หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

วัยไหนก็สุขภาพดีได้ด้วยการกิน by หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

Alternative Textaccount_circle
หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์
หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

ในแต่ละช่วงวัย ร่างกายมีการเผาผลาญแตกต่างกัน สารอาหารที่แต่ละช่วงวัยต้องการก็แตกต่างกันด้วย วันนี้หลิง (หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์) มีคำแนะนำว่า วัย 20s ไปจนถึง 60s ควรกินอะไรจึงจะสุขภาพดี

วัยไหนก็สุขภาพดีได้ด้วยการกิน by หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

วัยรุ่นห้าม Fasting, 30s เร่งบำรุงสมอง, วัยผู้ใหญ่เลี่ยงไขมันเลว เสริมไขมันดี

สำหรับวัยเด็กวัยรุ่น เป็นช่วงที่ร่างกายเผาผลาญได้ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็ห้ามทำ Fasting (การไดเอ็ตด้วยการลดจำนวนแคลอรี่และจำกัดเวลาการกิน) เด็ดขาด ควรกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เพราะร่างกายต้องการนำสารอาหารไปช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆ แม้จะกินอาหารที่มีแคลอรี่เยอะได้ แต่ไม่ควรกินไขมัน น้ำตาล หรือของทอดเยอะเกินไป

ช่วงวัยทำงานอายุ 30s แน่นอนว่า ส่วนใหญ่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เคลื่อนไหวน้อย ควรกินอาหารบำรุงสมอง มีไขมันดีและโอเมก้า 3 เช่น เมล็ดเจีย อะโควาโด  แมคคาเดเมีย อัลมอนด์ ที่สำคัญคือ วัยนี้ควรกินอาหารที่มีแคลอรี่น้อย แต่ได้สารอาหารสูง เช่น มันฝรั่งอบ 1 ลูก แค่ 80-100 กิโลแคลอรี่ ได้ทั้งวิตามินและไฟเบอร์เต็มที่  ดีกว่ากินอาหารทอดชิ้นเดียวแต่ได้แคลลอรี่มหาศาล

วัย 40 -50 ปี ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่แคลอรี่ต่ำ ลดไขมันจากของผัด ทอด ควรกินอาหารที่ปรุงด้วยการ นึ่ง หรือต้มเป็นหลัก  สำหรับวัย 50 ปีขึ้นไป ร่างกายยังต้องการไขมันดี อย่าตัดไขมันสักทีเดียว ไม่อย่างนั้นจะเหี่ยวเร็ว และควรกินเครื่องเทศเป็นประจำ ทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้น อบเชย ช่วยขับลมได้ดี

กินอะไรก่อนหลังก็สำคัญ

ควรกินผักผลไม้ก่อนมื้ออาหารหลัก ถ้ากินหลังมื้ออาหารจะย่อยยากทำให้ท้องอืดบ่อย แล้วก่อนกินอาหารไม่ควรดื่มแก้วใหญ่เพราะทำให้ระบบย่อยอ่อนแอ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยกินข้าว ขณะเดียวกัน ไม่ควรมีเมนูเนื้อสัตว์หลายอย่างในมื้อเดียว เพราะถ้ากินทุกอย่างพร้อมกันกระเพาะยิ่งทำงานหนัก และตับต้องรับภาระขับของเสีย โดยเฉพาะวัย 50 ขึ้นไป ถ้ามื้อนั้นกินปลา ก็ควรจะกินปลาแค่อย่างเดียวพอค่ะ

ขอเพิ่มอีกนิดว่า อาหารทุกมื้อควรมีเอนไซม์ หรือแบคทีเรียชนิดดี เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในระบบย่อย ขอแนะนำให้ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ โยเกิร์ต รวมไปถึงถั่วนัตโตะ หรือเทมเป้ เป็นประจำ อย่างเทมเป้จะมีพรีไบโอติกซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย แถมยังไม่มีคอเลสเตอรอลด้วย

ไม่ต้องอดของหวานด้วยขนมสุขภาพ

หลิงแนะนำกินขนมไทย เช่น  กล้วยปิ้งข้าวเหนียวถั่วดำที่มีกะทิเป็นไขมันดีส่วนถั่วดำก็มีไฟเบอร์สูงและเต็มไปด้วยโปรตีนส่วนข้าวเหนียวแม้จะเป็นข้าวขาวก็ยังดีกว่ากินแป้งขาวซึ่งผ่านการแปรรูปมาแล้วนอกจากจะแพงยังต้องลดความอ้วนตามหลังอีก

ขนมที่ดีมีมากมายอย่างกล้วยบวชชีถ้ากินมื้อดึกคุณไม่ต้องซดน้ำกะทิก็ได้ตักแค่ชิ้นกล้วยก็หวานพอแล้วซึ่งกล้วยยังดีกับทุกวัยอีกด้วย

อีกอย่างที่ควรมีติดบ้านคือ ถั่ว ทั้งถั่วเม็ด หรือถั่วกวนล้วนมีไขมันดี ประเทศที่มีสถิติเรื่องอายุยืน เช่น ญี่ปุ่น เขานิยมกินถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ อย่าง อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย เพียงแต่จำกัดปริมาณ นอกจากอร่อย ยังได้ประโยชน์ ไม่อ้วนด้วยค่ะ”

ติดตามอ่านเรื่องราวได้เต็มๆ ในคอลัมน์ Be healthy, Be Happy นิตยสารแพรว ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2564


เรื่อง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

ภาพ อิทธิศักดิ์ ผู้ช่วยช่างภาพ ภาดร ขจรฤทธิ์

สไตลิสต์ Up_khampoo

แต่งหน้า เนตรระตรี สัมพันธวงศ์

ทำผม ตริน ดิน

Praew Recommend

keyboard_arrow_up