The Conjuring 2 หนังเขย่าขวัญ สะดุ้งแรงจนแทบหยุดหายใจ

นี่จึงถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ The Conjuring มีความสยองขวัญมากกว่าหนังผีทั่วๆ ไป ซึ่งในภาคสองนี้ก็ตอบโจทย์ความสำเร็จที่ภาคแรกทำเอาไว้ได้อย่างที่คาดหวังไว้จริงๆ โดยบ้านผีสิงในภาคนี้จะหยิบเอาเคส The Enfield Poltergiest บ้านผีสิงที่ดังที่สุดในเกาะอังกฤษมาใช้เป็นพล็อตหลัก ซึ่งสองสามีภรรยาวอร์เรนจะรับหน้าที่อาสามาช่วยครอบครัวนี้ให้พ้นภัยจากผีร้ายที่มารังควานพวกเขานั่นเอง แต่บอกเลยว่าไม่ง่าย! ถ้ามองตามเนื้อผ้า ถือว่าหนังมาเบอร์เดิมเลยนะ ไม่ค่อยรู้สึกถึงความแปลกใหม่อะไร เราจะได้เห็นการเปิดเรื่องที่ขอเล่าถึงภารกิจสั้นๆ ที่สองตัวเอกต้องเจอมา ก่อนจะพาไปทำความรู้จักกับครอบครัวดวงซวยที่ต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านผีสิง เราจะได้เห็นซีนผีหลอกน่ากลัวๆ ตามมาเป็นกระบุงโกย ที่เด่นๆ เลยก็ต้องมีพวกซีนที่หนึ่งในลูกสาวของครอบครัวนี้ที่ถูกผีเข้า (เล่นดีมาก อนาคตไกลแน่)

และพอสองสามีภรรยาวอร์เรนรู้เรื่อง พวกเขาจึงต้องเดินทางมาพิสูจน์เรื่องลี้ลับครั้งนี้ โดยคอนฟลิตในเรื่องที่ถูกใส่เข้ามา ก็คือประเด็นเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่า สรุปแล้วบ้านหลังนี้มีผีจริงหรือไม่ แต่จากตัวอย่างหนังก็ได้นำเสนอให้เห็นแหละว่าผีมีจริง (แต่จะมีประเด็นบางอย่างให้ต้องขบคิดใหม่) โดยแต่ละซีนผีหลอกต้องขอบอกเลยว่าหลอนจนชวนให้ใจสั่น และขนลุกตามมาก แถมยังมีหลายซีนที่สะดุ้งตามได้จริงๆ ถ้าใครกลัวผีล่ะก็ มีการยกมือขึ้นมาปิดตาแน่นอน งานนี้ต้องคารวะการถ่ายภาพในหนังเลย แพนกล้องแต่ละทีนี่มีลุ้นอยู่ตลอดว่าผีจะโผล่มาในรูปแบบไหน ขนาดมีซาวนด์หรือบรรยากาศบอกให้เราเตรียมตัวแล้วนะ แต่ก็ยังตกใจกลัวได้จริงๆ ณ จุดนี้จึงน่าจะถือเป็นความสำเร็จของหนังเรื่องนี้เลยล่ะ

ถึงพล็อตจะไม่ค่อยแปลกใหม่ ออกแนวเดาทางได้ง่าย รวมทั้งการเดินเรื่องที่มาเบอร์เดิม แต่ที่เพิ่มเติมก็คือการปูเรื่องที่ชวนติดตาม มีการครีเอตผีรายใหม่ที่หลอนได้ใจ โดยหนังจะค่อยๆ ไต่ระดับความหลอนขึ้นเรื่อยๆ ไปจนกระทั่งถึงจุดพีคในช่วงท้าย ซึ่งก็ทำออกมาได้ฮาร์ดคอร์ และชวนให้ลุ้นตามพอสมควร แม้จะรู้สึกว่ามันกระชับตัดตอนไปหน่อยก็ตาม ทว่าอย่างน้อยก็ต้องยอมรับว่าตลอดสองชั่วโมงนิดๆ คือไม่รู้สึกน่าเบื่อเลย แถมยังถูกจริตคอหนังสยองขวัญมาก เลยทีเดียวล่ะ ถ้าหนังผีทำให้เราหวาดกลัวได้ ก็อย่างที่บอกแหละว่า หนังประสบความสำเร็จแล้ว แต่เอาจริงๆ ภาคนี้ก็ไม่ได้มุ้งเน้นแค่งานหลอนๆ อย่างเดียวเท่านั้น (แม้จะเป็น 80% ของเรื่องก็ตาม) เพราะก็ยังมุ่งเน้นถึงประเด็นความรักของคนในครอบครัวและคนรักพอให้ได้อบอุ่นหัวใจได้อยู่บ้างนะเออ ภาพรวมถือว่าภาคนี้ทำออกมาได้สนุกไม่แพ้ภาคแรกเลยนะเออ

คะแนน 9/10

เรื่อง : คิมคานา