วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน

น้ำหนักพุ่งไม่รู้ตัว! 5 วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน ดูแลสุขภาพวิถีใหม่แบบนิวนอร์มัล

Alternative Textaccount_circle
วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน
วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน

แชร์ 5 วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน ดูแลสุขภาพวิถีใหม่แบบ New Normal

ตอนนี้เราทุกคนกำลังเรียนรู้วิถีชีวิตแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการติดต่อสื่อสารของเรา รวมถึงการทำงาน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่นการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของเราไปอย่างสิ้นเชิง การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครคาดคิดนี้ส่งผลให้เราต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกเครียดไม่น้อยเลย

แต่รู้หรือไม่ว่า…ความเครียดและความกังวลที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการทานอาหารของเรา และนำไปสู่อาการ “ทานตามอารมณ์” (emotional eating) หรือ “ทานเพราะความเครียด” (stress eating) ที่ทำร้ายสุขภาพได้

อาการ กินเพราะเครียด คืออะไร

การทานอาหารเพราะความเครียดหรือทานตามอารมณ์ คือการที่เราทานอาหารเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติเพื่อหลบหนีจากอารมณ์ด้านลบที่เรากำลังเผชิญอยู่ และหวังว่าอาหารที่ทานเข้าไปจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้

บางครั้งเราก็เลือกทานอย่างมีสติ แต่บ่อยครั้งเมื่อเราเกิดอารมณ์ด้านลบ เราก็มักเผลอทานจุบจิบแก้เครียดโดยไม่รู้ตัว ความเครียดและความรู้สึกเบื่อหน่ายอาจกระตุ้นให้เราทานตามอารมณ์ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คุณต้องอยู่แต่ในบ้านและสามารถหยิบทานอาหารได้ตามใจตลอดเวลา

กินเพราะเครียด

ไม่ว่าเราจะสั่งอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดหรืออาหารที่ทานแล้วให้ความรู้สึกดีๆ ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก รสชาติถูกปาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีแคลอรี่และน้ำตาลสูง หรือเราจะปรุงอาหารทานเองที่บ้านด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัว เราก็อาจทานอาหารต่างไปจากปกติได้ถ้ารู้สึกเครียดหรือมีอารมณ์ด้านลบ

เพราะความเครียดทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าและซึมเศร้าได้ เราจึงอยากทานเมนูคอมฟอร์ทฟู้ดที่ดีต่อใจมากกว่าทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในเวลานั้น อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดที่มีแคลอรี่สูงเหล่านี้จะไปกระตุ้นสารเคมีในสมองที่ช่วยให้เรารู้สึกดีและทำให้เกิดความอยากทานอีกเรื่อยๆ และเมื่อเราทานมากเกินไป น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เราเครียดและยิ่งทานมากขึ้นไปอีก กลายเป็นวงจรทำร้ายสุขภาพไม่รู้จบ

กินเพราะเครียด

เผยเคล็ดลับ วิธีหยุดกินเพราะเครียด ที่ดีที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรทำตอนนี้ก็คือดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดี รวมถึงฝึกนิสัยการทานอาหารที่ดีที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษาและการฝึกอบรมโภชนาการระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ได้ให้คำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้เราเลิกทานตามอารมณ์ หรือ emotional eating อย่างได้ผล ดังต่อไปนี้

1. ยอมรับความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นในใจ

เรารู้อยู่แล้วว่าอารมณ์ความเครียดเป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดพฤติกรรมการทานที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทางแก้ก็คือเราควรยอมรับความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้น และเข้าใจว่าเราสามารถรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ เหงา และเบื่อได้ในบางครั้ง แม้มันจะไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตราย และเราไม่จำเป็นต้องหาทาง “แก้” อารมณ์เหล่านั้นเสมอไป ปล่อยให้ความรู้สึกมันเกิดขึ้นและปล่อยวางโดยไม่ต้องไปคิดว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีบ้าง

วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน

2. หาวิธีผ่อนคลายอารมณ์แบบอื่นๆ แทน

ลองออกไปเดินเล่นหรือดื่มชาสมุนไพรสักถ้วยอาจจะช่วยคลายเครียดได้ดีกว่า ถ้าคุณรู้สึกอยากทานอาหารจริงๆ ให้เลือกอาหารที่แข็งและกรุบกรอบ เช่น อัลมอนด์ เมล็ดถั่วเหลือง หรือเบบี้แครอท เพราะการใช้ฟันขบเคี้ยวและการบริหารขากรรไกร จะช่วยลดความเครียดได้

3. ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ อย่าอดอาหาร

บอกตัวเองให้ทานอาหารทุกมื้อตามปกติ บางครั้งเวลาที่เราเครียด เราอาจเลื่อนเวลาทานอาหารออกไปหรือไม่ทานเลย แล้วเราจะสูญเสียระดับพลังงานที่ร่างกายต้องการ และพอถึงเวลาที่เราทานจริงๆ เราอาจจะลงเอยด้วยการทานมากเกินความต้องการ ถ้าความเครียดทำให้เราไม่รู้สึกอยากอาหาร ลองทานในปริมาณที่น้อยลงแต่ทานให้บ่อยขึ้นในระหว่างวันแทน

กินเพราะเครียด

4. ลดคาเฟอีน

เวลาที่เราเครียด ร่างกายเรามักรู้สึกขาดพลังงานและหันไปหาเครื่องดื่มคาเฟอีนเพื่อให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้ประเปร่า แต่ก็ทำให้เรานอนไม่หลับตอนกลางคืน แนะนำให้ดื่มกาแฟและชาที่ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนแทน

5. ฝึกทานอาหารอย่างมีสติ (mindful eating)

เวลาที่เราทานอาหารอย่างมีสติ เราจะสังเกตเห็นสัญญาณร่างกายตัวเองได้ดีขึ้นเวลาที่รู้สึกหิวหรืออิ่ม และมองเห็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เรารู้สึกอยากทานตั้งแต่แรกได้ง่ายขึ้นด้วย การทานอย่างมีสติช่วยให้เราเลี่ยงการทานมากจนเกินไปและทำให้เราเพลิดเพลินกับอาหารที่ทานได้มากขึ้น แม้ในตอนที่เราทานน้อยลงก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น เราจะใส่ใจเลือกสรรอาหารที่ดีให้แก่ร่างกายมากขึ้น

กินเพราะเครียด

จำไว้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะจำกัดปริมาณอาหารที่ทานเข้าไป แต่เป็นเวลาที่เราต้องให้ความสำคัญกับการทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอแก่การสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ดี แม้วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19 นี้จะสร้างความเครียดแก่เราทุกคน แต่การรู้จักรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจและรู้วิธี จะช่วยให้เราและคนที่เรารักมีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง และสามารถก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปด้วยกันนะคะ


ภาพ : Pexels

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กินอย่างไรไม่ให้แก่! 5 สารอาหารชะลอวัย เสริมคอลลาเจน ต้านริ้วรอย

3 กฎเหล็กสำหรับ ไดเอท ที่สาวอยากหุ่นโป๊ะเชะ สุขภาพเป๊ะ ต้องทำตาม!

อาหาร 5 ชนิด ปรับฮอร์โมน เปลี่ยนอารมณ์แปรปรวนให้สดใสไกลวัยทอง

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up