หลังจากตัวแทนสาวไทยได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมในเวที “มิสยูนิเวิร์ส” มาถึง 2 ปีซ้อน จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่า ในปีนี้ มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 และเครื่องแต่งกายชุดสำคัญ โดยเฉพาะชุดราตรีและชุดประจำชาติ เป็นที่จับตามองของสื่อมวลชนและสาธารณชนยิ่งขึ้นไปกว่าปีที่ผ่านๆ มา หน้าที่สำคัญในฐานะตัวแทนของประเทศไทย ไม่เพียงแต่ต้องโชว์ความสวยงามและรูปร่างผ่านชุดที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถสื่อสาร เล่าเรื่อง และถ่ายทอดศิลปะ วัฒนธรรม เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ชาวโลกได้ประจักษ์ด้วย
นอกจากดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังชุดสำคัญนี้ ยังมี สวารอฟสกี้ ผู้นำด้านการเจียระไนคริสตัลระดับโลก สนับสนุน 2 ดีไซเนอร์ไทย มอบคริสตัลสุดเจิดจรัสกว่า 50,000 เม็ด มูลค่ารวมกว่าแสนบาท เพื่อรังสรรค์ชุดราตรีและชุดประจำชาติสุดอลังการสำหรับ มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 นำไปใช้ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ การออกแบบชุดสำคัญทั้ง 2 ชุด ต้องปรับให้เข้ากับตัวตนและคาแรกเตอร์ของมารีญามากที่สุด เพื่อให้มารีญาสามารถถ่ายทอดความเป็นไทยออกมาได้อย่างกลมกลืน และแสดงตัวตนของผู้หญิงไทยให้ชาวโลกได้เห็น ทีมงานทุกฝ่ายต่างทุ่มเทเตรียมการเพื่อให้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 สร้างผลงานที่ดีสุดบนเวทีประกวดในปีนี้ เพื่อนำความภาคภูมิใจมาให้คนไทยอีกครั้ง
คุณพลพัฒน์ อัศวประภา หรือ พี่หมู-อาซาว่า ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์มือฉกาจแห่ง ASAVA กรุ๊ป ผู้ออกแบบชุดราตรีหลักสำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดยแบรนด์ ASAVA ได้เป็นผู้ออกแบบและทำชุดสำหรับมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นปีที่ 3 แล้ว จึงมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเวทีระดับโลกเป็นอย่างดี
“ความท้าทายในการออกแบบสำหรับปีนี้ คือ เราจะต้องทำให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าปีก่อนๆ โจทย์ของเราในการทำงานทุกปี คือการทำให้ชุดราตรีของนางงามจากประเทศไทยโดดเด่นที่สุดบนเวทีโลก ซึ่งชุดราตรีของปีนี้ได้รับอิทธิพลโดยตรงมาจากชุดไทย โดยออกแบบให้ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น และมีความเป็นเสื้อผ้าชุดราตรีชั้นสูงด้วยความร่วมมือของสวารอฟสกี้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและเจียระไนคริสตัลระดับโลก”
ชุดราตรีโดย ASAVA ซึ่งประดับคริสตัลสวารอฟสกี้กว่า 30,000 เม็ด
โครงสร้างชุดราตรีผลงานการออกแบบและตัดเย็บโดย ASAVA นี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ชุดไทยสไบสองชาย ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ดัดแปลงให้มีความเป็นสากลด้วยการใช้เนื้อผ้ากำมะหยี่ (Silk Velvet) โทนสีน้ำเงินเข้ม และเทคนิคการตัดเย็บสมัยใหม่ ผสานกับการตกแต่งผ้าโปร่ง (Tulle) บริเวณเคปด้านหลัง เพื่อสร้างโวลุ่มและความพลิ้วไหวในทุกย่างก้าว
นอกจากนี้ ชุดราตรียังโดดเด่นด้วยงานปักที่มีความละเอียดและซับซ้อน ด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้กว่า 30,000 เม็ด มูลค่าร่วมแสนบาท คละเฉดสีและรูปทรง ไม่ว่าจะเป็น สีคาปรี-บลู สีแซฟไฟร์ สีเดนิมบลู สีไลท์แซฟฟายร์ และสีซิลเวอร์เฉด ใช้เทคนิคปักไล่สี (Ombre) และรีดลงไปบนผืนผ้าโดยผ่านความร้อนที่เหมาะสม เพื่อให้คริสตัลติดทนนาน เรียงร้อยออกมาเป็นลวดลายร่วมสมัย เสริมให้ชุดดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างงดงามและกลมกลืน ด้วยฝีมืออันปราณีตผนวกกับการออกแบบและตัดเย็บชั้นสูงทำให้ชุดราตรีนี้มีมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
พี่หมู-อาซาว่า ยังบอกอีกว่า “ผู้หญิงในแบบของ ASAVA จะเป็นผู้หญิงที่มีความคิดก้าวหน้า ใส่ใจในรายละเอียด ไม่วิ่งตามกระแสแฟชั่น ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด และเป็นตัวของตัวเอง โดยทั้งหมดทั้งมวลเมื่อประกอบกันแล้วจะเป็นปัจจัยทำให้เกิดความสง่างามในตัวของผู้หญิง ซึ่งไม่ได้หมายถึงการใส่เครื่องเพชร หรือของราคาแพง แต่ความสง่างาม คือ ความเป็นธรรมชาติ ความถ่องแท้ และการรู้จักตัวเอง”
ด้วยบุคลิกของมารีญา ที่แสดงถึงตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ ที่มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง ทำให้การออกแบบชุดราตรีร่วมสมัยสำหรับการประกวดฯ ในครั้งนี้ ได้สะท้อนทั้งดีเอ็นเอของแบรนด์ ASAVA รวมถึงสะท้อนตัวตนและคาแรกเตอร์ของมารีญาอย่างแท้จริง
สำหรับชุดประจำชาติ “เมขลาล่อแก้ว” ออกแบบโดย คุณประภากาศ อังศุสิงห์ ดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อ Hook’s ที่สร้างสีสันและเรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้งที่ทำโชว์ คอนเซ็ปต์ของชุดได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านเรื่อง “เมขลา-รามสูร” ซึ่งเป็นเกร็ดวรรณคดีจากรามเกียรติ์ ผสานศิลปะนาฏศิลป์ไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทั้งโขน และหุ่นกระบอกไทย จึงออกมาเป็นผลงานอันทรงคุณค่าในทุกๆ ด้าน
ด้วยรายละเอียดงานฝีมือที่ประณี
ชุดประจำชาติ “เมขลาล่อแก้ว” ประดับด้วยสวารอฟสกี้กว่า 2 หมื่นเม็ด
นอกจากนี้ทีมดีไซเนอร์ได้นำคริ
“ปีนี้อยากจะสนับสนุนมารีญาอย่