'วัณโรค' โรคติดเชื้อทางอากาศ 

‘วัณโรค’ โรคติดต่อที่เกิดได้กับอวัยวะทุกส่วน แต่ส่วนมากจะเกิดที่ปอด ควรป้องกันและรักษาอย่างไร

Alternative Textaccount_circle
'วัณโรค' โรคติดเชื้อทางอากาศ 
'วัณโรค' โรคติดเชื้อทางอากาศ 

จริงๆ แล้ว วัณโรค สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และกินยาตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด เตือนผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยหมั่นสังเกตตนเอง หากมีอาการไอแห้งๆ หรือมีเสมหะ หรือไอเป็นเลือด เรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุที่แท้จริง

วัณโรค เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น ต่อมน้ำเหลือง ผิวหนัง กระดูก แต่ส่วนมากจะเกิดที่ปอด เรียกว่า วัณโรคปอด สามารถติดต่อกันได้จากผู้ป่วยไอหรือจาม เชื้อวัณโรคจะปะปนออกมากับละอองเสมหะ หรือน้ำลาย หากผู้ที่อยู่ใกล้ชิดสูดรับเชื้อเข้าไป จะมีโอกาสป่วยเป็นวันโรคได้ แต่ไม่จำเป็นว่าผู้ที่ได้รับเชื้อทุกคนต้องป่วยเป็นวัณโรค เนื่องจากในร่างกายของทุกคนจะมีภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อสู้กับเชื้อวัณโรคได้ แต่ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้นกันนานๆ (สเตรียรอยด์) จะมีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

อาการบ่งชี้ของผู้ป่วยวัณโรคปอด คือ จะมีอาการไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ และบางครั้งอาจมีเลือดปน มีอาการเหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงหรือผอมลง มีไข้ต่ำๆ และมีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม วัณโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยผู้ป่วยต้องกินยาตามแผนการรักษาต่อเนื่องจนครบ อย่างน้อย 6 เดือน หากขาดยาหรือไม่ได้กินยาอย่างต่อเนื่อง อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นวัณโรคชนิดดื้อยาได้ และหากผลการรักษาไม่ได้ตามเป้าหมาย โอกาสหายก็จะลดลง อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้น และในระหว่างการรักษาผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดี โดยการกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดกินยาเองแม้จะรู้สึกว่าอาการดีขึ้น และต้องมาตรวจตามนัดทุกครั้ง

และควรกินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ลดความวิตกกังวลและขจัดความเครียด งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ นอกจากนี้ไม่ควรละเลยสภาพแวดล้อมรอบตัวเพื่อสุขอนามัยของผู้ป่วย และเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น การใส่หน้ากากอนามัย หากไอ หรือจาม ควรปิดปาก ปิดจมูก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ที่พักอาศัยควรมีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทสะดวก โดยการเปิดหน้าต่าง หรือประตู หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรืองดเดินทางโดยเครื่องบิน รถโดยสารปรับอากาศ แท็กซี่ และควรแยกของใช้ระหว่างผู้ป่วยกับผู้ที่ต้องอยู่ใกล้ชิด รวมถึงการกำจัดหรือแยกขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี ทั้งนี้ควรพาคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ มาตรวจคัดกรองโรคหลังสัมผัสผู้ป่วยวัณโรค สำหรับการป้องกันไม่ให้กลับมาป่วยเป็นวัณโรคซ้ำ นั่นคือการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ควรตรวจสุขภาพร่างกายปีละ 1-2 ครั้ง ลด ละ เลิก สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ หากมีอาการสงสัย หรือไอ ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการป่วยทันที

Source : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก
Photo : Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up