ทริครับมือปัญหา 'ผิวแห้ง' ขาดความชุ่มชื้น ที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเย็น
ทริครับมือปัญหา 'ผิวแห้ง' ขาดความชุ่มชื้น ที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเย็น

ทริครับมือปัญหา ‘ผิวแห้ง’ ขาดความชุ่มชื้น ที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเย็น

Alternative Textaccount_circle
ทริครับมือปัญหา 'ผิวแห้ง' ขาดความชุ่มชื้น ที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเย็น
ทริครับมือปัญหา 'ผิวแห้ง' ขาดความชุ่มชื้น ที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเย็น

ช่วงนี้อากาศหนาวมากกว่าปกติ นอกจากจะทำให้รู้สึกเย็นสบายแล้ว ยังส่งผลให้เกิดอาการ ผิวแห้ง แสบ คันและลอก เนื่องจากความชื้นสัมพัพธ์ในอากาศลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ปกติร่างกายของคนเราจะมีการคายความชุ่มชื้นเพื่อหล่อเลี้ยงผิวหนังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Transepidermal Water Loss (TEWL) โดยจะเกิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากผิวมีโครงสร้างผิวสมบูรณ์แข็งแรง อัตราการเกิดกระบวนการ TEWL ก็จะน้อยกว่าผิวที่อ่อนแอ ผิวก็จะดูเรียบเนียน เต่งตึง มีสุขภาพดี

โดยสามารถเพิ่มระดับความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

  • ชนิดปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (Occlusives) ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มเคลือบผิวหนัง ป้องกันไม่ให้ความชื้นที่ผิวหนังระเหยไป มีประสิทธิภาพในการรักษาความชื้นที่ผิวหนังได้ถึง 98% แต่เมื่อโดนน้ำก็จะละลายหรือหลุดออกง่าย ต้องทาซ้ำอยู่บ่อยๆ จนอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะและสร้างความรำคาญได้ ตัวอย่างเช่น ปิโตรเลียมเจลลี, น้ำมันแร่ (Mineral oil), พาราฟิน (Paraffin) เป็นต้น
  • ชนิดเคลือบผิวหนัง (Emollients) ลักษณะใกล้เคียงกับชนิดปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน แต่ต่างกันที่สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนังได้ ทำหน้าที่ควบคุมระดับความชื้นของผิวให้กลับมาสู่สภาวะปกติ โดยจะเติมร่องผิวชั้นนอกช่วยให้ผิวเรียบเนียนนุ่มตัวอย่างเช่น น้ำมันรำข้าว, โกโก้บัตเตอร์, เซราไมด์ เป็นต้น
  • ชนิดดูดซับน้ำจากอากาศ (Humectants) ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังชั้นนอกด้วยการดักจับน้ำหรือความชื้นในอากาศหรือดึงน้ำจากผิวชั้นใน โดยมักจะใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากพืชทะเลทราย (Myrothamnus), ว่านหางจระเข้ เป็นต้น

การเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับผิวแต่ละประเภทจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้ผิวมีสุขภาพดี ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม สารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดสิว สำหรับทริคดูแลผิวหน้าป้องกันการขาดความชุ่มชื้นที่อยากแนะนำเพิ่มเติม

  1. ล้างหน้าด้วยน้ำที่อุณหภูมิปกติ เพราะน้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไปจะทำให้ผิวแห้งและลอกมากยิ่งขึ้น
  2. ทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำภายใน 3-5 นาที ขณะที่ผิวยังหมาด เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
  3. ฟื้นบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใสด้วยการมาส์กหน้าประเภทบำรุง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  4. อย่าลืมครีมกันเเดดเป็นประจำ เพราะช่วงฤดูหนาวที่อากาศแห้งผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าปกติ หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแลจะนำไปสู่ปัญหาริ้วรอย และความหมองคล้ำ
  5. กินอาหารที่มีประโยชน์และจิบน้ำตลอดวันให้เพียงพอ เพื่อทำให้ผิวไม่แห้ง ดูเต่งตึง และอิ่มน้ำ
  6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอได้ดี

Photo: Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up