเลยว่า พีคสุดติ่งจริงๆ เพราะสไตล์เซ็กส์อันร้อนแรงแบบซาดิสของตัวเอกที่รับบทโดยเฮียเหลียงเฉาเหว่ยกับนางเอกสาวหน้ากลมสเปคหนุ่มไทยอย่างถังเหว่ย ทำเอาห้องแอร์เย็นฉ่ำร้อนระอุยิ่งกว่าทะเลทรายซาฮาร่า แถมแต่ละท่าที่เฮียครีเอทออกมาแม้จะดูเหมือนยากจะทำตาม แต่เอาเข้าจริง สุดท้ายแล้วก็มีหนุ่มสาวที่อารมณ์กระเจิงมุ่งมั่นจัดท่าของเฮียกันไปตั้งแต่หนังยังไม่จบซะอีก

Cr. https://blog.xuite.net/

La Belle” ตัดเรื่องดราม่าระหว่างนางเอก พระเอก และแฟนเก่าของนางออกไป มาโฟกัสแต่ฉากเลิฟซีนที่นอกจากนางเอกจะสวยเนียน (แบบที่จัดแสงช่วยอีกนิดก็เฟอร์เฟค) มุมกล้องกว้างๆ ในการถ่ายทำ ช่วยทำให้คุณได้เห็นลีลารักแบบถึงพริกถึงขิงแบบไม่อุจาดตา พอดูไปแล้วอาจตั้งคำถามแบบเดียวกับติ่งเกาหลีทั้งหลายว่า เขาจึ๊กๆ กันจริงไหมเนี่ย ถ้าอยากรู้คำตอบ มาดามขอแนะนำให้เอาคำถามนี้ไปถามคนข้างๆ รับรองได้มากกว่าคำตอบซะอีกนะจ้ะสาวๆ

Cr. https://picpost.postjung.com

A Frozen Flowerมาดามขอใช้คำว่าเป็นหนังอิโรติคพีเรียดที่มีฉากเซ็กส์แบบครบรสสุดๆ ขณะดียวกันก็ต้องบอกว่ารู้ซึ้งคำว่าใช้ผู้ชายคนเดียวกันก็เรื่องนี้ เพราะในหนังมีทั้งฉากที่กษัตริย์เมคเลิฟกับหัวหน้าองครักษ์แบบขนลุกเกลียวจนทำให้คนดูอินซะนิ้วจิกโซฟาเป็นรอย และฉากเด็ดของนางเอกที่มีอะไรหัวหน้าองครักษ์ (คนเดียวกันกับที่เมคเลิฟกับกษัตริย์นี่แหละ) แบบถึงจุดฟิน แม้หน้าตานางจะดูหวานอมขมกลืนแต่แหมรู้ไหมว่า มีคนบอกมาดามว่า บางทีมีเซ็กส์กันแบบหน้าเซ็งอย่างนั้นกลับทำให้ฟินหนักกว่าเดิมนะ

5 เรื่อง 5 รสชาติ ลองไปหาดูกันสักหน่อย ไม่แน่นะว่า สวรรค์รำไรครั้งหน้า อาจมีจุดเริ่มต้นที่ 30 นาทีแรกของหนักที่เลือกก็เป็นได้

เรื่อง : Madam Hong Hern

เห็นเต็มๆ 8 ตา! “นุ่น-วรนุช” เล่าประสบการณ์ตรงเจอยานแม่-ยานลูก UFO โผล่ที่ฝรั่งเศส

ก่อนหน้านี้นางเอก “นุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี” ได้เดินทางไปถ่ายโฆษณาครีมกันแดดที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ เมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งประสบการณ์ในการเดินทางไปในครั้งนี้เธอได้แชร์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวอย่างละเอียดว่าได้เจอกับเรื่องอัศจรรย์ เมื่อเหลือบไปเห็นแสงที่เคลื่อนตัวเร็วมาก และคิดว่าแสงกลุ่มดังกล่าวอาจจะเป็นยูเอฟโอ ซึ่งหลังจากได้เล่าเรื่องออกไป ก็มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ ล่าสุดได้เจอกับเธอในงาน “นาฏราช” จึงได้ลองสอบถามถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่ง ”นุ่น” ได้ยืนยัน ทั้งยังเผยว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่เธอที่เห็นคนเดียว เพราะทั้งผู้จัดการส่วนตัว ไกด์ รวมถึงคนขับรถก็เห็นเหมือนกันทั้งหมด

เห็นว่าไปเจอยูเอฟโอมา?

“ตอนแรกคือเรากลับจากที่ไปถ่ายรูปสำหรับครีมกันแดดตัวใหม่ของนุ่นนะคะ (ยิ้ม) อยู่ตรงช่วงมอเตอร์เวย์ค่ะ พี่จุกเขาเห็นเป็นกลุ่มไฟ เขาก็ถามไกด์ว่ามีหมู่บ้านอะไรเหรอตรงนั้น เขาก็บอกไม่มี เพราะเป็นเส้นถนนยาวค่ะ แล้วกลุ่มไฟก็ค่อยๆ ขยับออกไป แล้วก็หายไปเลย เราก็บอกฝรั่งว่าเคยเห็นในอินเทอร์เน็ต แบบนี้คือยูเอฟโอ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะใช่หรือไม่ใช่นะ ก็คุยกันว่าถ้าใช่จริงๆ เดี๋ยวก็มาให้เห็นอีก อีกแป๊บนึงมาให้เห็นข้างพี่จุกเลย คือเป็นกลุ่มไฟที่ใหญ่มาก นุ่นก็พยายามหยิบมือถือมาถ่าย แต่ถ่ายไม่ได้ มันสว่างมาก ใกล้มาก ครั้งที่ 3 ก็หยิบกล้องขึ้นมา เพราะมือถือคงไม่รอด และพอดีครั้งที่ 3 เขาอยู่ยาว ได้เห็นทั้งหมด 4 ครั้ง แล้วมีน้องที่อยู่แถวๆ นั้น เลยโทรไปหาเขา เราก็ตื่นเต้นเล่าให้เขาฟัง ในระหว่างที่เขาโทรมาก็ยังเห็นครั้งที่ 4 อยู่ ก็ไม่รู้หรอกว่าใช่หรือไม่ใช่”

เล่าประสบการณ์เจอยูเอฟโอ

รูปทรงเป็นยังไง?

“พี่จุกเห็นเป็นรูปข้าวหลามตัด แต่เราเห็นเป็นไฟดวงๆ เป็นกลุ่มไฟค่ะ ไม่ใช่ดาวตกแน่นอนค่ะ”

ได้เอาไปให้ใครดูไหม?

“อินเทอร์เน็ตเลย ตื่นเต้นมาก วันรุ่งขึ้นก็อัดคลิปลงเลย เพราะถ้าอัดหลังจากนี้นานๆ ก็คงไม่ได้ความรู้สึกนี้ เราก็รู้สึกว่าครั้งหนึ่งเราได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ไม่ได้โฟกัสหรอกว่าสรุปแล้วเป็นอะไรยังไง ต้องบอกว่าเหมือนเป็นนิทานค่ะ เพราะคงไม่มีใครเห็นเหมือนเรา คือในรถเราเห็นกัน 4 คน คนรถก็ตื่นเต้น จอดรถแล้วก็วิ่งขึ้นไปบนหลังคารถกัน มันก็เป็นความตื่นเต้นอันนึงที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ และแถบๆ นั้นเขาเพิ่งจัดงานครบ 50 ปีไป ที่เจ้าของไร่ลาเวนเดอร์เขาเห็น และเขาบอกว่า 3 ปีหลังจากที่เขาเห็น เขาก็ปลูกอะไรไม่ได้เลย เพิ่งมีจัดงานระลึกไป เขาก็เพิ่งเล่าให้ฟังนี่แหละค่ะ”

นุ่น – วรนุช

ได้ถามไกด์ไหมว่าเกิดขึ้นบ่อยไหม?

“เขาไม่เคยเห็นเลย นี่เห็นครั้งแรก และสามีเขาที่มาช่วยดูแลก็ศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ต่างชาติเขาไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องลี้ลับนะคะ มันเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ ซึ่งหลายๆ คนที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เขาก็บอกว่ามีจริง เราเองยังเคยส่งยานไปที่ดาวดวงอื่นๆ เลย เป็นเรื่องปกติค่ะ”

แล้วเราเชื่อหรือไม่เชื่อ?

“นุ่นเชื่อในสิ่งที่นุ่นเห็น นุ่นก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร อย่างที่นุ่นเล่าให้ฟังว่าละครพิษสวาทนี่นุ่นฝันถึงนะ แต่นี่คือตาเปล่าและเห็นพร้อมกัน 4 คน แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าคืออะไร”

ต๊อดก็มาแซว?

“ใช่ เราก็ไปได้หมวกที่นู่น ก็ยังคิดในใจว่าหมวกเราเหมือนยูเอฟโอเลย ยังคุยเล่นกันอยู่เลย ก็ไม่คิดว่าจะมีคล้ายๆ เพราะเมื่อต้นปีก็มีคนแถวฝรั่งเศสเห็นเยอะเหมือนกัน”

โรคซึมเศร้า

ใกล้ตัวจนน่ากลัว! พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ชี้ 9 สัญญาณเตือนบ่งบอก โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้า

ถ้าดูจากสถิติการเสียชีวิต ด้วยการฆ่าตัวตายของคนทุกวันนี้ ต้องบอกว่า ล้วนมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยด้วย โรคซึมเศร้า ติดอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้

เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนๆ นั้นป่วยด้วย โรคซึมเศร้า มักนำไปสู่การทำร้ายตัวเอง หรือการพยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งส่วนมากมักเป็นผู้หญิง แต่ผู้ที่ฆ่าตัวตายได้สำเร็จ ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชาย!!!

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือ หมอเบิร์ท อดีตนางสาวไทย ปี 2542 ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์แพรวดอทคอมถึงต้นเหตุของโรคซึมเศร้า(Major Depressive Disorder)ว่าเกิดจากสารสื่อประสาทในสมอง (neurotransmitter) มีความผิดปรกติ หรือเสียสมดุลย์ คนทั่วไปเจอเรื่องร้ายๆ แล้วรู้สึกเศร้า แต่คนไข้โรคซึมเศร้า ไม่ต้องเจออะไรมากระทบ ก็รู้สึกเศร้า หรือนั่งร้องไห้ โดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์

คนทั่วไปอาจนึกภาพคนเป็นโรคซึมเศร้า ว่าต้องนั่งเศร้า ซึม ร้องไห้ แต่ที่จริงแล้ว ‘โรคซึมเศร้า’ คือชื่อของโรค คนไข้ส่วนใหญ่มักแต่งหน้าสวย ทำผม แต่งตัวมีสีสัน เขาอาจนั่งหัวเราะเฮฮาปาร์ตี้ ดูไม่ออกว่าคนนี้เป็นโรคนี้อยู่ จนกว่าจะได้มีโอกาสพูดคุยกัน และบอกได้ว่ารู้สึกหดหู่ เบื่อ เซ็ง เป็นโรคที่พบบ่อย และอย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว บางครั้งผู้ที่เจ็บป่วยอาจอยู่ในครอบครัวเราก็ได้

“เบิร์ทเป็นจิตแพทย์มาสิบกว่าปี พบว่าคนไข้โรคซึมเศร้าส่วนใหญ่ แต่งหน้าสวย ทำผม แต่งตัวมีสีสัน เขาอาจนั่งหัวเราะเฮฮาปาร์ตี้ ดูไม่ออกว่าคนนี้เป็นโรคซึมเศร้า จนกว่าจะได้มีโอกาสพูดคุยกัน และเขาบอกได้ว่ารู้สึกหดหู่ เบื่อ เซ็ง ที่พบบ่อยคือ ขี้หงุดหงิด ขัดอกขัดใจ ขวางหูขวางตา คนรอบข้างเข้าหน้าไม่ติด หรือเมื่อก่อนดูเป็นคนร่าเริงดี จู่ๆ เกิดเบื่อหน่าย ดูไม่มีชีวิตชีวา หรือแม้กระทั่งคนไข้วัยรุ่น อาจออกแนวเกรี้ยวกราด เหวี่ยงวีน หุนหันพลันแล่น จนพ่อแม่คิดว่าเป็นพฤติกรรมวัยรุ่น แต่ที่จริงอาจเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนที่นั่งเศร้า ร้องไห้ ที่เรียกว่า Crying Spell ตามทฤษฎีเป๊ะ ก็มีบ้าง จู่ๆ น้ำตาไหล พรั่งพรูออกมาชนิดที่ห้ามไม่ได้ ไม่มีเรื่องอะไรให้เศร้า แต่รู้สึกเศร้า และอยากร้องไห้ หรืออีกมุมหนึ่งคือคนไข้มึนชา ปราศจากความรู้สึก ไม่รู้สึกยินดียินร้ายต่อสิ่งใด”

