ในวันที่โลกแฟชั่นหยุดนิ่งของ “แองจี้ – แอนเจลิส บาเลก” ผู้ก่อตั้ง AB. Angelys Balek แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยที่ไปโด่งดังไกลถึงอเมริกา
ใครจะไปเชื่อว่าหนึ่งในช่วงชีวิตของเราจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัส ทุกประเทศทั่วโลกต่างต่อสู้อย่างสาหัสสากรรจ์ ผู้นำแต่ละประเทศต่างออกนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะ Social Distancing เว้นระยะห่างระหว่างตัวเราเองกับคนอื่นๆ เพื่อรักษาชีวิตประชากรในประเทศของตนเองรวมถึงรักษาระบบเศรษฐกิจ ไม่ให้ล่มสลาย…
และในวันที่อะไรๆ ก็ดูหยุดนิ่ง หลายต่อหลายอาชีพได้รับผลกระทบ จนบางคนอาจเกิดความรู้สึกท้อแท้ วงการ “แฟชั่น” เองก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตนี้
วันนี้เราจะมาเปิดความคิด มุมมองของ “แองจี้ – แอนเจลิส บาเลก” ศิลปิน ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์ AB. Angelys Balek. (เอบี. แอนเจลิส บาเลก) และเป็นผู้นำพาแบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยที่ไปโด่งดังไกลถึงอเมริกาและยุโรป ว่าเธอมีแนวคิดอย่างไร ที่จะช่วยสร้างพลังบวก
กำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
แองจี้ – แอนเจลิส บาเลก สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผู้ค้นพบตัวเองว่ามีใจรักงานทางด้านศิลปะมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจศึกษาต่อทางด้าน ทัศนศิลป์ (Fine Arts) จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และก้าวสู่เส้นทางแฟชั่นด้วยการไปศึกษาต่อที่ London College of Fashion ประเทศอังกฤษ และ Fashion Institute of Technology นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในระหว่างที่ศึกษาด้านแฟชั่น แองจี้ ได้ส่งผลงานเข้าประกวดบนเวทีระดับโลกอย่าง Women’s wear daily และ WGSN’s Global Fashion Awards ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลใหญ่ของคนแฟชั่น และผลงานของเธอชนะใจคณะกรรมการและคว้าชัยชนะมาครอง และในปี 2012 gTvก็ได้ออกคอลเล็คชั่นแรกภายใต้แบรนด์ Angelys Balek พร้อมเปิดตัวบนรันเวย์ของนิวยอร์ก แฟชั่น วีค และได้รับเสียงชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์แฟชั่น ต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์ในการผสานเทคนิคของงานศิลปะสู่แฟชั่นที่ครองใจสาวๆ ทั่วโลก
จากจุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจจากเมืองไทย ไปเรียนต่อด้านแฟชั่น และเดินหน้าไล่ตามความฝัน ตั้งแต่ อายุ 20 ปี ชีวิตของ แองจี้ – แอนเจลิส
บาเลกก็ต้องเดินทางตลอด ทุกลมหายใจของเธอทุ่มเทงาน และหากได้กลับเมืองไทยสิ่งที่โฟกัสนอกจาก “งาน” ก็คือ “ครอบครัว”
ในวันที่โลกแฟชั่นหยุดหมุน… โลกของ แองจี้ – แอนเจลิส บาเลก เป็นอย่างไร ?
ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ตัวจี้เองโฟกัสแค่สองอย่าง คือดูแลคุณพ่อและงาน แต่มาวันนี้วันที่ทุกอย่างบนโลกหยุดเดิน รวมถึงธุรกิจของเราด้วยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะฐานการผลิตของแบรนด์ AB. Angelys Balek. อยู่ที่ประเทศอิตาลีและอินเดีย ซึ่งจริงๆ ช่วงนี้
แบรนด์ AB. ต้องออกคอลเล็คชั่น Spring Summer 2020 แต่ทุกอย่างถูกชัตดาวน์ สิ่งเหล่านี้อยู่เหนือการควบคุมของเรา
สิ่งที่ทำได้คือ “ทำใจ – ยอมรับความจริง” โลกการทำงานในด้านโอกาสทางธุรกิจ เปลี่ยนไปแน่นอน แต่ด้วยเราเป็นเจ้าของแบรนด์เป็นเหมือนแม่ที่มีลูกต้องดูแล ต้องเลี้ยงลูกๆ ตัวจี้เลือกที่จะยอมเจ็บตัวเพื่อให้ลูกน้องมีรายได้ เพราะพนักงานทุกคนคือแรงกำลังสำคัญของเรา
จี้เชื่อว่าเราจะต้องรอดไปด้วยกัน
แม้ในโลกของธุรกิจจะหยุดเดิน แต่โลกของ AB. ซึ่งเป็นโลกของงานอาร์ต งานศิลปะยังคงหมุน น้องๆ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ครีเอตงาน คุยงานกันตลอด เพื่อเตรียมตัวรับมือในวันที่โลกธุรกิจ โลกอุตสาหกรรมแฟชั่นกลับมาก้าวเดินอีกครั้ง ดังนั้นการ Work from home
จี้จึงมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรขอแค่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพก็พอ
การแพร่ระบาดไวรัส และ Social Distancing สอนอะไรให้ แองจี้ -แอนเจลิส บาเลก?
