ฝากไข่

‘ฝากไข่’ แผนมีลูกในอนาคตของสาวยุคใหม่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

Alternative Textaccount_circle
ฝากไข่
ฝากไข่

ยุคนี้คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มแต่งงานกันช้าลง เพราะหันมาทุ่มเททำงาน เก็บเงินจนรู้สึกว่ามั่นคงในระดับหนึ่ง แล้วจึงค่อยวางแพลนแต่งงานสร้างครอบครัว แล้วพอคิดจะมีลูก ก็อายุมากขึ้น ความเสี่ยงก็มากขึ้น ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมาตอบโจทย์สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากมีลูกในเวลาที่พร้อม และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ด้วยการฝากไข่ไว้ก่อน ในอนาคตเมื่อพร้อมและเวลาที่เหมาะสม ค่อยนำไข่ที่ฝากมาวางแผนมีลูกต่อไป แล้วการ ฝากไข่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

การฝากไข่ คือ การนำไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิงออกมาเก็บรักษาโดยการแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดของอายุที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและปริมาณไข่ของแต่ละคน โดยอายุที่เหมาะสมในการฝากไข่คือ 28-35 ปี

แล้วใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการฝากไข่บ้าง

  • มีความต้องการมีบุตรในอนาคต หลังอายุ 35 ปี
  • มีโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ (Tumer Syndrome, Fragile X Syndrome)
  • มีประวัติครอบครัวหมดประจำเดือนเร็ว
  • เคยได้รับการผ่าตัดรังไข่ หรือถุงน้ำรังไข่
  • มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาที่มีผลทำลายเซลล์ไข่ เช่น ยาเคมีบำบัด การฉายแสง

ข้อดีของการฝากไข่ คือ เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในอนาคต ซึ่งเป็นเวลาที่พร้อมตั้งครรภ์ แต่รังไข่ไม่พร้อม คือเหลือไข่ปริมาณน้อย และคุณภาพไม่ดี ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพไข่ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ทั้งอายุ ความเครียด การดูแลสุขภาพ การเลือกกินอาหาร การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย หรือโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

สำหรับสาวๆ ที่ต้องการฝากไข่ควรเตรียมตัวดังนี้

  1. ควรเตรียมสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และกินกรดโฟลิคล่วงหน้าก่อนเก็บไข่อย่างน้อย 1 เดือน
  2. พบแพทย์เพื่อตรวจความพร้อม ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์
  3. เริ่มกระบวนการของการกระตุ้นไข่ในวันที่ 1-3 ของรอบประจำเดือน โดยตรวจฮอร์โมน และอัลตราซาวด์นับจำนวนไข่
  4. ฉีดยากระตุ้นไข่ 8-10 วัน และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูการตอบสนองของไข่
  5. นัดเก็บไข่ เมื่อไข่ได้ขนาดที่เหมาะสม

การฝากไข่สามารถแช่แข็งไว้ได้นานมากกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีรายงานการตั้งครรภ์จากไข่ที่แช่แข็งไว้นานถึง 14 ปี แต่แนะนำให้นำไข่มาใช้ก่อนอายุ 50 ปี เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ โดยเด็กที่เกิดจากไข่แช่แข็ง ไม่ได้มีความผิดปกติมากกว่าเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ

ทั้งนี้ข้อจำกัดในการฝากไข่ก็มี คือ

  • การกระตุ้นไข่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะที่ไข่ถูกกระตุ้นมากเกิน(Ovarian Hyperstimulation Syndrome) ซึ่งพบได้ในกรณีที่มีปริมาณไข่มีจำนวนมากกว่าปกติ
  • ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะเก็บไข่ เช่น เลือดออกในช่องท้อง ท้องอืด ปวดหน่วงท้องน้อย
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ประมาณ 150,000-200,000 บาท ต่อรอบ (ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้) และค่าแช่แข็งไข่รายปี = 1,000 บาท/ใบ
  • หากการกลับมาใช้ไข่ทำเด็กหลอดแก้วในอนาคต จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายด้วย

หากอยากมีลูกในอนาคต เมื่อพร้อม การฝากไข่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ในยุคนี้ ที่สำคัญควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การฝากไข่มีประสิทธิภาพด้วยนะคะ

Source: พญ.รุ่งทิวา กมลเดชเดชา จากศูนย์การแพทย์นวบุตร ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์)
Photo: Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up