ก่อนลมหนาวมาเยือนที่ Colchester & Stratford-Upon-Avon ประเทศอังกฤษ (ตอนที่ 1)

เวลาพูดถึง ประเทศอังกฤษ หลายคนมักนึกถึงมหานครลอนดอน และมองเห็นภาพหอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) หรือทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge) ขึ้นมาทันที

ทั้งที่ความจริงอังกฤษยังมีเมืองน่าท่องเที่ยวอีกมากมาย การมาอังกฤษครั้งนี้ฉันจึงคิดจะไปเที่ยวเมืองอื่นดูบ้าง โดยเริ่มที่เมืองใกล้ๆ ลอนดอนก่อน

เริ่มต้นที่โคลเชสเตอร์

เมืองแรกเริ่มต้นที่เมืองเก่าแก่ที่สุดได้แก่ โคลเชสเตอร์ (Colchester) ซึ่งห่างจากลอนดอนไปทางทิศเหนือ 100 กิโลเมตร หลานสาวคนเก่งพาฉันขึ้นรถไฟเพียงไม่ถึงชั่วโมง เราก็มาถึงเมืองที่มีกำเนิดตั้งแต่ยุคเหล็ก และเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศอังกฤษ นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ฝึกทหารถึง 40,000 นายในช่วงที่อังกฤษเข้าร่วมในสงครามโลก ครั้งที่ 1

ประเทศอังกฤษ
เซนต์โบทอลฟ์สไพรออรี

พอลงจากสถานีรถไฟ เดินไปไม่กี่ก้าว ฉันมีความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย หรือพระนครศรีอยุธยา เพราะมองเห็นซากปรักหักพังขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า ซึ่งดูออกว่าเคยเป็นอาคารที่สวยงามมาก และคงเป็นเช่นนั้น เพราะแท้จริงซากปรักหักพังนั้นคือ เซนต์โบทอลฟ์สไพรออรี (St. Botolph’s Priory) หรือสำนักสงฆ์ออกัสตินในศาสนาคริสต์นิกาย โรมันคาทอลิกแห่งแรกของอังกฤษ ซึ่งสร้างขึ้น ตั้งแต่ยุคกลาง แต่ถูกระเบิดอย่างรุนแรงระหว่าง สงครามกลางเมืองในปี ค.ศ. 1648

ประเทศอังกฤษ
พิพิธภัณฑ์โฮลีทรีส์

ใกล้กับเซนต์โบทอลฟ์สไพรออรี คือ พิพิธภัณฑ์โฮลีทรีส์ (Hollytrees Museum) ซึ่งเดิมเป็นของชาร์ลส์ เกรย์ (Charles Gray ค.ศ. 1696 – 1782) ผู้ได้รับมรดกบ้านสไตล์จอร์เจียนนี้จากภรรยา และทางการได้ซื้อไว้ ในปี ค.ศ. 1920 ก่อนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อมา ที่นี่จัดแสดงของเด็กเล่น เสื้อผ้า ของใช้ และของตกแต่งไว้ถึงสามศตวรรษ

ประเทศอังกฤษ
โบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ปราสาท

นอกจากนั้นยังมีห้องที่รวบรวมนาฬิกาแขวน และนาฬิกาข้อมือตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 – 19 หลายเรือนยังคงเดินอยู่ แม้เวลา อาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง สิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือบ้านตุ๊กตา ซึ่งมีรายละเอียดราวกับของจริง และพวกเราโชคดีมากที่ได้ชมนิทรรศการ “อลิซในแดนมหัศจรรย์” ซึ่งเป็นนิทานโปรดของเด็กๆ ทั่วโลก หลังจากเพลิดเพลินกับพิพิธภัณฑ์กันพอสมควร พวกเราก็ไปนั่งกิน อาหารเที่ยงในสวนด้านหน้า ก่อนเดินต่อไปยังปราสาทโคลเชสเตอร์ซึ่งอยู่ติดกันนั่นเอง

ประเทศอังกฤษ
นิทรรศการอลิซในแดนมหัศจรรย์

ฉันว่าหนุ่มๆ หลายคนต้องอิจฉาชาร์ลส์ เกรย์ ซึ่งนอกจากจะได้มรดกล้ำค่าจากภรรยาแล้ว เขายังได้รับปราสาทโคลเชสเตอร์จากแม่ยายเป็นของขวัญแต่งงานอีกด้วย! ปราสาทหลังนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดของชาวนอร์มันในยุโรป ซึ่งสร้างบนฐานรากของวัดคลอดิอุส (Temple of Claudius) สมัยที่โคลเชสเตอร์เป็นเมืองหลวงโรมันแห่งสหราชอาณาจักรภายในปราสาท เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ฉันเองชอบตัวอาคารที่ดูขลังมากๆ เพราะทำด้วยอิฐจากโรมและได้รับการรักษาให้คงอยู่ในสภาพเดิม

ประเทศอังกฤษ
อีกมุมของปราสาทโคลเชสเตอร์

บริเวณรอบปราสาทและพิพิธภัณฑ์เป็นสวนสวยที่เหมาะกับการพาครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากมีทั้งสนามเด็กเล่น ร้านกาแฟ ทะเลสาบที่พายเรือเล่นได้ สนาม คริกเก็ต ฯลฯ โดยเฉพาะตอนที่ฉันไปเป็น ช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส จึงมีการออกร้านขายของน่ารักเรียงรายรอบตัวปราสาท

หลังจากนั่งพักให้อาหารเป็ดแถวสระน้ำ พวกเราก็เดินออกไปสำรวจบ้านเมืองในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะส่วนใหญ่เป็นบ้านสมัยโบราณที่หาดูได้ยาก แต่ยังแพ้โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Church) ซึ่งเก่าจนน่ากลัว เพราะสร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 แถมหน้าโบสถ์ยังมีโลงศพ ตั้งไว้ข่มขวัญคนกลัวผีอีกด้วย!

ประเทศอังกฤษอย่างไรก็ดี บนถนนสายหลักเช่น ไฮสตรีท (High Street) หรือควีนสตรีท (Queen Street) ก็มีร้านค้าใหญ่ๆ ขายของ ทันสมัยเช่นเดียวกับในตัวเมืองทั่วไป พวกเราเดินย้อนไปฝั่งตรงกันข้ามกับพิพิธภัณฑ์โฮลีทรีส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ (Natural History Museum) แม้จะไม่ใหญ่นัก แต่น่าจะถูกใจเด็กๆ เนื่องจากมีการแสดงถึงชีวิตของสัตว์หลายประเภท โดยใช้สัตว์สตัฟฟ์และตกแต่งสิ่งแวดล้อมจนดูเหมือนจริงมาก ก่อนกลับพวกเราเดินเตร่จนไปเจอร้านขายของเก่าหลายร้าน ฉันเลยได้ของกระจุกกระจิกไปวางให้รกบ้านเพิ่มขึ้น พอช็อปเสร็จก็แวะกินอาหารจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย

 

ที่มา : นิตยสารแพรว ปักษ์ 888 วันที่ 25 สิงหาคม 2559 คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว เรื่องและภาพ ทิพถวิล

Praew Recommend

keyboard_arrow_up