โรคซึมเศร้า

โดยหมอเบิร์ทได้แนะวิธีสังเกตว่า คนนั้นๆ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ ด้วยการลองประเมินจาก 9 สัญญาณเตือนเหล่านี้ ถ้าพบว่ามีอาการ 5 ใน 9 อย่างนี้นาน 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ก็ควรรีบไปพบแพทย์

1.มีอารมณ์ซึมเศร้า หงุดหงิด ก้าวร้าว

2. ขาดความสนใจสิ่งรอบข้าง

3. ไม่ค่อยมีสมาธิเวลาทำสิ่งต่างๆ

4. รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา

5. ทำอะไรก็เชื่องช้าตลอด

6. ถ้าไม่รับประทานอาหารมากขึ้น ก็รับประทานน้อยลง

7. นอนมากขึ้น หรือนอนน้อยลง

8. มีอะไรพลาด ตำหนิตัวเองเป็นอันดับแรก

9. พยายามฆ่าตัวตาย

โรคซึมเศร้า

ที่น่ากลัวคือโรคนี้เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และผู้หญิงมักเป็นมากกว่าผู้ชาย และมักแสดงอาการของโรคครั้งแรกช่วงอายุ 25-35 ปี จากการศึกษาพบว่าประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 3-4 ล้านคนของจำนวนประชากร มีทุกข์เพราะโรคซึมเศร้า แต่มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยา จิตบำบัด และสังคมบำบัด

แต่หากผู้ป่วยยอมเข้าสู่กระบวนการรักษา หมอเบิร์ทย้ำว่า “ถ้ารักษาครบถ้วน ถูกต้อง เป็นระยะเวลานานพอ คนไข้ก็สามารถกลับมาเป็นคนเก่ง 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมได้ค่ะ”

ที่มาข้อมูล : นิตยสารแพรว

ภาพ : https://www.bangkokhospital.com, https://pixabay.com

ขอบคุณกระแสคู่จิ้นฟันจอบ น้ำตาล – พิจักขณา เผยมีละครใหม่ประกบคู่ เต้ย – พงศกร แล้ว

ยังคงสวยคมหวานเช่นเดิม สำหรับนางเอกสาว น้ำตาล – พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ที่ได้มาในลุคเดรสเรียบหรูสไตล์น้ำตาลในงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 8 โดยนอกจากจะขอบคุณกระแสคู่จิ้นฟันจอบที่แฟนๆ ให้การตอบรับที่ดีแล้ว น้ำตาลยังเผยกับ แพรวดอทคอม ด้วยว่าตอนนี้กำลังถ่ายทำละครเรื่องใหม่อยู่

กลับมาร่วมงานกับพระเอก เคน – ภูภูมิ พงศ์ภาณุ อีกครั้งในละครซีรีส์ The Cupids บริษัทรักอุตลุด ตอนกามเทพออนไลน์ หลังจากเคยร่วมงานกันครั้งแรกในละครดาวเคียงเดือน คู่จิ้นฟันจอบ เคน – น้ำตาล จึงเป็นคู่พระ-นางที่มีแฟนๆ รอชมผลงานคู่กัน โดยตอนกามเทพออนไลน์ของทั้งคู่ก็ได้จบกันไปแล้ว พร้อมกลับมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย คือ ตอนกามเทพปราบมาร ที่เป็นความรักรุ่นใหญ่ระหว่างเคน – ธีรเดช และชมพู่ – อารยา ซึ่งแฟนๆ ก็ยังคงได้เห็นใบหน้าคู่ เคน – น้ำตาลแวะเวียนมาในตอนสุดท้ายให้หายคิดถึงกันไปบ้าง

ล่าสุด แพรวดอทคอม เจอตัวสาวน้ำตาล – พิจักขณาในงานนาฏราช ครั้งที่ 8 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เลยมาอัพเดตถึงกระแส “คู่จิ้นฟันจอบ” และผลงานละครเรื่องใหม่ของสาวน้ำตาลกันเสียหน่อยว่าแฟนๆ จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากผลงานเรื่องใหม่ของน้ำตาลกันบ้าง

กระแสตอบรับคู่จิ้นฟันจอบกับพระเอก เคน – ภูภูมิ

น้ำตาล: “ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลยนะคะ สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามผลงานของพวกเราคู่จิ้นฟันจอบ พอละครออนแอร์ไป กระแสตอบรับก็ดีมากๆ ค่ะ รวมถึงแฟนๆ ละครซีรีส์ The Cupids บริษัทรักอุตลุด ของพวกเราทุกๆ คนด้วยนะคะ ตอนนี้ก็ดำเนินเรื่องมาจนถึงตอนกามเทพปราบมาร ตอนสุดท้ายแล้ว ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่ะ”

อัพเดตผลงานละครเรื่องใหม่ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันต่อ

น้ำตาล: “ตอนนี้กำลังถ่ายทำเรื่อง ‘ประกาศิตกามเทพ’ อยู่ค่ะ หลายคนอาจจะงงว่าเป็นภาคต่อของกามเทพ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะ เป็นคนละเรื่องกัน เรื่องนี้ค่อนข้างจะดราม่ามากเรื่องหนึ่งเหมือนกันค่ะ เล่นคู่กับเต้ย – พงศกรค่ะ”

บทบาทตัวละครเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

น้ำตาล: “เรื่องนี้น้ำตาลรับบทเป็นน้ำตาล ตัวละครชื่อน้ำตาลเลยค่ะ ก็รู้สึกดีค่ะ เพราะเรื่องนี้ได้เปลี่ยนลุค จะดูเป็นผู้หญิงที่อยู่ในแวดวงของธุรกิจมากยิ่งขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น มีความเป็นแฟชั่นเข้ามาค่ะ”

เผยออกมาแค่นี้ให้เป็นน้ำจิ้มรอให้แฟนๆ ได้ติดตามกันก่อน สำหรับเรื่องประกาศิตกามเทพ น้ำตาลรับบทเป็น ผาณิตา หรือน้ำตาล ประกบคู่พ่อหมี เต้ย – พงศกร เมตตาริกานนท์ ที่รับบทเป็น เหมันต์ หรือที่สาวน้ำตาลเรียกว่า นายฤดูหนาว ซึ่งในช่วงที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น ด้วยอากาศเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้สาวน้ำตาลถึงกับไม่สบายด้วย แต่ก็ยังมีสปิริตถ่ายทำละครต่อ และแม้เรื่องนี้จะดูเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจ เป็นสาวนักธุรกิจที่มีความเป็นแฟชั่น แต่ฉากบู๊ก็มีนะจ๊ะ แต่จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น แพรวดอทคอม จะมาอัพเดตให้แฟนๆ ได้ทราบกันเรื่อยๆ แน่นอนจ้า…


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @p_namtarn

นี่แหละโอปป้าที่แท้จริง! 17 ปีผ่านไป “ซงซึงฮอน” หล่อเหมือนสตัฟฟ์ไว้

เรียกว่าเป็นการเปิดตัวหนังที่ฮือฮาที่สุดในเกาหลีใต้เลย สำหรับภาพยนตร์ “The Battleship Island” ของผู้กำกับ “รยูซึงวาน” ที่นำโดย 2 พระเอกเอลิสต์ของโสมขาว “โซจีซบ” และว่าที่เจ้าบ่าว ”ซงจุงกิ” โดยเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 60 ได้มีการจัดรอบพิเศษ VIP Premiere ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวเกาหลีใต้ ที่ในรอบพิเศษนี้จะมีเพื่อนๆมาร่วมชมภาพยนตร์พร้อมแสดงความยินดี งานนี้จึงได้เห็นการรวมตัวของบรรดานางเอก-พระเอกแถวหน้าทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น จูจินโม, จางดงกอน, อีจองแจ, พัคโบกอม, อีกวางซู, คังฮานึล, กงฮโยจิน, ซองยูริ, ยูซึงโฮ, ซงจีฮโย, ซานดาร่า, พัคฮยองชิก, ฮันซึงยอน, ฮานิ, อีมินจอง, ซนเยจิน, พัคชียอน ฯลฯ

นักแสดงจากภาพยนตร์ “The Battleship Island”

โดยเฉพาะบรรดานักแสดงชายรุ่นใหญ่ จูจินโม, จางดงกอน และ อีจองแจ เรียกความสนใจจากสื่อมวลชนและบรรดาแฟนคลับเป็นอย่างมาก ด้วยค่อนข้างเก็บตัว แต่วันนี้กลับปรากฏตัวภายในงานอย่างพร้อมเพรียง แต่ที่สะดุดตาคือ 3 นักแสดงหนุ่มวัย 40+ ยังดูดีไม่เปลี่ยน

“พระเอก” จูจินโม “200 Pounds Beauty” (2006) VS ปัจจุบัน 2017
“จางดงกอน” จากละคร “All About Eve” (2000) VS ปัจจุบัน 2017
“อีจองแจ” จาก “City of the Rising Sun” (1999) VS ปัจจุบัน 2017

แต่ที่พีคที่สุดและเรียกได้ว่า “โอปป้าที่แท้จริง!” ก็คือ “ซงซึงฮอน” หรือที่แฟนๆเรียกติดปากว่า “พี่ชาย” พระเอกจากซีรีส์ดัง “Autumn in My Heart รักนี้ชั่วนิรันดร์” ที่แม้เวลาผ่านไปถึง 17 ปีแล้ว แต่ความหล่อของนักแสดงหนุ่มคนนี้กลับไม่แตกต่างจากในละครเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย ไม่ว่าหน้าตาหรือทรงผมเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน “แพรวดอทคอม” เห็นภาพของหนุ่ม “ซงซึงฮอน” ในวันนี้แล้ว! นี่อยากปรี่เข้าไปถามจริงๆ ว่ากินอะไรเป็นอาหาร ถึงได้หล่อคงกระพันเป็นหนุ่ม 2 พันปีแบบนี้

สาวๆกรี๊ดต้อนรับโอปป้าตัวพ่อ
“ซงซึงฮอน”
มุมไหนก็หล่อเหมือนสตัฟฟ์ไว้
หล่ออมตะสมเป็นพี่ชายที่แท้จริง

ภาพจาก tenasia,news1,newsen

ฟินวนไปค่ะ! “มุก-มิกค์” #MM คู่จิ้นใหม่เคมีแรงไม่ใช่เล่นๆ

ตอนเปิดกล้องยังเกร็งๆอยู่ เลยมองไม่เห็นว่า“มิกค์ ทองระย้า”และ“มุก-มุกดา นรินทร์รักษ์”พระเอก-นางเอกจากละครเรื่อง “มัสยา”จะมีความเข้ากันยังไง? แต่ทำไมพอถ่ายทำไปเคมีดันพุ่งแรงขึ้นเรื่อยๆสังเกตจากภาพที่เห็นในอินสตาแกรมของทั้งคู่

ล่าสุดทำแฟนๆจิตเตลิด เมื่อค่ายพอดีคำส่งรูปเบื้องหลังการถ่ายทำของ“มุก-มิกค์” #MM ออกมาให้สาวกฟินวนไป กับความมุ้งมิ้งของพระ-นาง ส่งความจิ้นจะทะลุจอหรือไม่นั้น? หนุ่ม “มิกค์”บอกว่าไม่รู้แต่การันตีว่าในจอมีฉากหวานๆ ฟินๆ เยอะสมใจแฟนคลับแน่นอน

ฉากหวานๆ ฟินๆ

สำหรับละครโรแมนติกดราม่าครบรส “มัสยา” กำกับการแสดงโดย วลีทิพย์ นันทเอกพงศ์ เป็นบทประพันธ์ชั้นครูของ “พนมเทียน” ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ที่จะพาคุณผู้ชมดื่มด่ำไปกับความละมุนละไมในความรักของ “พี่ลักษณ์” ทหารม้าหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่ไม่เคยรู้ใจตัวเองเลยว่า ตัวเองรัก “มัสยา” สาวน้อยจอมแก่นมากแค่ไหน

