เจาะลึกความหรูเว่อร์ ชุดราคาเหยียบ 10 ล้าน ของ ‘Ralph and Russo’ แบรนด์นี้มีดียังไง... ชมพู่-อารยา จึงปัง!

เจาะลึกความหรูเว่อร์ ชุดราคาเหยียบ 10 ล้าน ของ ‘Ralph and Russo’ แบรนด์นี้มีดียังไง… ชมพู่-อารยา จึงปัง!

ณ จุดๆ นี้ ต้องยกมงกุฏความปังให้กับชุดราตรีสีชมพูฟูฟ่องแบรนด์ ‘Ralph and Russo’ ของชมพู่-อารยา เท่านั้น เพราะเกิดและเจิดล้ำหน้าเซเลบฯ ฝรั่งไปหลายช่วงตัว จะว่าไปไม่ใช่แค่ชมพู่ที่ปลื้มแบรนด์นี้ ยังมีเซเลบฯ สาวแถวหน้าจากทั่วโลกที่เป็นบิ๊กแฟน เรามาทำความรู้จักกับ Ralph and Russo กันหน่อยดีกว่า ว่าอะไรทำให้แบรนด์นี้ครองใจสาวๆ ทั้งที่บางชุดมีราคาพุ่งสูงทะลุมิติไปถึง $500,000 หรือราว 17.5 ล้านบาท!!

Ralph and Russo ก่อตั้งในปี 2007 ที่อังกฤษ โดยคู่รักที่ชื่อ Tamara Ralph และ Michael Russo จุดเด่นของแบรนด์คือชุดราตรีแบบโอต์กูตูร์ คือ การใช้ศิลปะชั้นสูงในการรังสรรค์ตัดเย็บเสื้อผ้า โดยมีเอกลักษณ์อยู่ 2 แบบ ตามที่ทามาร่าบอกไว้คือ “ชุดราตรีที่เน้นความอ่อนนุ่มและความลื่นไหลพริ้วไหวของเนื้อผ้า และชุดที่เน้นโครงสร้างเพื่อโชว์เทคนิคการตัดเย็บ”

ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์จะเลือกแบบชุดจากคอลเล็คชั่นที่จัดโชว์ในปารีสช่วงเดือนมกราคมและกรกฏาคม ซึ่งสามารถเปลี่ยนดีเทลหรือดีไซน์ของชุดได้นิดหน่อย แต่ทางแบรนด์จะผลิดชุดขึ้นแค่แบบเดียวต่อหนึ่งประเทศ นั่นหมายถึงว่า ลูกค้าคนนั้นจะมีชุดนี้เพียงคนเดียวในประเทศ เพื่อคงความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟไว้ ทามาร่าย้ำว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถซื้อชุดของเราได้ แต่เราก็ยังมีลูกค้าสั่งซื้อมาเป็นร้อยออเดอร์ต่ออาทิตย์”

ปัจจุบันทางแบรนด์มีช่างฝีมือ ดีไซเนอร์และทีมงานผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเนื้อผ้าแต่ละแบบ ตลอดจนงานปัก งานเพนต์ ประดับดิ้น ฯลฯ กว่า 120 คน ชุดของ Ralph and Russo 1 ชุด ใช้เวลาทำกว่า 6 สัปดาห์ และใช้ช่างฝีมือกว่า 15 คน โดยมี Tamara ในฐานะครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คอยเช็ครายละเอียดทุกขั้นตอน ซึ่งขอบอกว่าเธอตาเหยี่ยวมาก เพราะบอกได้แม้กระทั่งว่า ดอกไม้ดอกไหนที่ผิดรูปร่างจากบรรดาดอกไม้ 50 ดอกบนชุด หรือมีลูกปัดชิ้นไหนหายไปจากบรรดาลูกปัดกว่า 20,000 เม็ด ทามาร่ายังแซวตัวเองว่า “ไม่มีกูตูริเย่คนไหนอยากให้ฉันเดินเข้าไป เพราะเขารู้ว่าเดี๋ยวฉันก็ต้องถามว่า “นั่นอะไรน่ะ” (หัวเราะ) ฉันลงรายละเอียดทั้งด้านนอกและด้านในชุด เพราะทุกรายละเอียดในชุดสำคัญเท่าเทียมกัน”

นอกจากนี้ เพื่อความสะดวกของลูกค้ายุคใหม่ที่เร่งรีบและใจร้อน แทนที่จะต้องใช้เวลากว่า 6 สัปดาห์เพื่อรอชุด ทางแบรนด์จึงเปิดบูติคขึ้นในลอนดอน ปารีสและนิวยอร์ก ซึ่งจะมีชุดโอต์กูตูร์ที่ตัดเย็บเสร็จแล้วเตรียมไว้ พร้อมกับช่างฝีมือระดับพระกาฬ เพื่อคอยปรับขนาดและรายละเอียดของชุดให้เหมาะกับคุณลูกค้าคนสำคัญที่จำเป็นต้องใช้งานด่วนในระยะเวลาอันสั้น กลายเป็นเซอร์วิสที่กำลังได้รับความนิยมมาก

ในขณะเดียวกัน การสั่งตัดชุดโอต์กูตูร์แบบดั้งเดิมที่กินเวลายาวนานก็ยังมีอยู่ สำหรับลูกค้าชั้นสูงที่สามารถรอได้และต้องการความพิเศษจริงๆ เช่น ชุดแต่งงานของเจ้าสาวระดับเชื้อพระวงศ์จากทั่วโลก ส่งผลให้ทีมงานของเขาต้องเดินทางไปส่งชุดราตรีสุดหรูตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกทุกสัปดาห์ และด้วยความที่ลูกค้าแต่ละคนไม่ธรรมดา นอกจากคนในทีมจะเก่งเรื่องการตัดชุดแล้ว พวกเขายังต้องมีความสามารถพิเศษในการทำอย่างไรก็ได้ ให้ไปส่งชุดได้ตรงเวลาและเร็วที่สุด

มาทาร่าเล่าว่า “ลูกค้าวีไอพีมักโทรมานัดเวลาส่งชุดในเวลากระชั้นชิด มีหลายครั้งที่เราต้องส่งชุดให้ทันเครื่องบินของลูกค้าซึ่งจะขึ้นบินภายใน 1 ชั่วโมง บางครั้งถึงกับต้องจ้างเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เพื่อให้ทีมงานของเรานำชุดสุดหรูไปส่งให้ลูกค้า ซึ่งกำลังอยู่บนเรือยอร์ชกลางมหาสมุทร บางทีก็อดนึกไม่ได้ว่า เรากำลังเล่นหนังเจมส์บอนด์อยู่หรือเปล่า”

โอต์กูตูร์ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการจริงๆ