ปอย ตรีชฎา และ โอ๊ค บรรลุ ถือฤกษ์ดีวันที่ 1 มีนาคม 2566 เข้าพิธีวิวาห์บาบ๋าของชาวภูเก็ต เจ้าสาวสวยสง่าในชุดแต่งงานแบบบาบ๋าโบราณ ปักด้วยดิ้นทองคำ และ สวมมงกุฎดอกไม้ไหว เครื่องประดับทองคำ และ เพชรพลอยโบราณ
ปอย ตรีชฎา สวยสง่า ในชุดแต่งงานบาบ๋า สวมมงกุฎดอกไม้ไหว และเครื่องประดับทองคำ
เมื่อไม่นานมานี้ หลังจาก ปอย ตรีชฎา และ โอ๊ค บรรลุ ได้ทำพิธีไหว้อ้ามปุดจ้อ และ ไหว้บอกกล่าวบรรพบุรุษ (ซินจู้) ตามประเพณีของชาวภูเก็ตแล้ว ล่าสุดทั้งคู่ได้เข้าพิธีแต่งงานแบบบาบ๋าซึ่งจัดขึ้นที่ บ้านอาจ้อ ของฝ่ายเจ้าบ่าว งานนี้เราจึงได้ปอยในชุดเจ้าสาวบาบ๋าแบบโบราณ เรียกได้ว่า หรูหรา สวยสง่า สมกับเป็นวันสำคัญของเธอจริงๆ
สำหรับ ชุดแต่งงานแบบบาบ๋า เป็นชุดที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจีนกับมาเลย์ไว้ด้วยกัน เจ้าสาวจะสวมเสื้อตัวในเป็นเสื้อลูกไม้สีอ่อนแขนยาวคอตั้งแบบจีนนุ่ง คู่กับผ้าถุงปาเต๊ะสีเดียวกัน สวมทับด้วยเสื้อครุยผ้าป่านรูเปีย หรือผ้ามัสลินปักลวดลาย แล้วติดเครื่องประดับทองชุดใหญ่ หรือ “โกสัง” เป็นเข็มกลัด 3 ชิ้นที่เสื้อด้านนอก เพิ่มความหรูหราด้วยเครื่องประดับอย่างสร้อย กำไลข้อมือข้อเท้า แหวน และรองเท้าปักดิ้นเพื่อแสดงถึงความมั่งคั่ง ส่วนชุดเจ้าบ่าวเรียบหรูดูดีด้วยชุดสูทสากลติดดอกไม้ที่หน้าอก หรือเข็มกลัดประดับพู่สีชมพูเพื่อความสวยงาม ซึ่งดอกไม้ประดับหน้าอกของ โอ๊ค บรรลุ นั้นทำมาจากทองคำอีกด้วย
ทั้งนี้ชุดของ ปอย นั้นปักด้วยดิ้นทองคำทั้งตัว นอกจากนี้เธอยังสวมมงกุฎ ดอกไม้ไหวทองคำ ซึ่งเป็นเครื่องประดับสำคัญของเจ้าสาวบาบ๋า โดยมงกุฎทองที่เจ้าสาวใช้ครอบมวยผมจะมีหงส์ประดับอยู่ด้านบน เพราะคนจีนเชื่อว่าหงส์เป็นสัตว์ปีกที่มีความยิ่งใหญ่และมักปรากฏตัวในที่ร่มเย็นพร้อมเสียงร้องอันกังวาน เหมือนเป็นการสอนให้เจ้าสาวมีวาจาที่อ่อนหวาน ดูแลครอบครัวด้วยความร่มเย็น และหากสามีเป็นอะไรไปต้องลุกขึ้นมาเป็นใหญ่แทนสามีได้ ส่วนที่ติดอยู่บนมงกุฎอีกอย่างคือ ผีเสื้อกับดอกไม้ที่แทนความยั่งยืนของชีวิตแต่งงาน ซึ่งดอกไม้ที่ประดับบนมงกุฎนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นของเจ้าสาวที่จะได้พบกับเจ้าบ่าวในวันแต่งงาน