“มุก-มิกค์” คู่จิ้น #MM

นำแสดงโดย “มิกค์ ทองระย้า” พระเอกหนุ่มรูปหล่อแสนอบอุ่นขวัญใจสาวๆ รับบท ร.ท. ลักษณ์ รัตนมหาศาล และนางเอกสาวหน้าหวาน “มุก-มุกดา นรินทร์รักษ์” กับบทของ “มัสยา” สาวน้อยที่ซ่อนความเก่งไว้ภายใน มีชายหนุ่มหมายปองมากมาย แต่ในใจของเธอมีแต่พี่ลักษณ์เพียงคนเดียวเท่านั้น ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีก อาทิ ดวงตา ตุงคะมณี, อานัส ฬาพานิช, พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์, ชนกันต์ พูลศิริวงศ์, ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ, พลอยไพลิน ตั้งประภาพร และผลงานละครครั้งแรกของ ฝ้าย-สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 25 กรกฎาคมนี้

ดูดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้ท่านเป็นผู้รับฟังที่ดี มีแต่คนนำเรื่องมาปรึกษา จริงๆ แล้วท่านไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งฟังเฉยๆ ก็ถือว่า ได้ช่วยให้เขาผ่อนคลายแล้ว

การเงิน : หมดกับเรื่องทำบุญสร้างกุศล และช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน

ความรัก : วันนี้ท่านจะอยู่ในบรรยากาศงานเลี้ยงสังรรค์ของครอบครัว ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา คนโสด พอมีเข้ามาให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้าง แต่ท่านค่อนข้างหึงเกินตัว

สุขภาพ :  ทานอาหารถูกหลักโภชนาการหน่อยค่ะ เพราะเบาหวาน ไขมัน ความดัน วันนี้มาเป็นแพ๊คเก็จเลย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้วันเสาร์ ท่านอยู่ไม่ติดที่เลย เดินทางไปโน่นนี่ตลอดเวลา เหมือนคนสมาธิสั้น ขี้เบื่อ หงุดหงิดง่าย และไม่ชอบให้ใครบงการ หรือชี้นำในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกไม่ดี

การเงิน : เข้ามือขวาออกมือซ้าย แต่ดูๆ แล้วจะออกเสียมากกว่า

ความรัก :  วันนี้อารมณ์ท่านขึ้นลงง่ายมาก เบื่อง่าย เดินทางเปลี่ยนสถานที่เที่ยวบ่อยๆ จะช่วยได้ คนโสด ท่านตั้งสเป๊คไว้สูง แล้วยินดีที่จะรอคอยด้วย ก็ต้องรอนานหน่อย

สุขภาพ : เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก พกล่วมยาไปด้วยนะ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ท่านจะกระโดดเข้าไปในสถานการณ์แย่งชิงผลประโยชน์ เพื่อกอบโกยตักตวง ลาภยศชื่อเสียงในที่ทำงาน ถูกบังคับให้ทำงานจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ด้วยความรู้สึกที่อึดอัดเป็นอย่างยิ่ง

การเงิน : อย่าดื้อรั้นหรือดันทุรังที่จะลงทุน เพราะไม่เกิดผล เสียเงินเปล่า

ความรัก :  วันนี้ท่านแข่งขันอะไรกันอยู่หรือเปล่า หากใช่ ป้าขอบอกว่า ผลออกมาคือ แค่เกมๆ หนึ่งที่ไม่มีความหมาย หรือสร้างสรรค์เลย จับมือกันไปหาข้าวทานอร่อยๆ ดีกว่า  คนโสด รักกันชั่วครั้งชั่วคราว แต่เร่าร้อนรุนแรง ว๊าว ฟินค่ะ

สุขภาพ : ขับรถระวังอุบัติเหตุนะคะ อย่าเผลอไปสบตาใครเข้า ดวงท่านมีเกณฑ์ทะเลาะวิวาท

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  แรงค่ะ ไม่ฟังใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นควรทำงานของตัวเอง เป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวด้วยจึงจะประสบความสำเร็จ

การเงิน   :  ปานกลางค่ะ เพราะไม่ได้แต้มต่อเลย เหงื่อต้องไหลจึงจะได้เงิน

ความรัก :  เวลาครอบครัวของท่านคือ การนั่งคุยกันมากกว่าจะออกไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ดีค่ะ ไม่เหนื่อย ไม่เปลือง ได้ใช้เวลาด้วยกันเหมือนกัน คนโสด ท่านชอบเข้าสังคมมากกว่าจะอยู่ตามลำพังสองเรา เพราะฉะนั้นก็โสดอย่างมีความสุขดีกว่า

สุขภาพ : ไวต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงอากาศ ยิ่งฝนตกขนาดนี้ ระวังเป็นหวัดเด้อ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ก็ยังหายใจไม่ทั่วท้อง วันนี้ท่านก็ตกที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถูกหลอก ตกเป็นแพะรับบาป เพราะฉะนั้นควรรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น หรือขอคำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์บ้าง

การเงิน :   เป็นเหยื่อรับภาระหนี้สินแทนคนอื่น

ความรัก : วันนี้มีการหึงหวงอย่างไร้เหตุผลเกิดขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความรัก คนโสด อิจฉาสุดๆ วันนี้คู่ครองท่านเพอร์เฟ๊คท์ ทัศนคติ ความคิดที่ดี ข้อสำคัญรวยเสียด้วย

สุขภาพ :  เจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนของน้ำในร่างกาย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ท่านได้ทำงานในสิ่งที่รักและชอบ จนรู้สึกรักงานที่ทำจริงๆ หรือหากทะเลาะหรือขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานอยู่ก็จะเริ่มดีกัน

การเงิน :  ชอบปรนเปรอในเรื่องของความรัก

ความรัก : วันนี้ท่านกับคู่อาจกำลังตัดสินใจที่จะลองใช้ชีวิตด้วยกันก่อน ไม่ผิดอะไร เพราะยุคนี้ทำอะไรก็ได้แล้ว ไว้พรุ่งนี้มาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร  คนโสด ท่านกำลังตกหลุมรักมากมาย อย่างไรก็แล้วแต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย

สุขภาพ  :   ระวังอุบัติเหตุทั้งทางบกและทางน้ำ เบาะๆ ก็เดินชนนั่นนี่ เชียวช้ำไปทั้งตัว

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านจะเข้าไปพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย ศีลธรรม หรือพัวพันกับอบายมุขต่างๆ เช่น เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ออกเงินกู้ เจ้ามือหวย ทำนองนี้  หลีกเลี่ยงนะ เพราะจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน

การเงิน : ได้เงินร้อนหรือทุกขลาภ

ความรัก :  วันนี้วันเสาร์เหมือนท่านลัลล้า ดื่ม กิน เที่ยว ไม่ได้คิดถึงครอบครัวมากเท่าไหร่ คนโสด เจอใครวันนี้อย่าคิดอะไรมาก ขำๆ เพราะพรุ่งนี้เขาก็ลืมท่าน

สุขภาพ :  อย่าดื่มและอย่าสูบข้ามวันข้ามคืน เพราะจะทำให้สุขภาพทรุดโทรม

 

 

คิมเบอร์ลี่กับ 8 ชุดไทยสไบเฉียงสวยมากกกกก

account_circle

8 ชุดไทยสไบเฉียง จากนิตยสาร แพรว Wedding ฉบับปฐมฤกษ์มาพร้อมความสวยสง่าไร้ที่ติของคิมเบอร์ลี่ที่จับคู่มากับความพิถีพิถีนสร้างสรรค์ชุดไทยตามประเพณีจากดีไซเนอร์ไทยที่การันตีในฝีมือการตัดเย็บ เพื่อคุณว่าที่เจ้าสาวได้ภูมิใจกับความเป็นเจ้าสาวเลือดไทยแท้

ก่อนที่จะไปดูชุดไทยสไบเฉียงสวยๆ ที่เรานำมาฝาก เราอยากให้คุณรู้ว่า 90% ของว่าที่เจ้าสาวที่ฝันจะใส่ชุดไทยเข้าพิธีแต่งงานคือ การได้ใส่ชุดไทยสไบเฉียง แต่ปัญหาคือ พอเปิดดูแบบชุดก็เริ่มงงว่า ทำไมชุดไทยที่เห็นบางทีก็แลดูว่าชุดนี้สไบใหญ่กว่าชุดนั้น ชุดนั้นทำไมมีผ้าสไบสองชิ้น ประมาณว่าดูเผินๆ ก็เหมือนว่าจะแบบเดียวกัน แต่พิศไปลึกๆ ก็แบบว่าไม่ใช่อ่ะ นั่นเพราะชุดไทยสไบเฉียงที่คุณเห็นคือ 2 ใน 8 ของชุดไทยพระราชนิยม อันได้แก่ ชุดไทยจักรีและชุดไทยจักรพรรดิ ซึ่งมีทั้งความเหมือนและต่าง แต่จะเป็นตรงไหนบ้าง แพรว Wedding หาคำอธิบายมาให้ค่ะ

ชุดไทยจักรี เป็นชุดไทยที่ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นชุดที่ห่มด้วยสไบผ้าไหมแบบมีชายเดียวปักดิ้นทองหรือไม่ปักก็ได้ ชายสไบคลุมไหล่ด้านซ้ายทิ้งชายด้านหลังยาวตามสมควร จะเย็บติดกับซิ่นหรือเป็นท่อนเดียวกันหรือจะห่มสไบต่างหากก็ได้ โดยซิ่นจะมีการจับจีบยกข้างหน้า มีชายพก ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัวคาดเข็มขัดไทย โดยเครื่องประดับที่ใช้อาจมีทั้งสร้อยคอ รัดแขน สร้อยข้อมือ

ชุดไทยจักรพรรดิ เป็นชุดไทยที่ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน จัดเป็นชุดของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยโบราณ ปัจจุบันนิยมนำมาใช้เป็นชุดเจ้าสาว โดยมีทั้งแบบตัดเย็บสำเร็จและนุ่งสด โดยรวมแล้วมีลักษณะคล้ายกับชุดไทยจักรี แต่จะให้ความหรูหราและมีพิธีรีตองมากกว่า เนื่องจากมีการห่มสไบแพรทึบสีตัดกับซิ่นชั้นหนึ่งก่อน แล้วจึงห่มทับด้วยสไบจับจีบปักดิ้นทองสวยงาม ซิ่นตัดเย็บจากผ้าไหมหรือผ้ายกทอง มีเชิง จับจีบด้านหน้ามีชายพก เครื่องประดับที่เลือกใช้ส่วนใหญาจะเป็นเครื่องทองหรือเครื่องเพชรตามความเหมาะสม ปิดท้ายด้วยการคาดเข็มขัด

คิมเบอร์ลี่ในชุดไทยจักรพรรดิ ห่มสไบรองสีน้ำตาลทอง ทับด้วยสไบกรอง ปักลวดลายดอกไม้สีทองแสนวิจิตร นุ่งผ้ายกแท้สีเขียวปีกแมลงทับ ยกดิ้นทองแบบจีบหน้านาง มีชายพกงามสง่าอย่างสตรีสูงศักดิ์ (โดย Vanus Couture)

ชุดไทยจักรพรรดิห่มสไบรองสีขาวออฟไวท์ขอบลูกไม้ ทับด้วยสไบกรองปักลายดอกไม้สีโทนเงิน-ขาวทั้งตัวอย่างอ่อนช้อย ผ้าซิ่นทอลายในตัวสอดดิ้นทอง นุ่งห่มสดยกหน้านาง ยิ่งทำให้คิมดูเป็นสาวหวานละมุนละไม (โดย Vanus Couture)

สง่างามทรงคุณค่าในชุดไทยจักรีสีทองคำขับผิวผ่องของคิมเบอร์ลี่สุดๆ ตัวชุดตัดสำเร็จเห็นช่วงเอวคอดสวย ห่มสไบหน้าแคบปักลวดลายไทยสีทองทั้งตัวอย่างประณีต นุ่งผ้าไหมไทยยกสอดดิ้นทองแบบจีบหน้านางมีชายพก (โดย Vanus Couture)

ชุดไทยจักรีสีชมพูกลีบบัว ดูอ่อนหวาน ห่มสไบปักดิ้นปล้องสีเงินและคริสตัลอันวิจิตรตระการตา นุ่งผ้าไหมยกลำพูนสีพาสเทลแบบจีบหน้านาง มีชายพก (โดย BOBO Studio)

ชุดไทยจักรพรรดิ ห่มสไบรองสีน้ำตาลแดงสอดดิ้นทอง ทับด้วยสไบปักเลื่อมสีทองและคริสตัลหลากสีทั้งตัว ผ้าถุงทอลายดอกไม้ ปักหน้านางและเชิงล่างให้กลมกลืนกับสไบอย่างพิถีพิถัน สวยงามละเมียดละไม (โดย Costume Cafe)

