เปิดเทรนด์คอลเลกชั่นประชันSpring/Summer 2015 ของกองทัพBFS 13 แบรนด์ไทย (ตอนที่ 2)

Playhound by Greyhound (เพลย์ฮาวด์ บาย เกรฮาวด์): ‘Art School’


พฤติกรรมของ ‘เด็กหลังห้อง’ แห่งโรงเรียนสอนศิลปะ ผุดเทคนิคพิเศษด้วยการพิมพ์สี High Density ในรูปแบบของการ prank ต่างๆ การใช้เมจิกเทปมาแปะทับบนเสื้อผ้าที่ถูกพลิกเปิด การใช้ Velcro (ตีนตุ๊กแก) แปะลงบนปกและชายเสื้อผ้ารวมไปถึงการพิมพ์ลายเทปทับโลโก้โรงเรียน เน้นเนื้อผ้าใส่สบายด้วยผ้า cotton รวมไปถึงผ้าผสม cotton เพิ่มความ sport ด้วยผ้า neoprene เพิ่มลูกเล่นด้วยเสื้อ crop กับ flared skirt สำหรับชุดผู้หญิง ในขณะที่ชุดผู้ชายเน้นใส่กางเกงสลิมเต่อและเพิ่มลูกเล่นด้วยเสื้อยับตามฉบับนักเรียนที่ไม่เรียบร้อย โทนสีมีทั้งสีเบสิกและสร้างสีสันเพิ่มความตื่นเต้นด้วยสีชมพู น้ำเงินสด ส้มแสด เขียวทหาร ฯลฯ

Vickteerut (วิคธีร์รัฐ): ‘Spirited Away’


คอลเลกชั่นนี้เป็นการหยิบเอารายละเอียดต่างๆ ของการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลแบบครุยซ์ (Cruise) มาปรับใช้กับโครงชุดแบบมินิมอล เอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น เทคนิคแบบ Fringe Panel หรือการปล่อยชายผ้าให้ดูพลิ้วไหว (ตีความจากโครงสร้างของผ้าบนเรือ) รวมถึงการเล่นอัดพลีททั้งเล็กและใหญ่บนชุดกระโปรง เทคนิคแบบ Knock&Twist หรือการจับผ้าบิดเป็นนอต อีกทั้งเกิดโครงชุดแบบ Over Structure (เล่นจากความโป่งพองของใบเรือ) บนเสื้อโค้ทเดรสตัวสั้น เทคนิคแบบ Burn out (แสงและเงาพระอาทิตย์) เล่นกับผ้าบางแบบซีทรู นอกจากนี้ยังใช้โทนสีขาวดำ ตัดสลับกับสีเบบี้บลู มิ้นท์กรีน เบจ และเทา เพื่อให้รู้สึกถึงท้องฟ้าและน้ำทะเล

Tu’I (ทูอี้): ‘Girl Talk’


แบรนด์กระเป๋าชั้นนำ ปิ๊งไอเดียพาปาร์ตี้ย้อนเวลาไปสู่ทศวรรษที่ 80 ผ่านซิกเนเจอร์ใหม่ประจำคอลเลกชั่น Lover’s Eyes หนังวัวเมทัลลิกรูปแว่นหัวใจ ประดับอยู่บนกระเป๋า 6 สไตล์ LOLITA, LOLA, LYZ, LEX, LUELLA และ LEXI ทั้งยังคงเอกลักษณ์ด้านการมิกซ์หนังแกะชั้นเลิศนำเข้าจากอิตาลีเข้ากับหนังเอ็กโซติกอย่างหนังงู และวัสดุประดับเลอค่าอย่างขนแร็กคูนและขนนกกระจอกเทศ ผสานกับการตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์เอกลักษณ์อย่างหมุดแปดเหลี่ยมและซิปเขี้ยวเสือ นำเสนอในโทนสีใหม่ประจำฤดูอย่าง Pink Champagne, Marshmallow White, Rocky Grey และ Black โทนสีดำตัดทองสุดคลาสสิก ครบครันทั้งความสวยและการหยิบใช้จริงๆ

Painkiller (เพนคิลเลอร์): ‘Former Future’

เพนคิลเลอร์นำเสนอคอลเลกชั่น Former Future ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “Retrofuturism” กระแสนิยมรูปแบบหนึ่งที่ขยายความได้ว่า ‘ภาพอนาคตจากจินตนาการในอดีต’ นำเสนอออกมาในโทนสีขาวดำและสีน้ำเงินสดพิเศษ Klein-Blue เป็นสีที่ทางแบรนด์สั่งย้อมผ้าออกมาเพื่อคอลเลกชั่นนี้โดยเฉพาะ ส่วนลายพิมพ์เป็นธีมเมืองอนาคต ประกอบไปด้วยลายโคโลนี่ (Colony) เมืองหลวง และยูโฟ (UFO) จราจรทางอากาศ ส่วน Must have ประจำซีซั่นคือ เสื้อยืดผ้าเรียบในธีม 70s เสื้อยืดหุ่นยนต์โบโบ Bobo Robot ฯลฯ

Something Boudoir (ซัมธิง บูดัวร์): ‘The Surfarista’


ฉีกแนวจากลุคหวานปานลูกอมตามฉบับ SB ไปโดยถนัดตา กับคอลเลกชั่น เดอะ เซิร์ฟ ฟาริสต้า ที่มากับลุคบีชวอร์ค เท่ เปรี้ยวซ่าเป็นตัวของตัวเอง ด้วยชุดลายพิมพ์กราฟฟิกภาพสะท้อนของน้ำหลากรูปแบบทั้งสระน้ำ ท้องทะเล และมหาสมุทร บนโครงเสื้อติดสปอร์ตดัดแปลงคัตติ้งจากชุดเว็ตสูท (wet suit) แมทช์กับรองเท้าส้นหนาทั้งลวดลายฟันปลาฉลาม และพู่ประดับ แต่ยังคงเอกลักษณ์เรื่องสีสันตามฉบับซัมธิง บูดัวร์ จุดเด่นประจำคอลเลกชั่นนี้คงต้องบอกว่า สนุกขึ้น ซ่าขึ้น และแซ่บขึ้น

Senada (เซนาดา): ‘Twist and Shout’


ให้ความสำคัญกับเรื่องวัสดุตัดเย็บในยุค Swing 60s คอลเลกชั่นใหม่จากแบรนด์เซนาดาแต่ละชุดจึงกลายเป็น ‘investment piece’ ทั้งผ้าลายตารางหมากรุก (gingham) สีขาว milky white, powder white หรือ ivory white ลายเล็กและใหญ่กระจัดกระจายลงไปบนผ้าซีทรู, ผ้าทาฟต้า มีการใช้ผ้าเมทัลลิกซาตินที่มีความยับแลดูมิติ รวมไปถึงผ้าใยสังเคราะห์ที่นำมาตัดต่อเป็น cutting edge ทั้งยังนำผ้าออร์แกนซ่าเนื้อบางเบาจัดเป็นพวงจับช่อไว้ประดับติดชุด ซึ่งทั้งหมดถูกจัดวางบนโครงสีขาวคู่ขาว, ดำคู่ดำ และขาวดำสลับกัน

เอกลักษณ์ของเสื้อผ้าแต่ละแบรนด์ เรียกได้ว่าบรรดาดีไซเนอร์ปล่อยของมาประชันกันสุดฤทธิ์ มีคอลเลกชั่นไหนโดนใจคุณบ้างแล้วรึยังล่ะ

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : Bangkok Fashion Society

Praew Recommend

keyboard_arrow_up