ใครมีรถควรฟังกับ 6 สิ่งที่ควรทำถ้าไม่อยากอารมณ์เสียขณะขับรถ

เราทุกคนต่างเคยเจอกับสถานการณ์เหล่านี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถติด เจอกับคนขับรถที่ไม่ระมัดระวัง หรือแม้กระทั่งการขับขี่ในสภาพอากาศย่ำแย่ รวมทั้งการเดินทางบนสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ และสภาพการจราจรที่แออัด สถานการณ์ต่างๆ เช่นนี้ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้ ดังนั้นเราควรวางแผนต่างๆ ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถตามที่เรานำมาฝากดังนี้

ก่อนออกเดินทาง
1. เผื่อเวลาสำหรับการล่าช้า
สิ่งนี้อาจจะฟังดูสิ้นคิด แต่การไม่เผื่อเวลาในการเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปร่วมงานสังสรรค์ ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้น คุณควรเผื่อเวลาสำหรับสิ่งไม่คาดคิดที่อาจทำให้เกิดความล่าช้า เช่น หากคุณต้องเผชิญรถติด ระบบนำทางในรถบางคันสามารถสั่งงานด้วยเสียง คุณจึงมีผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยหลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด และช่วยค้นหาตัวเลือกอื่นๆ และเมื่อถนนแออัดน้อยลง รถติดน้อยลง สภาพการขับขี่ก็ตึงเครียดน้อยลงไปด้วย

2. พักผ่อนบ้าง
การขับรถขณะร่างกายเหนื่อยล้าทำให้เกิดความตึงเครียดและก่อให้เกิดอันตรายได้ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่มก่อนออกเดินทางช่วยให้เราสงบและมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น นอกจากนี้ การพักผ่อนเป็นระยะๆ ระหว่างเดินทางก็จำเป็นเช่นเดียวกัน รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบแจ้งเตือน จะสามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาควรหยุดพัก หากตรวจจับได้ว่าคุณเริ่มขับรถส่ายไปมาซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการเหนื่อยล้า

3. เมื่ออารมณ์รื่นเริง การขับขี่ก็รื่นรมย์
ลองให้รถยนต์เป็นตัวช่วยตอกย้ำความสนุกสนานในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงที่คุณชื่นชอบ เพลย์ลิสต์หรือคลื่นวิทยุที่ถูกใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยขจัดความตึงเครียดและความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นขณะรถติดได้ คุณรู้หรือไม่ว่า การเปิดเพลงด้วยระดับเสียงที่เหมาะสมจะทำให้การขับขี่เพลิดเพลินและช่วยให้จิตใจสงบอีกด้วย

2

ขณะขับรถ
4. ขับรถด้วยความนุ่มนวล
หากการเผาผลาญน้ำมัน (รวมถึงเงินของคุณด้วย) ขณะรอรถติดอยู่เฉยๆ ก่อให้เกิดความตึงเครียด ขอให้คุณระลึกไว้ด้วยเช่นกันว่า การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่นี้จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งเพื่อขยับรถไปอีก 5 เมตร และเพื่อที่จะต้องเบรครถอีกครั้ง การเหยียบคันเร่งและเบรคอย่างนุ่มนวลในสภาพการจราจรที่เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวขยับ จะช่วยให้น้ำมันคงอยู่ในถังได้ยาวนานยิ่งขึ้น

5. เผื่อพื้นที่ให้กับตัวเองบ้าง
การขับจี้ท้ายรถนั้นอันตรายสำหรับทุกคนและอาจก่อให้เกิดของอุบัติเหตุได้ง่าย คุณควรทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและรถคันข้างหน้า ระบบควบคุมความเร็วที่ใช้เรดาร์ในการวัดระยะนั้นมีประโยชน์ เพราะช่วยในการรักษาระยะห่างระหว่างรถ ตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าของฟอร์ดที่มาพร้อมเทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อตรวจจับได้ถึงความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันข้างหน้า

และหากคุณพบว่ากำลังถูกจี้ท้าย คุณอาจต้องหาพื้นที่ปลอดภัยโดยหลบเข้าข้างทาง และปล่อยให้รถคันนั้นขับไปก่อน ไม่คุ้มเสียเลยที่ต้องเสียพลังงานอันมีค่าให้กับคนขับนิสัยเสียเหล่านี้

6. ขับรถไปและปล่อยมันไป
เมื่อคุณตั้งใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัย อย่าบีบแตร อย่าจ้องตาเขม็ง หรือใช้ภาษามือหยาบคาย แต่ลองหันมาหายใจเข้าลึกๆ ถึงแม้ว่าคุณจะควบคุมการจราจรและคนขับรถคนอื่นๆ ไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมตัวเองได้ การนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ทะเลาะเบาะแว้งถือเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างหนึ่ง และมันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณออกไปจากพื้นที่รถติดเร็วขึ้นเลย

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : ฟอร์ด

Praew Recommend

keyboard_arrow_up