คิมเบอร์ลี่เยื้องย่างดั่งนางพญาในชุดไทยจักรพรรดิสีตัดกันตามอย่างโบราณ ห่มสไบรองผ้าไหมสีน้ำตาลแดง ทับด้วยสไบกรองปักดิ้นปล้องสีเงินและคริสตัลทั้งตัว นุ่งผ้าทอกรวยเชิง 3 ชั้นสีม่วงครามแบบจีบหน้านาง มีชายพก (โดย Vanus Couture)

ชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูเผือก ห่มสไบรองผ้าไหม ทับด้วยสไบแบบโบราณปักดิ้นปล้องสีทองทั้งตัว ผ้านุ่งไหมยกลำพูนแบบจีบหน้านาง มีชายพก ดูอ่อนหวานและสง่างามอยู่ในที (โดย Smile in Love & Wedding Studio)

ชุดไทยจักรพรรดิสีทอง ห่มสไบรองสีครีม ทับด้วยสไบปักเลื่อมทองทั้งตัวอย่างประณีต ผ้านุ่งสีครีมสอดดิ้นทอง ปักจีบหน้านางและเชิงล่างด้วยเลื่อมทองให้รับกับสไบ ดูงดงามตระการตา (โดย เจ้านางเวดดิ้ง)

Cr. Vanus Couture โทร. 0-2002-4895, Costume Café โทร. 08-3815-4774, เจ้านางเวดดิ้ง โทร. 08-8089-5999, Bobo Studio โทร. 08-9471-5069, Smile in Love โทร. 06-3224-6647

สารพัดความเข้าใจผิดเรื่อง “ถุงยาง”

account_circle

ตั้งแต่เกิดมายาวนานป่านฉะนี้ สัมผัสรสรักมาก็มาก เม้าส์เรื่องใต้สะดือมาก็เยอะ แต่มีเรื่องหนึ่งที่กี่ปีกี่ชาติก็นั่งถกนั่งเถียงกับเพื่อนๆ ได้สนุกปากตลอดๆ นั่นก็คือเรื่องของ ถุงยาง อนามัยที่ไม่ว่าจะชายหนุ่มหรือหญิงสาวยังคงมีอะไรบางอย่างไม่กระจ่างชัดในการใช้งาน ซึ่งผลของการใช้งานผิดคงไม่ต้องให้เหลามาก เพราะแทนที่จะไม่ท้องไม่ติดโรค ทุกสิ่งก็เกิดขึ้นแบบจัดเต็ม มีเรื่องไหนบ้างที่เข้าใจกันผิด มาว่ากันเลย

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางไม่ท้องแน่” พูดชัดๆ ได้เพียงว่าใส่ถุงยางแล้วจะเสี่ยงท้องน้อยที่สุดค่ะ นั่นเพราะว่าแม้คุณจะใช้ถุงยางแต่ถ้าไม่ดูให้ดีว่าถุงยางเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานหรือยัง ใช้ไปก็มีสิทธิ์รั่วมีสิทธิ์แตกได้เหมือนกัน นอกจากนี้ใส่ถุงยางก็อาจท้องได้ถ้าคุณมาใส่เอาตอนหลัง ไม่ต้องงงค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วกับเพื่อนซี้ตัวเล็กสเปคฝรั่งของมาดามเอง เรื่องของเรื่องคือว่า นางมีเซ็กส์กับแฟนหนุ่มชาวอังกฤษแบบเนื้อแนบเนื้อ พอพ่อหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าจะถึงเส้นชัยถึงได้หยิบถุงยางมาใส่ ผลน่ะเหรอคะ 9 เดือนหลังจากนั้น มาดามก็บินไปรับขวัญหลานไงคะ

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางกันโรคทางเพศได้สารพัด” คุณค่ะเรื่องนี้ต้องพูดให้ชัดว่าถุงยางป้องกันได้แค่โรคที่เกิดจากการสอดใส่ เพราะเวลาคนเรามีเซ็กส์กันเนี่ย เขาไม่สัมผัสกันทางอื่นก่อนสอดใส่หรือไง ไม่ว่าจะจูบปากหรือทำออรัลเซ็กส์ให้ เชื้อโรคแฝงตัวในน้ำลายก็อาจแทรกซึมเข้าอวัยวะเพศชาย ในทางกลับกันเชื้อโรคจากน้องชายก็สามารถถ่ายเทสู่ปากของคุณได้เช่นกัน

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางหลายชั้นยังไงก็ปลอดภัย” ต้นตอความคิดนี้คือสมัยก่อนยังไม่มีถุงยางที่ช่วยยืดอายุการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย หนุ่มๆ ก็เลยคิดเอาเองว่าถ้าใส่หลายชั้นจะได้อึดขึ้นเพราะกว่าจะรู้สึกจี๊ดก็ต้องใช้เวลา แต่หารู้ไม่ว่าความที่ใส่หลายชั้นจะทำให้ถุงบางๆ เลยเกิดการเสียดสีกัน พอเสียดสีเสร็จก็จบข่าวสิคะ ถุงยางที่ว่าจะช่วยให้อึดขึ้นก็ขาดซะงั้น

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางแล้วใช้เจลหล่อลื่นได้” จะว่าผิดเต็มร้อยคงไม่ใช่ อยู่ที่ว่าคุณเลือกใช้เจลที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหรือเปล่า เพราะถ้าใช้แบบนั้นเมื่อไหร่เตรียมถุงขาดได้เลยเพราะน้ำมันจะทำปฎิกริยากับยางค่ะ แต่หากใช้เจลหล่อลื่นสูตรน้ำละก็โอเคเลย ลื่นไหลได้ทั้งช่องหน้าช่องหลัง

เข้าใจผิดว่า “เก็บถุงยางไว้ในซอกหลืบกระเป๋าตังค์เวิร์คสุด” แม้จะดูว่าหยิบใช้ง่ายและสนองอารมณ์ที่กำลังมาเต็มได้ทันท่วงที แต่รู้ไหมคะว่า ความร้อนที่เกิดขึ้นบวกกับการเสียดสีไปมาโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ยางเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าที่คิด แม้ถุงยางจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี ก็เถอะ เจอสภาพแวดล้อมแบบนั้นเมื่อไหร่ก็เน่าก่อนเวลาอันควรเหมือนกัน อ้อ…เก็บถุงยางไว้ในรถร้อนๆ ชะตาถุงก็ขาดไม่ต่างกันนะคะ

เข้าใจผิดว่า “ถุงยางหลากสีอันตรายถึงชีวิต” คิดง่ายๆ นะคะว่ากว่าจะคิดค้นนำมาขาย ผู้ผลิตเขาต้องทดสอบแล้วทดสอบอีกจริงไหม ไม่อย่างนั้นจะนำออกวางจำหน่ายได้อย่างไร ซึ่งความหลากสีหลากกลิ่นที่ว่าทำขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับเรื่องบนเตียง จึงรับประกันได้ว่าปลอดภัยแน่นอน ทีนี้ก็เลือกช้อปได้ตามสีที่ถูกโฉลกเลยจ้ะ

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางไซส์ไหนก็เหมือนกัน” หนุ่มๆ บางคนอายสาวเหลือเกิน ถ้าจะหยิบถุงยางขนาด 49 มม. มาใช้ก็เลยเนียนเอาแบบ 52 มม. มาแทน รู้ไว้เลยนะคะว่า นี่แหละเป็นตัวการทำให้เกิดความผิดพลาดในการป้องกัน เพราะเสื้อตัวใหญ่ใส่ไปก็หลวมประเดี๋ยวเดียวก็หลุดลุ่ย ฉันใดก็ฉันนั้นถ้าถุงยางใหญ่ไป คิดหรือว่าจะไม่หลุดง่ายๆ หลุดข้างนอกยังโอเคนะ แต่หลุดข้างในหรือคาประตูเนี่ย ไม่ดีแน่

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางซ้ำได้” ไม่รู้ว่าแนวคิดนี้เกิดจากเหตุฉุกเฉินหรือนโยบายประหยัด แต่ไม่ว่าจะทางไหน พูดเลยนะคะว่าเข้าใจผิดและทำพลาดอย่างแรง เพราะสารหล่อลื่นที่มาคู่กับถุงยางได้รับการผลิตขึ้นมาให้ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ต่อให้คุณบอกว่าก็ใช้แล้วแต่รอบแรกยังไม่เสร็จก็ไม่ควรถอดออกมาผึ่งลมและนำกลับมาใช้ต่อนะจ้ะ

เข้าใจผิดว่า “ใส่ถุงยางด้านไหนก็ไม่ต่างกัน” ถ้าความเข้าใจผิดในเรื่องนี้เกิดขึ้นในครั้งแรกของคนที่เป็นมือใหม่หัดใช้ถุงยาง มาดามจะไม่ว่าสักนิด แต่ถ้าคุณคือมือเก๋าล่ะก็ คงต้องไล่ให้ไปฝึกการใช้งานกันใหม่แล้วล่ะ เพราะแม้บางคนจะฝืนใส่ไปได้ แต่การันตีเลยว่าตอนที่สอดใส่ในน้องสาวเมื่อไหร่ น้องสาวร้องจ๊ากแน่ๆ เพราะความฝืดที่ไม่มีสารหล่อลื่นยังไงล่ะ

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : www.popsugar.com

เก็บตก “กรีน – อัษฎาพร” อวดลุคเซ็กซี่โมเดิร์น เข้าชิงรางวัลนำหญิงนาฏราช ครั้งที่ 8

กรีน – อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล เป็นอีกหนึ่งผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากขมิ้นกับปูนในบท ปัทมา งานนี้เธอมาในลุคเซ็กซี่อีกเช่นเคย และแทบจะเป็นลุคซิกเนเจอร์ของนางเอกสาวไปแล้ว สำหรับการโปรยเสน่ห์แซ่บๆ บนพรมแดง เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ออกงาน ต้องได้เห็นความเผ็ดตลอด รอบนี้เธอบอกว่าเบรกความเซ็กซี่ลงมาแล้วนะ ไม่ได้จัดเต็มเหมือนทุกที

หม่อมเจ้าการวิก

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก ล่องทะเลขึ้นฝั่งที่อินเดีย (ตอนที่20)

หม่อมเจ้าการวิก
หม่อมเจ้าการวิก

หม่อมเจ้าการวิก ล่องทะเลขึ้นฝั่งที่อินเดีย

หม่อมเจ้าการวิก พร้อมคณะนายทหารเสรีไทยสายอังกฤษ ได้เดินทางออกจากแอฟริกาใต้ต่อไปยังประเทศอินเดีย เพื่อเตรียมฝึกซ้อมในการปฏิบัติการแบบกองโจร แต่น่าเสียดายว่า มีเพื่อนบางคนต้องออกจากการฝึก เพราะเกิดการเหตุจนไม่สามารถฝึกต่อไปได้

เรือ ‘สตาร์ธแอรด์’ ที่นำกำลังทหารอังกฤษพร้อมกับพวกเราทั้ง 36 ชีวิต ฝ่าคลื่นลมในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ โดยมีจุดหมายแรกที่สุเอซและปอร์ตเซอิด เพื่อส่งทหารส่วนหนึ่งขึ้นไปรบในแถบดินแดนทวีปแอฟริกาเหนือ ก่อนจะมุ่งหน้าสู่อินเดียต่อไป

เรือที่พวกเราโดยสารนั้นเดิมเป็นเรือโดยสารของบริษัท P (PENINSULA) AND O (ORIENTAL) STEAM NAVIGATION COMPANY แล่นในเส้นทางลอนดอน-บอมเบย์-โคลัมโบ-เมลเบิร์น-ซิดนีย์ เรือลำนี้สามารถรับคนได้ร่วม 6,000 คน แต่การเดินทางครั้งนั้นบรรทุกทหารไปประมาณ 4,000 คน จึงไม่แออัดมากนัก ทว่าเรือก็บรรจุเหล่าอาวุธยุทโธปกรณ์ไปจนเพียบ พวกเราหลายคนได้รู้จักสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ของเรือคนหนึ่ง ชื่อมิสเตอร์เจฟฟรี่ย์ โกร๊ค (GOEFFREY GROARKE) หลังจากสงครามเลิก เขายังทำงานอยู่บนเรือลำนี้ต่อมาอีกหลายปี จนกระทั่งเรือถูกปลดระวางขายเป็นเศษเหล็ก เขาได้เก็บเศษไม้สักบนเรือจารึกชื่อพวกเราทั้งหมดมาแจกให้เป็นที่ระลึกด้วย ภายหลังเขาเข้ามาทำงานในเมืองไทย และได้มาร่วมงานเลี้ยงประจำปีกับพวกเราเสมอ