ในทุกวิกฤติ ในทุกอุปสรรค มักจะมีเรื่องดีดีเกิดขึ้น จริงๆ เป็นเรื่องของจิตใจ ถ้าเราอ่อนแอ มองอะไรก็เป็นปัญหาไปหมด แต่ถ้าเรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น มองโลกในแง่ดี เราจะมองเห็นโอกาสในวิกฤตนั้นๆ ถ้าในมุมความคิดของตัวจี้เอง ถือเป็นโอกาสที่จี้จะได้หยุดพักได้อยู่บ้านดูแลคุณพ่อ และได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่มีทางที่จะได้ทำ เพราะงาน คือสิ่งที่เราโฟกัส แต่ในวันนี้วันที่งานของเราหยุดนิ่ง แต่ตัวเราไม่จำเป็นต้องนิ่ง การได้อยู่บ้านก็เหมือนการได้พักร่างกาย จิตใจ มองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ซ่อมร่างกาย หลังจากใช้งานอย่างหนักหน่วง
ทุกวันนี้จี้ก็ยังทำงานเหมือนเดิม แต่มีเวลาออกกำลังกาย เล่นโยคะ ว่ายน้ำ เดินบนลู่วิ่ง ลองเข้าครัวทำอาหาร เริ่มอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน อยากจัดแต่งบ้าน เล่นกับน้องหมา มีเวลาได้วาดรูป มีเวลาว่างพอที่จะได้หวนรำลึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนได้ทบทวนความทรงจำ
เคล็ดลับสร้างพลังบวกของคุณแองจี้ – แอนเจลิส บาเลก ให้การอยู่บ้านอย่างไร ไม่ให้รู้สึกถูกกักขัง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การหยุดอยู่บ้านและการเว้นระยะห่างทางสังคม จะเป็นวิธีที่ลดการแผร่ระบาดของไวรัสได้ ซึ่งจี้มองว่าการทำงานอยู่บ้านไม่ได้แย่เสมอไป เพราะการที่เราโฟกัสสิ่งเดียวอาจจะทำให้เรายิ่งเครียดได้ แต่ถ้าเราปรับมุมมอง ลองทำอะไรหลายๆ อย่างเช่น
Power Nap
หากในเวลาปกติจี้ไม่เคยได้มีโอกาสนอนพักกลางวัน หรือ Power Nap แต่พอได้ลองทำดู 30 นาที จี้ค้นพบเลยว่า เป็นอีกวิธีที่ช่วยชาร์ตพลังให้ร่างกายพร้อมลุยงานยามบ่าย
เปลี่ยนกิจกรรมอิริยาบถ
เพื่อไม่ให้เครียดจนเกินไปจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุขและป้องกันไม่ให้ตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้แข็งแรง ไม่ไปในที่เสี่ยง
รู้จักเสพข่าวสารอย่างพอดี การติดตามข่าวสาร
อัพเดตสถานการณ์ Covid-19 ทุกวันอาจส่งผลให้เกิดความเครียดได้ จี้จะพยายามอัพเดตให้พอรู้สถานการณ์ เพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้คุ้มค่า
หลายคนที่กลับบ้านมีเวลาได้อยู่กับครอบครัว สำหรับจี้การได้อยู่กับครอบครัวเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดคนในครอบครัวได้มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกันและที่สำคัญยังเป็นโอกาสที่ดีให้ลูกๆ ได้แสดงความกตัญญูต่อบุพการีด้วย
มองโลกในแง่ดี เพื่อจะได้เห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่
ส่วนตัวของจี้เองคือ เราเตรียมพร้อมให้ตัวเอง อันไหนที่เราพอทำได้ก็เริ่มทำ ตอนนี้จี้ก็เลือกดูพวกลายผ้า เตรียมพร้อมทุกอย่าง เพื่อที่หลังหมดวิกฤตเราจะได้พร้อมลุยงานต่อทันที
แม้ตอนนี้สถานการณ์ทั่วโลกยังไม่มีทีท่าคลี่คลาย แต่ก็หวังว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้ โดยเริ่มต้นจากการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับจิตใจและร่างกาย และสำหรับใครที่อยากเบรคความเครียดด้วยการอัพเดตงานอาร์ตและแฟชั่น สามารถติดตามได้ที่ Instagram @angelysbalekth, www.angelysbalekshop.com