พวกเราถูกจัดให้อยู่บริเวณชั้นล่างของเรือที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำ ในส่วนที่เป็นห้องรับประทานอาหารร่วมกับทหารฝรั่งอีกหลายสิบคน เวลารับประทานอาหารเสร็จก็เก็บโต๊ะใช้เป็นที่นอน บางคนนอนใต้โต๊ะ บางคนนอนบนเปลที่แขวนไว้เหนือโต๊ะ สิ่งที่ผมรู้สึกว่าน่าอึดอัดคือ เวลาพวกขี้ยาสูบบุหรี่ในห้องแล้วอากาศไม่ถ่ายเท ทำให้หายใจไม่ออก ทางเรือก็สั่งห้าม อนุญาตให้ไปสูบบนดาดฟ้าแทนได้ แต่ในตอนกลางคืนนั้นห้ามเด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตรายจากการโจมตีของข้าศึก เพราะแสงไฟของบุหรี่สามารถเห็นได้ไกลเป็นระยะถึง 1 กิโลเมตรทีเดียว

แต่สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดคือ เรือดำน้ำของข้าศึกที่ยิงตอร์ปิโดเข้ามา สามารถจมเรือลงก้นทะเลได้ใน 4 นาทีครึ่ง แต่การซ้อมหนีภัยลงเรือบดเวลาเรือถูกยิงที่เขาให้ซ้อมทุกวันอย่างเป็นระเบียบทีละหน่วยๆนั้น กว่าพวกเราที่อยู่ชั้นล่างสุดจะขึ้นเรือบดได้ ก็กินเวลาถึง 35 นาที ผมไม่กลัวถูกยิงตาย แต่กลัวจมน้ำแล้วหายใจไม่ออกมากกว่า

หม่อมเจ้าการวิก ทรงชุดนายทหารอังกฤษ
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำในการก่อสงครามโลกครั้งที่ 2

ขบวนเรือแล่นผ่านช่องแคบโมซัมบิก (MOZAMBIQUE CHANNEL) ซึ่งอยู่ระหว่างรัฐโมซัมบิกกับเกาะมาดากัสการ์ (MADAGASCAR) จนกระทั่งถึงเอเดน ส่งทหารจำนวนครึ่งหนึ่งของทั้งหมดขึ้นที่สุเอซและปอร์ตเซอิดในย่านทะเลแดง จากนั้นจึงมุ่งสู่เมืองบอมเบย์ด้านฝั่งตะวันตกของอินเดีย ในช่วงการเดินทางช่วงนั้นคลื่นลมสงบ ท้องฟ้าสวยงามและอากาศร้อน ผมรู้สึกตื่นเต้นกับบรรยากาศที่เห็น เพราะห่างเหินความคุ้นเคยนี้ไปนานร่วม 17 ปี ประกอบกับเป็นโชคดีที่ท้องทะเลในมหาสมุทรอินเดียไม่มีกองทัพเรือรบของญี่ปุ่นเพ่นพ่านหนาแน่นเหมือนกับทะเลทางยุโรปที่เยอรมันส่งเรือรบและเรือดำน้ำอาละวาดกันยุ่บยั่บ ทหารบนเรือจึงมีความสุขสราญกันถ้วนหน้า มีทหารฝรั่งมาขอฟังคำบรรยายที่พวกเราผลัดกันสอนเศรษฐศาสตร์ การแพทย์ เคมี ฯลฯ ซึ่งเป็นวิชาต่างๆที่พวกเราเรียนกันมา

ขณะที่เรือกำลังมุ่งเข้าสู่เมืองบอมเบย์ นายทหารผู้ควบคุมและเจ้าหน้าที่ประจำเรือได้พร้อมใจกันจัดงานรื่นเริงขึ้น มีการแข่งขันกีฬา การแสดงและคอนเสิร์ต พวกเรา 36 คน ได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาทุกประเภทรวมทั้งชกมวย บุญพบ ภมรสิงห์ ซึ่งเป็นลิเกเก่าและมีโอกาสติดตามคณะศิลปินต่างชาติ ระหกระเหินจากเมืองไทยจนไปถึงอังกฤษ แล้วร่วมอาสาเป็นเสรีไทยเพื่อกลับมารับใช้ชาติได้แสดงการรำไทย และได้รับความสนใจจากเพื่อนทหารต่างชาติมาก จนต้องแสดงถึงสองรอบ

ผมสมัครลงกีฬาชกมวย โดยขณะนั้นรู้สึกมีไข้เล็กน้อย แพทย์สั่งให้นอนพักผ่อน แต่ผมเห็นว่าชกแค่ 3 ยกคงไม่เป็นไรจึงไม่ขอถอนตัว ปรากฏว่าคู่ชกของผมเคยเป็นรปภ.ในร้านเหล้าที่คอยโยนคนเมาที่เกเรออกจากร้าน ตัวโต สูงล่ำกว่าผม จึงต้องแพ้ไปตามระเบียบ แต่ตอนหลังเพื่อนทหารรู้ว่าผมลงชกด้วยจิตวิญญาณของนักกีฬาและขัดคำสั่งแพทย์ เขาก็ยกย่องให้เป็นผู้แพ้ที่ดีที่สุด แทบจะเป็นวีรบุรุษทีเดียว มีทหารเด็กๆคอยอาสาไปเข้าแถวซื้อน้ำชามาให้ดื่ม

ส่วนเพื่อนอดีตนักกีฬาเก่าผู้แข็งแรงได้แก่ ประทาน ป๋วย และสวัสดิ์ ชนะการโดดสูง ธนา เสนาะ และหลวงอาจฯ ชนะเดินเร็ว ปัทม์ กอกษัตริย์ จีริดนัย และภีศเดช แม้จะไม่ได้รางวัลในชั้นเยี่ยม แต่ก็แสดงความสามารถเต็มที่จนชนะใจคนดู

หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ผู้นำเสรีไทยสายสหรัฐอเมริกา

เรือเข้าจอดเทียบท่าที่บอมบ์เบย์ ในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2486 เมื่อนับรวมๆกันแล้วพวกเราใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ออกจากลิเวอร์พูลแวะพักที่แอฟริกาใต้ จนมาถึงที่นี่ประมาณ 3 เดือน เท่าที่ผมเห็น เมืองบอมบ์เบย์นี้เป็นเมืองใหญ่มาก อาคารบ้านเรือนปลูกอยู่หนาแน่น บริเวณอ่าวปลูกต้นไม้ประเภทปาล์มเรียงราย และมีทิวเขากระจัดกระจายไปทางทิศตะวันออกดูสวยงาม อากาศในขณะนั้นร้อนอบอ้าวและชื้นมาก

พวกเราลงเรือในตอนเช้าของวันต่อมา โดยมีนายทหารคนหนึ่งของหน่วย SIAM SECTION และพาไปพักที่ค่ายพักผ่านชานเมืองที่ตำบลโคลาบาร์ (COLABAR) ตั้งอยู่ชายทะเล มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายพอสมควร ที่พักเป็นอาคารหลังยาว มีเตียงเรียงรายสองแถว เว้นว่างกลางห้องเป็นทางเดิน มีหน้าต่างหลายบาน ทั้งสองด้านมีพัดลมเพดานหลายตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบรรเทาอากาศที่ร้อนอบอ้าว

ที่ค่ายนี้พวกเราได้เลื่อนฐานะขึ้นเทียบเท่านักเรียนนายร้อย ได้รับประทานอาหารกับพวกนายสิบครูฝึก มีแขกคอยเสิร์ฟอาหาร ล้างจานชาม และคอยรับใช้ต่างๆ ห้องน้ำห้องส้วมก็สะดวกและสะอาด ความเป็นอยู่ดีกว่าที่เด็นบี้แยะ

วันรุ่งขึ้น หลังอาหารเช้า นายทหารคนที่มารับที่เรือมาพบพวกเราบอกว่า มีคำสั่งให้พวกเรา 19 คนที่เขาเลือกไว้แล้ว เตรียมตัวออกเดินทางไปค่ายเมืองปูนา (PUNA) ในวันรุ่งขึ้นเพื่อฝึกหน่วยสงครามพิเศษแบบกลุ่มกองโจร ซึ่งจะถูกส่งเข้าปฏิบัติงานในเมืองไทยในการก่อกวนข้าศึก พวกที่จะมาฝึกในหน่วยนี้ เขาพิจารณาแล้วว่าเป็นพวกที่มีปฏิภาณไหวพริบ การตัดสินใจใช้ได้ มีกำลังกายและใจเข้มแข็งพอจะดำรงชีวิตอย่างทรหดได้เป็นเวลานานๆ เพราะต้องถูกฝึกหนักกว่าทหารหน่วยรบปกติ ผู้ที่ถูกคัดเลือก ได้แก่ กอกษัตริย์ จีริดนัย ภีศเดช ป๋วย ประทาน เปรม รจิต สำราญ ธนา กฤษณ์ ประเสริฐ ประโพธ ประพฤทธิ์ บุญส่ง ปัทม์ อรุณ วัฒนา และผม ต่อมาเพื่อนอีกสามคนถูกส่งมาร่วมฝึกสมทบด้วย คือ ทศ เสนาะ (นิลกำแหง) และเทพ

ส่วนคนอื่นที่เหลือก็ถูกแยกย้ายกันไปทำงานอย่างอื่น เช่น หลวงอาจฯ ถูกเลือกไปทำงานหน่วยสืบราชการลับหาข่าวกรองที่สำนักงานในกรุงเดลี สวัสดิ์กับจุ๊นเคงไปฝึกที่เมืองกัลกัตตา หลวงภัทรฯ จิรายุ ประจิตร และวิวรรธน์ ถูกเลือกไปปฏิบัติงานด้านข่าวสาร คอยฟังและจดข่าววิทยุจากเมืองไทย แล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษเสนอต่อเจ้าหน้าที่ส่งวิทยุกระจายเสียงภาคภาษาไทยจากสถานีวิทยุ ออลอินเดีย เรดิโอ (ALL INDIA RADIO) รวบรวมข่าวจากหนังสือพิมพ์และเอกสารที่ได้จากประเทศไทย หน่วยงานนี้ขึ้นกับกระทรวงการสนเทศ (MINISTRY OF INFORMATION) ซึ่งต่อมาในระยะใกล้สงครามเลิกกลายเป็นหน่วยงานสำคัญ และต้องระดมพวกเราเข้ามาเพิ่มเติมอีก ได้แก่ สว่าง ม.ร.ว.กิตินัดดา ส่วนคุณสุภาพ (รักตประจิตร) รับคำสั่งให้เดินทางมาจากอังกฤษ

และกอกษัตริย์ ซึ่งทรงถูกย้ายมาทีหลัง เพราะเกิดประชวรด้วยโรคต่อมไทรอยด์ (THYROID) จนไม่อาจฝึกอยู่ในหน่วยสงครามพิเศษต่อไปได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หม่อมเจ้าการวิก

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก รอนแรมถึงแอฟริกาใต้ (ตอนที่19)

หม่อมเจ้าการวิก
หม่อมเจ้าการวิก

หม่อมเจ้าการวิก รอนแรมถึงแอฟริกาใต้ (ตอนที่19)

หม่อมเจ้าการวิก การเดินทางออกจากอังกฤษ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับของคณะทหารเสรีไทยสายอังกฤษนั้น จุดหมายปลายทางแห่งแรกคือ แอฟริกาใต้ ซึ่งประสบการณ์ในดินแดนแห่งนั้น ต้องประสบกับสภาพสังคมที่มีการเหยียดผิวอย่างชัดเจน

เช้าวันที่สี่ พวกเราลืมตาตื่นขึ้นพลันได้กลิ่นเหม็นบูดเน่า ต่างหันไปทางหลวงภัทรฯที่นอนซุกอยู่ในมุมมืดๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรไปเสียแล้ว พอผมเรียกเขาก็ขยับตัวพลิกกลับมาได้ค่อยโล่งอก ผมเลยเดินไปดูที่ห้องเก็บอาหารถึงรู้ว่าผักในนั้นเน่า จึงรีบขึ้นไปรายงานผู้บัญชาการ และขอให้ย้ายพวกเราขึ้นไปนอนที่ดาดฟ้าชั้นบนใกล้ปล่องเรือ ซึ่งขณะนั้นอากาศคลายความหนาวลงบ้าง โชคดีที่เมื่อทุกคนได้รับประทานแซนด์วิชกับดื่มน้ำชาร้อนที่คุณธนาให้แล้วก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง ผมเดินไปซื้อลูกพีชกระป๋องมาให้หลวงภัทรฯ หลวงอาจฯ และคนอื่นๆ ที่อาการออกจะหนักรับประทาน เผื่อจะช่วยให้ดีขึ้นอีก หลวงภัทรฯกลืนเข้าไปได้สักสามสี่คำก็ยกมือไหว้ผมพร้อมกับครางเสียงอ่อยว่า

“ฝ่าบาททรงช่วยชีวิตกระหม่อม กระหม่อมจะไม่ลืมพระคุณเลย”

หลังจากที่เรือฝ่าพายุร้ายมาร่วม 5 วัน 5 คืน สภาพคลื่นลมในทะเลจึงดีขึ้น ทุกคนก็บรรเทาจากการเมาคลื่น และอากาศไม่หนาวท้องฟ้าแจ่มใส เพราะว่าขณะนั้นเรือกำลังแล่นเข้าเขตทวีปแอฟริกาเหนือ ทุกคนจึงเปลี่ยนเครื่องแบบเป็นแบบทหารเมืองร้อน ซึ่งผมต้องขออธิบายเส้นทางการเดินเรือของพวกเราในครั้งนั้นสักนิด คือ ในช่วงสงครามตอนนั้น เยอรมัน (แม่ทัพ ROMMEL) มีชัยชนะในบริเวณแอฟริกาเหนือและน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมีแผนที่จะยึดครองดินแดนบริเวณรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และคลองสุเอชที่ตัดผ่านเข้าทะเลแดง ย่านคาบสมุทรอาระเบียเพื่อจะออกสู่มหาสมุทรอินเดีย ไปรวมกำลังกับกองทัพญี่ปุ่นที่กำลังแผ่อำนาจมาทางพม่าและอินเดีย

ฉะนั้นเรือลำเลียงของอังกฤษ จึงไม่สามารถที่จะอ้อมผ่านสเปนเพื่อตัดผ่านมาทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ เพราะเสี่ยงกับการถูกจมโดยตอร์ปิโด จึงต้องแล่นเรือมาทางด้านตะวันตกของทวีปแอฟริกาแทน

หม่อมเจ้าการวิก ทรงชุดนาบทหาร ฉายเต็มองค์

เกือบหนึ่งเดือนนับตั้งแต่พวกเราออกเดินทางจากอังกฤษ จนกระทั่งมาถึงเมืองเคปทาวน์ (CAPE TOWN) เมืองท่าใหญ่ของประเทศแอฟริกาใต้ทางตะวันตกเฉียงใต้ หรือฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก วกเข้ามหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นจุดหมายแรกในการขึ้นบกเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไป ประเทศนี้ผมได้ยินข่าวมานานแล้วในเรื่องการแบ่งผิวเหยียดผิวที่รุนแรง ทั้งที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศนี้เป็นคนผิวดำ ส่วนคนผิวขาวมีเพียง 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมดซึ่งเป็นเชื้อสายอังกฤษและดัตช์ แต่เป็นชนชั้นปกครองและอภิสิทธิ์ชน เมืองหลวงของประเทศ คือ พริทอเรีย (PRETORIA) ส่วนแคปทาวน์เป็นนครออกกฎหมาย แอฟริกาใต้มีความอุดมสมบูรณ์มากทั้งด้านการเกษตร แร่ธาตุ และอุตสาหกรรม แต่ด้วยประเทศประชาธิปไตยทางยุโรปหลายประเทศมีผลประโยชน์ในการค้ากับประเทศนี้ จึงทำให้ไม่มีนโยบายที่จะต่อต้านความคิดที่เหยียดหยามมนุษย์ในดินแดนนี้อย่างจริงจังเลย จนกระทั่งในช่วงหลัง จึงได้มีประธานาธิบดีเมลสัน เมนดูลา (เพิ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปีพ.ศ.2556) เป็นคนผิวดำคนแรกนโยบายการเหยียดผิวจึงดูจะผ่อนคลายลงไปมาก และกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของโลก

ภาพสเก็ตช์หม่อมเจ้าการวิก ในช่วงสงคราม

ก่อนที่จะเรือจะเข้าเทียบท่าที่เคปทาวน์ นายทหารคนหนึ่งมาบอกพวกเราถึงเรื่องการเหยียดผิวของคนในประเทศนี้ เพราะคนผิวขาวที่นี่จะกีดกันคนผิวสีอื่นไม่เลือกหน้า แม้ว่าพวกเราจะเป็นทหารในกองทัพอังกฤษก็ตาม ซึ่งผมฟังแล้วคิดว่าอาจจะไม่รุนแรงตามที่เขาบอกก็ได้

เมื่อเรือเทียบท่าแล้ว ผู้บัญชาการบนเรือได้ติดต่อกับผู้บัญชาการทหารอังกฤษในเมืองทราบว่ามีหน่วยทหารไทยซึ่งจะต้องเข้าค่ายผ่านชั่วคราว (TRANSIT CAMP) จนกว่าจะมีขบวนเรือไปตะวันออกไกล เขาจึงจัดให้คุณหญิงคุณนายที่เป็นภรรยาของนายทหารและพลเรือนชาวอังกฤษมารับพวกเราไปชมเมืองและดื่มน้ำชาที่บ้าน ซึ่งเป็นการต้อนรับอย่างให้เกียรติอย่างหรู

ที่ท่าเรือมีสตรีร่างอ้วนผิวขาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักร้องดังของแอฟริกาใต้มาเล่นหีบเพลงและร้องเพลงต้อนรับ จากนั้นบรรดาสุภาพสตรีที่คอยต้อนรับอยู่อย่างมีไมตรีก็พาพวกเราแยกกันไปขึ้นรถยนต์คันละสามหรือสี่คน ไปชมเมืองซึ่งใหญ่และทันสมัยและไปบ้านดื่มน้ำชา แต่สิ่งที่ผมสังเกตพบอย่างหนึ่ง คือ เมื่อขึ้นจากเรือเข้ามาอยู่ในค่ายทหารแล้ว คนที่ผมดกจะรู้สึกว่ามีทรายเต็มศีรษะ และเคี้ยวทรายกร้วมๆได้ในปาก เพราะว่ามีลมพัดมาจากทะเลทรายนั่นเอง

พอดื่มน้ำชาเสร็จ ออกจากบ้านคุณหญิงคุณนายมา ผมก็ไปซื้อผลไม้ เดินย้อนกลับไปขอบคุณที่พวกเธอให้ความกรุณาต้อนรับอย่างดีแล้วเดินเข้าเมืองมาเที่ยว พอรู้สึกกระหายน้ำก็เดินเข้าไปที่หน่วย วาย.เอ็ม.ซี.เอ เพื่อสั่งน้ำชาดื่ม เขาก็บอกให้เดินไปอีกที่แห่งหนึ่ง

“ผมชอบสถานที่นี้ เพราะดูน่ารัก”

            “ขอบคุณที่ชม แต่เราให้เข้าไม่ได้ เดินเลยไปอีกนิดจะพบสถานที่อย่างเดียวกับที่นี่”

ผมก็นึก เอ๊ะ! เอาจริงหรือนี่ แม้ผมจะแต่งชุดทหารอังกฤษ แต่หน้าผมดำ เขาถึงไม่ยอมให้เข้า ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เมื่อไม่ให้เข้าก็ไม่เอา จึงเปลี่ยนความตั้งใจจะเข้าไปดูหนังแทนก็เจอปัญหาเดียวกัน เขาไม่ยอมตีตั๋วให้

“ทำไมเล่า ผมอยากดูหนังเรื่องนี้นี่”

            “คุณเดินไปอีกฟากถนนหนึ่ง จะมีหนังเรื่องเดียวกันฉายอยู่”

เมื่อเขายืนกรานไม่ให้เข้า ผมเลยหมดอารมณ์ที่จะดู จึงเดินกลับมาที่เรือ กลับมาถึงท่านนายพลที่คุมเรือบอกว่า พวกเขาทำอย่างนี้ไม่ได้ พวกเรามาแล้ว ต้องยกย่องให้เกียรติในฐานะที่สวมเครื่องแบบทหารแห่งพระมหากษัตริย์ของอังกฤษ พวกผมบอกไม่เอาแล้วไม่อยากไป พอเพื่อนๆที่เป็นทหารอังกฤษเห็นก็ถามว่า

“ทำไมอยู่ในเรือ ไม่ลงไปเที่ยว”

            “ขี้เกียจลงไป ไปที่ไหนเขาก็ไม่ให้เข้า” พวกเราตอบและเล่าเรื่องให้เขาฟัง

“โรงหนังอะไร พาไปหน่อย เดี๋ยวจะไปพังและพาพวกคุณเข้าไปดู” เขาถามด้วยความรู้สึกโกรธแทน

“ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ต้องการความรุนแรง ช่างมันเถอะ”

นี่คือเรื่องที่ผมพบมาด้วยตัวเอง แต่สำหรับเพื่อนคนอื่นๆเจอนั้นก็หนักเบากันไปตามสถานการณ์

เรือศรีพยัคฆ์ที่นำคณะเสรีไทยออกเดินทางจากอังกฤษ

จากนั้นพวกเราก็เดินทางไปยังค่ายผ่านที่ตำบลรีทรีต (RETREAT) ซึ่งเป็นค่ายที่ทหารมาพักรอเรือชั่วคราว ระหว่างที่อยู่ค่ายนี้ก็ได้ฝึกเดินแถว เดินทางไกลตามเส้นทางต่างๆแก้เบื่อ ครูฝึกก็ใจดี ความเป็นอยู่ก็สะดวกสบายพอสมควร

วันหนึ่งมีนายทหารยศร้อยเอกของหน่วยทหารรักษาพระองค์อันลือชื่อ ชื่อเอ็ดวาร์ดส์ (EDWARDS) พวกเราตั้งฉายาให้เขาว่า ‘นายเฟิ้ม’ เพราะไว้หนวดเฟิ้มเป็นสง่ามาก เขาเดินผ่านเต็นท์ที่พักของเราและเข้ามาทักทายทำความรู้จักกัน จึงรู้ว่าเขามาจากอินเดีย กำลังรอเรือกลับไปอังกฤษเพื่อเยี่ยมบิดาที่ป่วยหนัก เมื่อเขารู้ว่าพวกเรากำลังรอเรือจะไปอินเดีย เขาก็ขอมาเป็นครูฝึกพวกเรา และเล่าเรื่องสถานการณ์ในอินเดียให้ฟังว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทำให้พวกเรารู้สึกโล่งใจว่า คงไม่ต้องรบเสี่ยงชีวิตในสมรภูมิแขก และคงมีโอกาสที่จะได้เข้าเมืองไทยเพื่อรับใช้ชาติได้โดยตรงตามความประสงค์ที่มีมาแต่แรก

พวกเราอยู่ที่ค่ายนี้นานประมาณ 3 สัปดาห์จึงลงเรือ ‘เดวอนเชียร์’ (DEVONSHIRE) ซึ่งเป็นเรือโดยสารของอังกฤษ ออกจากท่าเรือเคปทาวน์แล่นอ้อมแหลมกู๊ดโฮป (CAPE OF GOOD HOPE) อันลือเลื่องของชาวเรือ (เพราะเรือสมัยโบราณอับปางลงแถวนี้บ่อยๆด้วยมักเจอพายุรุนแรง) เข้าสู่ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ถึงท่าเมืองเดอร์บัน (DURBAN) และไปเข้าค่ายผ่านที่ตำบลแคลร์วู้ด (CLAIRWOOD) อีกราวสัปดาห์หนึ่งโดยไม่ต้องฝึกอะไร จากนั้นก็เตรียมตัวไปลงเรือ ‘สตาร์ธแอรด์’ (STRATHAIRD)

เพื่อเดินทางสู่ประเทศอินเดีย อันเป็นจุดหมายปลายทางของพวกเราต่อไป

คว้าสมทบหญิงฯ ชม 6 ผลงานเด่น เฟรช-อริศรา การันตีฝีมือ สมเพชรแท้เจียระไนได้ด้วยตัวเอง

เป็นดาวประดับดาวหรือนักแสดงฝีมือคุณภาพประดับวงการบันเทิงคนหนึ่ง สำหรับ เฟรช – อริศรา วงษ์ชาลี นักแสดงสาววัย 38 ปี ที่ล่าสุดได้คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากละครเรื่อง นาคี ในงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 8 เมื่อค่ำคืนวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ไปครอง

มีผลงานการันตีฝีมือด้านการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาฝากแฟนๆ อยู่ตลอด ถึงแม้นักแสดงสาว เฟรช – อริศรา วงษ์ชาลี จะไม่ได้เป็นที่กล่าวถึงบนโลกโซเชียลในแง่มุมอื่นๆ มากเท่าไหร่ ถ้าหากเทียบกับนักแสดงท่านอื่นๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เป็นคนชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เน้นหวือหวา แฟชั่นด้านการแต่งตัวก็ไม่ได้เน้นแบรนด์เนม แต่มักจะมาในลุคเท่ๆ สบายๆ สไตล์เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ ซึ่งกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็เหมือนคนส่วนใหญ่ทั่วไปที่มีช็อปปิ้งบ้าง ทำกิจกรรมอยู่บ้าน หรือออกไปเที่ยวหาของอร่อยทาน

แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากพูดถึงเรื่องฝีมือการแสดงแล้ว เฟรช – อริศรา ถือเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทของวงการที่ดีอันดับต้นๆ คนหนึ่งเลย เพราะไม่ว่าจะได้รับเล่นบทไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นนักแสดงนำ เธอก็ล้วนตั้งใจและเต็มที่กับทุกบทสมกับคำว่านักแสดงมืออาชีพ ทำให้บทนั้นๆ และตัวสาวเฟรชเองมีคุณค่าโดดเด่นขึ้นมา ตามมาด้วยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและสามารถคว้ารางวัลจากเวทีสำคัญไปครอง ที่สำคัญยังทำให้แฟนๆ ชื่นชอบและติดตามผลงานไม่ปล่อย รวมถึงชื่อเฟรช – อริศราก็กลายเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องการันตีว่ามีรายชื่อเธอในละครเมื่อไหร่ แฟนๆ จะได้เห็นฝีมือดีๆ และละครดีๆ จากเธอแน่นอน โดยวันนี้ แพรวดอทคอม ก็ขอหยิบละครส่วนหนึ่งที่น่าจดจำมาฝากกัน

1+1 เป็นสูญ (Nothing to Lose)

ผลงานภาพยนตร์ที่ทำให้ชื่อนักแสดงสาวเฟรชสามารถคว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปได้ถึง 2 เวที นั่นคือ รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ครั้งที่ 12 และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 11 โดยเรื่องนี้ได้นำเสนอเรื่องราวของคู่หนุ่มสาวที่มีทั้งเรื่องการพนัน เซ็กซ์ และยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นภาพยนตร์ที่ฉีกแนวและได้รับความสนใจสุดๆ ในสมัยนั้น ท่ามกลางกระแสการทำงานสอบสวนของตำรวจในสังคมสมัยนั้นที่กำลังเป็นที่กล่าวถึง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเสียงของคนดูที่บอกว่านักแสดงสาวเฟรชเป็นตัวละครที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์ขึ้น และปัจจุบันก็ได้มีฐานแฟนคนใหม่ๆ ที่ได้ชมฝีมือการแสดงของสาวเฟรชจากเรื่องนาคี ได้ย้อนไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ทาง YouTube เช่นกัน แถมชมทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ไม่ว่าสมัยไหน สาวเฟรชก็ยังคงมีใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเด็กเสมอๆ

เหยื่ออารมณ์ (2544)

เป็นละครที่มีเนื้อเรื่องหนัก และนักแสดงแต่ละคนล้วนรับบทใช้อารมณ์หนักทั้งนั้น โดยเฉพาะเฟรช – อริศรา ที่รับบท เอื้อย ที่พ่อแท้ๆ เสียชีวิต รวมถึงโดนพ่อเลี้ยงข่มขืนจนตั้งครรภ์ขึ้นมา ทั้งทำให้ชาวบ้านมองว่าเธอมีสามีเดียวกับนางแวว ผู้เป็นแม่ รับบทโดย เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ เรื่องนี้สาวเฟรชต้องเล่นเป็นฟ้าที่มีจิตหลุด สติไม่ดี อาละวาดจนลงมือฆ่าพ่อเลี้ยง หรือแม้แต่โหมดอ่อนโยน เรียบร้อยก็มีเช่นกัน เรียกว่าหลากหลายอารมณ์มากๆ ที่สาวเฟรชต้องแสดงคนเดียวภายในเรื่องนี้

เก็บแผ่นดิน (2544)

เป็นละครไทยในดวงใจของหลายคนอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับเก็บแผ่นดิน ที่มีประโยคเด็ดสำคัญว่า “เก็บแผ่นดินที่กำลังจะสิ้นชาติคืนมา” โดยเรื่องนี้สาวเฟรชรับบท มะนุ และยังมีนักแสดงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น กัปตัน – ภูธเนศ, อ้อม – พิยดา, ป๋อ – ณัฐวุฒิ, หนุ่ม – อรรถพร, อเล็กซ์ เรนเดลล์ ฯลฯ เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนไทยที่ร่วมด้วยช่วยกันรักษาและปกป้องแผ่นดินผืนสุดท้ายเอาไว้ เพื่อให้ลูกหลานในอนาคตได้มีอยู่ เนื้อหามีความสนุกหลายรส และทีมนักแสดงล้วนฝีมือดีทั้งนั้น โดยเมื่อต้นปี 2558 ทีมนักแสดงเรื่องนี้ได้กลับมาถ่ายภาพรวมตัวกันอีกครั้ง เรียกความคิดถึงจากแฟนๆ ไปได้เยอะเลย

รักแปดพันเก้า (2547)

มีไม่น้อยเลยที่เวลาผ่านมาหลายปี ก็ยังมีแฟนๆ คิดถึงผลงานซีรีส์ที่เสนอเรื่องราวความรักหลายมุมเรื่องนี้ของสาวเฟรชที่รับบท ฟ้า แสดงร่วมกับ หนุ่ม – อรรถพร รับบท แทน และกบ – ทรงสิทธิ์ รับบท ทรงพล อยู่ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้สาวเฟรชถือเป็นนักแสดงที่รับบทหนักสุด ต่างจากตัวละครอื่นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งท้องกับหนุ่ม แต่ต้องโกหกว่าท้องกับกบ ทั้งยังโดนแฟนเก่าของกบมาราวีจนเกือบแท้ง นอกจากนี้ก็จะได้เห็นฉากที่สาวเฟรชและหนุ่มเลี้ยงลูก ซึ่งทั้งคู่ในช่วงนั้นไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ก็สามารถผ่านมาได้จนสำเร็จ และเรื่องนี้ถือว่าเปิดฐานแฟนๆ ให้หลงรักสาวเฟรชเลย

คือหัตถาครองพิภพ (2556)

ถ้าหากถามแฟนๆ ว่าชื่นชอบตัวละครใดในเรื่องนี้ หนึ่งในสองรายชื่อแรกคงต้องยกให้ป๊อก – ปิยธิดา และเฟรช – อริศรา ที่มีฝีมือดีสูสีไม่แพ้กัน โดยเรื่องนี้เฟรชรับบท ยายเมี้ยน บ่าวผู้ซื่อสัตย์ต่อคุณหญิงศรี รับบทโดย ป๊อก – ปิยธิดา ซึ่งป๊อกต้องแต่งงานกับสามีเพื่อความสบายใจของพ่อแม่ แต่ไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งด้วย จึงทำให้สามีไปหากินกับหญิงอื่นหรือบ่าวในเรือน ซึ่งก็จะมีความวุ่นวายระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงเกิดขึ้นมาก โดยสาวเฟรชจะทำหน้าที่ต่อล้อต่อเถียงปะทะกับหญิงอื่น รวมถึงปกป้องคุณหญิงของตนให้ห่างจากสามี เพราะคุณหญิงไม่ชอบอยู่ใกล้ ซึ่งแฟนๆ ได้เห็นความรัก ความซื่อสัตย์ระหว่างป๊อกและเฟรช และเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนๆ หลงรักในตัวสาวเฟรชอยู่ไม่น้อยเลย

นาคี (2559)

ตีบทแม่ผู้รักและยอมปกป้องลูกด้วยชีวิตได้ดีมาก จนทำให้แฟนๆ ถึงกับหลั่งน้ำตา และทำให้ชื่อของสาวเฟรชเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่น โดยเรื่องนี้เฟรชรับบทเป็น คำปอง แม่ของคำแก้ว (แต้ว – ณฐพร) ที่ได้มาถ่ายทอดอารมณ์และพลังความรักของแม่ที่มีต่อลูก ถึงแม้ลูกจะเป็นงู มีแต่คนเกลียด แต่อย่างไรลูกก็คือลูก ซึ่งสาวเฟรชแสดงได้ดีมาก ทั้งๆที่เธอไม่เคยผ่านการมีลูกมาก่อน และเรื่องนี้ทำให้ชื่อของเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 31 สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และคว้ารางวัลนาฏราช ครั้งที่ 8 สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ

 

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @fresh_aris @freshfanclub, https://pantip.com/topic/33954836, https://pantip.com/topic/33066825, 1+1=0 : Nothing to Lose [เต็มเรื่อง]victim of lust story 2, คือหัตถาครองพิภพ – ป๊อก ปิยธิดา เฟรช อริศรา ในบทคุณหญิงและต้นห้องผู้ซื่อสัตย์

บรา

6 วิธีแก้ปัญหาหนักอกที่มักพบบ่อยใน “บรา” ตัวโปรด

Alternative Textaccount_circle
บรา
บรา
ในยุคที่สาวๆส่วนใหญ่มักเลือกซื้อ “บรา” หรือ “ชุดชั้นใน” ที่เน้นเรื่องของ “แฟชั่น” มากกว่า “ฟังก์ชั่น” นั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ปวดหลัง ปวดไหล่ บรากดทับ ฯลฯ ตามมา ส่งผลไปถึงบุคลิกภาพ และทำให้เสื้อผ้าดูดร็อปมากกว่าโดดเด่น!

ซึ่งปัญหาของบราที่สาวๆมักพบเจอบ่อย และวิธีแก้ไข มีด้วยกัน 6 ข้อ คือ
  1. โครงชุดชั้นในกดทับหน้าอก

เกิดจากการเลือกชุดชั้นในที่มีไซส์เล็กจนเกินไป ทำให้โครงเหล็กไปกดทับด้านหน้าอก

  1. มีเนื้อหน้าอกเกินออกมา

นั่นหมายความว่าชุดชั้นในเล็กเกินไปจนกดทับหน้าอก ทำให้หน้าอกปลิ้นหรือล้นเกินออกมา

  1. คัพไม่พอดี หน้าอกหย่อนคล้อย

เกิดจากการเลือกชุดชั้นในไม่พอดี ไซส์ใหญ่กว่าคัพจริงของตัวเอง ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย และทำให้คุณดูอ้วน หลังค่อม เสียบุคลิก

  1. สายชุดชั้นในกดทับไหล่

ปัญหานี้เกิดจากการปรับสายเสื้อในสั้นเกินไป จนทำให้สายกดทับไหล่เวลาสวมใส่ได้อีกด้วย

  1. ตะขอเกี่ยวด้านหลังยกขึ้น ไม่ขนานกับพื้น

การปรับสายชุดชั้นในสั้นจนเกินไปก็จะยิ่งทำให้อกดูหย่อนคล้อยมากขึ้น

  1. เนื้อปลิ้นด้านข้าง

การเลือกชุดชั้นในที่มีขนาดของรอบตัวไม่พอดี แน่นจนเกินไป จะทำให้มีเนื้อส่วนเกินปลิ้นออกมา

ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ปกติผู้หญิงจะชอบจำไซส์ชุดชั้นในขนาดเดิมๆที่เคยวัด เคยซื้อมาแล้ว เช่น A75 B75 ก็จะเลือกซื้ออยู่ไซส์เดียว ซึ่งจริงๆแล้วต้องวัดทุกครั้งก่อนการเลือกซื้อ เพราะสรีระของผู้หญิงเรามีการเปลี่ยนแปลงทุกเดือน ขึ้นอยู่กับการดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วย เช่น การออกกำลังกาย การกินยา หรือคุณแม่หลังคลอดก็เช่นกัน สาเหตุต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้ไซส์หน้าอกหรือรอบตัวเปลี่ยนไป ข้อแรกเลย ควรเริ่มจากการใส่ใจ การสังเกตตัวเองในแต่ละวันว่าวันนี้ใส่ชุดชั้นในรู้สึกคับไป หลวมไป สบายตัวไหม อย่างตะขอที่มีไว้ให้ 3 ระดับก็ทำมาเพื่อให้ปรับใช้ในแต่ละวัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวอันเดิมๆทุกวัน

การเลือกซื้อชุดชั้นใน ต้องลองใส่ทุกครั้ง ซึ่งโดยปกติแล้วหน้าอกคนเราซ้าย – ขวาจะไม่ได้เท่ากันเป๊ะ! ก็ต้องปรับสายให้มันบาลานซ์กันทั้งสองข้าง และจริงๆเราควรมีบราหลากหลายแบบ ทั้งมีโครงและแบบ Wireless Shape (ชุดชั้นในไร้โครง แต่มีทรง) เพื่อเลือกใส่ให้เหมาะกับเสื้อผ้าในแต่ละวัน เพราะเสื้อผ้าต่อให้สวยหรูดูแพง แต่ถ้าเลือกชุดชั้นในไม่เหมาะ จากที่โดดเด่นก็จะทำให้ดร็อปได้เหมือนกัน

แค่นี้สาวๆก็จะมีชุดชั้นใน “แฟชั่น” ที่มาพร้อม “ฟังก์ชั่น” เพื่อซัพพอร์ตให้การใส่เสื้อผ้าในแต่ละวันดูโดดเด่นและเพอร์เฟ็คท์ได้อย่างไร้ปัญหา!

สำหรับสาวๆที่กำลังค้นหา “บราที่ใช่ ไซส์ที่เป๊ะ” ลองไปที่มหกรรม “Tesco Lotus Bra Fair with Sabina อกสวยเราช่วยได้” มีแบรนด์ชุดชั้นในชั้นนำกว่า 10 แบรนด์ให้เลือก ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2560 ณ เทสโก้ โลตัส

ชวดนำหญิงแต่สปิริตแรง “นุ่น – วรนุช” สวยเอลิแกนซ์ร่วมงานนาฏราชครั้งที่ 8 แม้ชุดไม่พร้อม

หลังจากงานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 8 จบลงไปแล้ว ก็เกิดกระแสเล็กๆ ระหว่างนางเอกสาว นุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี และสาวแต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ ที่ชาวเน็ตบางกลุ่มเห็นว่าบทของคุณอุบลมีความลึก มีมิติมากกว่า หลายคนที่เป็นแฟนละครเรื่องพิษสวาทก็เสียดายที่สาวนุ่นไม่ได้คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงในครั้งนี้ไป

สำหรับกระแสความเห็นต่างนี้ เราพูดถึงพอหอมปากหอมคอก็พอแล้ว เพราะวันนี้แพรวดอทคอมจะโฟกัสไปที่ชุดของสาวนุ่น เพราะมีโอกาสได้พูดกันช่วงก่อนที่นางเอกหน้าหวานจะเข้าไปในหอประชุม เธอบอกกับแพรวดอทคอมว่า เดรสที่ใส่มางานนาฏราช ใส่มาแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่จะเพราะอะไร ต้องตามมาดู 

ทำไมถึงเลือกเดรสตัวนี้

จริงๆ ตอนแรกวันนี้อาจมาไม่ได้ อันนี้คือต้องเลื่อนไฟล์ทเพื่อมาร่วมงาน ตัวชุดเลยเป็นของแบรนด์ Worra ที่มีอยู่ เพราะจริงๆ ตอนแรกคิดว่ามาไม่ได้ ยังบอกทางทีมงานเลยว่าอาจจะไม่ได้มานะ ที่เลือกตัวนี้เพราะเป็นชุดที่ใส่ได้ สำหรับงานนี้ค่อนข้างฉุกละหุกสำหรับนุ่น ชุดนี้จริงๆ เพิ่งเอาไปแก้ และก็ได้ชุดมาวันนี้เลย แต่เวลาออกงานปกติจะมีสไตลิสต์ช่วยดูลุคให้”

นี่ขนาดไม่ใช่ชุดที่เจ้าตัวตั้งใจจะใส่ แต่ก็ยังสวยปังได้นะ

ดีเทลชุดจากแบรนด์ของสาวนุ่นก็ใช่ย่อย เล่นแสงวิบวับให้ความเด่นไปอีก

ออกงานจะขาดไอเท็มนี้ไม่ได้

“ของนุ่นจะเป็นต่างหู ชอบต่างหูเล็กๆ แต่ก็แล้วแต่งาน แล้วแต่ชุดที่เหมาะสมด้วย เราต้องมาดูอีกที ไม่ได้โฟกัสว่าต้องเล็กตลอด ใหญ่ๆ ก็มีใส่บ้าง แต่รวมๆ คือชอบใส่ต่างหูมาก”

ต่างหูเล็กๆ ก็เอาอยู่ ไม่ต้องเล่นเบอร์ใหญ่ก็รอด

แม้ชุดจะต้องถูกแก้บ้าง แต่ก็ผ่านไปด้วยดีนะ มีความพอดีตัว 

ลุคสบายๆ ในสไตล์นุ่น – วรนุช

“จริงๆ ถ้าไม่ออกงานก็จะเป็นกางเกงยีนส์ กางเกงวอร์ม เมื่อก่อนเราจะรู้สึกว่าอยากสวยๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ก็ไม่ละ อยากใส่อะไรสบายๆ มากกว่า อย่างเมื่อก่อนใส่ขาสั้นบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ใส่ขาสั้นน้อยลง เพราะเวลาไปไหนก็หนาวเวลาเจอแอร์เย็นๆ อย่างเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็แล้วแต่จะเลือก อย่างบางทีมีร้านของพี่ๆ ที่เขาให้ชุดสวยๆ เรามาใส่ เราก็ว่าดีนะ เพราะจะได้ใส่ไปเที่ยวด้วย”


 

แม้จะไม่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงไปครอง แต่ได้ใจแฟนละครไปเต็มๆ จากบทคุณอุบล แถมมารู้ว่าชุดไม่พร้อม แต่ยังสู้มาร่วมงาน ก็ขอชื่นชมเลย เพราะลุคของคนดังเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ ภาพออกงานใหญ่ๆ เป็นเหมือนการบันทึกความทรงจำที่จะอยู่ไปอีกนาน แต่แพรวดอทคอมบอกเลยว่าครั้งแรกที่เห็นก็มองว่าสวยเด่นมาก ถ้าไม่ได้เข้าไปคุยคงไม่รู้จริงๆ ว่าชุดนี้ไม่ได้ถูกเตรียมไว้ตั้งแต่แรก เอาเป็นว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องชุดออกงานของสาวนุ่นครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีเลยละ

 

 

 

คู่แข่งตายเรียบ! เจ้าแม่แผลงฤทธิ์ไม่รู้จบ “แต้ว” และ “นาคี” ทีมคุณภาพ กวาดรางวัลทุกสถาบัน

เรื่องราวข้ามภพข้ามชาติของ “เจ้าแม่นาคี” กับมนุษย์ ผสานความเชื่อพื้นบ้านทางภาคอีสาน ถ่ายทอดสู่ละครพีเรียดแนวโรแมนติก – ดราม่าเรื่อง “นาคี” ผลงานของค่าย “แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น” กำกับการแสดงโดย “อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” แม้จะอวสานไปเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ละครคุณภาพเรื่องนี้ยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องในแง่ของความสำเร็จที่ซัคเซสแบบไม่รู้จบ ทั้งในเรื่องของกระแสและรางวัลการันตี ที่ต้องบอกเลยว่าทำเอาคู่แข่งตายเรียบ!

 “นาคี” เป็นบทประพันธ์ของ “ตรี อภิรุม” หรือ “เทพ ชุมสาย ณ อยุธยา” นักเขียนจินตนิยายคนสำคัญของไทย โดยนวนิยายเรื่องนี้ถูกสร้างมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี 2522, ปี 2531 และปี 2559 ได้รับการดัดแปลงเป็นละครออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งถือเป็นเวอร์ชั่นที่พีคที่สุดตั้งแต่เคยทำมา นำแสดงโดย “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” รับบท “คำแก้ว/นางพญานาคี” ขณะที่พระเอก “ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” รับบท “ทศพล/แม่ทัพไชยสิงห์”

“อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์” ผู้จัดฯและผู้กำกับ “นาคี” ขอบคุณทีมงาน

 “อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์” ผู้จัดฯและผู้กำกับ “นาคี” เคยกล่าวไว้ว่า “ความสำเร็จของ ‘นาคี’ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง แต่เป็นทีมงานทุกๆคนที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่” เราจึงได้เห็นการกวาด การเหมา การโกยรางวัลของทีมละครเรื่องนี้ไปยกทีมแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมา “นาคี” มีสถิติรับรางวัลจากเวทีใหญ่ๆถึง 9  เวที ชนะรางวัลถึง 24 สาขา ดังต่อไปนี้

ซิว 3 รางวัลจากงานประกาศรางวัลโทรทัศน์ทองคำ

รางวัลโทรทัศน์ทองคำ (ครั้งที่ 31 ประจำปี 2559) สาขารางวัล “องค์ประกอบศิลป์ดีเด่น”, “นักแสดงนำหญิงดีเด่น”และ “ละครดีเด่น”

“แต้ว” ตัวแทนนักแสดงนำขึ้นรับรางวัล “ละครดีเด่น”

Daradaily The Great Awards (ครั้งที่ 6) สาขารางวัล “ละครที่สุดแห่งปี 2016”

Fever Awards 2016 สาขารางวัล “ละครโทรทัศน์ฟีเวอร์ 2016”, “อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” สาขารางวัลผู้กำกับฟีเวอร์ 2016

HOWE AWARDS 2016 สาขารางวัล “นักแสดงดาวรุ่งหญิง” ได้แก่ “ณฐพร เตมีรักษ์”

“นาคี” คว้า 2 รางวัลจากเวที MThai Top Talk-About 2017

MThai Top Talk-About 2017 สาขารางวัล “นักแสดงหญิงที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด” ได้แก่ “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” และ “ละครที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด”

Kazz Awards 2017 สาขารางวัล “นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี” ได้แก่ “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์”

“อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง”

รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 10 สาขารางวัล “ทีมสร้างสรรค์แห่งปี”, “คนเบื้องหลังแห่งปี” ได้แก่ “อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” และ “นักแสดงหญิงแห่งปี” ได้แก่ “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์”

คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 14 สาขารางวัล “ผู้กำกับละครยอดเยี่ยม” ได้แก่ “อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง”

อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
นาฏราช ครั้งที่ 8 “พี่อ๊อฟ” หอบรางวัลกลับเป็นลัง

รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 8 สาขารางวัล “ละครยอดเยี่ยม”, “ทีมนักแสดงยอดเยี่ยม”, “กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม”, “กำกับภาพยอดเยี่ยม”, “ลำดับภาพยอดเยี่ยม”, “เครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม”, “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” ได้แก่ “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง”, “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” ได้แก่ “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” และ “นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม” ได้แก่ “เฟรช – อริศรา วงษ์ชาลี”, “เพลงละครยอดเยี่ยม” ได้แก่ “คู่คอง” ร้องโดย “ก้อง ห้วยไร่”

ปิดเมืองนครพนม! ชม “แต้ว – ณฐพร” รำบวงสรวง ภาพจากช่างภาพนครพนม

ขณะที่เจ้าแม่นาคี “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” โด่งดังเป็นพลุแตก ชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่พูดถึงเธอ เพราะการแสดงในเรื่องที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงชื่นชมในความพยายามอย่างมากในการฝึกพูดอีสานได้อย่างกลมกลืน ไม่ระคายหูคนท้องถิ่น ซึ่งการทุ่มเททั้งแรงกายและใจของเธอในครั้งนี้ก็ส่งผลให้ “แต้ว” กลายเป็นนางเอกขวัญใจมหาชน

โดย “แต้ว” นอกเหนือจากการปรากฏตัวที่ไปไหนมาไหนแฟนคลับก็แห่กันมาดูชนิดที่มืดฟ้ามัวดินแล้ว ความสำเร็จของ “แต้ว” ที่มาในรูปแบบรางวัลการันตี ยังถือได้ว่าล้นหลามที่สุดในชีวิตการแสดงที่ผ่านมา ซึ่งเธอได้รับรางวัลจากเรื่อง “นาคี” ถึง 6 รางวัล ในฐานะนักแสดงหญิงแห่งปี

รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 31 สาขารางวัล “นักแสดงนำหญิงดีเด่น”
HOWE AWARDS 2016 สาขารางวัล “นักแสดงดาวรุ่งหญิง”
MThai Top Talk-About 2017 สาขารางวัล “นักแสดงหญิงที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด”
Kazz Awards 2017 สาขารางวัล “นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี”
รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 10 สาขารางวัล “นักแสดงหญิงแห่งปี”
รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 8 สาขารางวัล “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม”

นับเป็นละครตัวอย่างที่สอดแทรกทั้งความสนุกและเนื้อหาสาระเอาไว้อย่างครบรส ซึ่ง “แพรวดอทคอม” ขอเป็นตัวแทนแฟนละครที่ตั้งตารอติดตามทุกผลงานของเหล่าทีม “นาคี” ต่อไปเรื่อยๆค่ะ

ภาพจาก @taewaew_natapohn, @actart_gen

keyboard_arrow_up