พลังของ ‘โพรไบโอติก’ ต่อสุขภาพทางเดินอาหารและด้านอื่นๆ ที่หลายคนยังไม่รู้

ปัจจุบันในหลายพื้นที่ของเอเชีย โพรไบโอติก เป็นที่รู้จักกันในฐานะจุลินทรีย์ที่มีความสำคัญต่อสุขภาพทางเดินอาหาร ซึ่งคาดว่าตลาดโพรไบโอติกจะเติบโตขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเป็นผลมาจากความสนใจด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของผู้คนที่เพิ่มขึ้น อ้างอิงจากผลการศึกษาในปี 2564 ของ Lynch และคณะ พบว่า จำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคนิยมใช้โพรไบโอติกเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพและเพื่ออายุที่ยืนยาว ส่วนอีก 45% เชื่อว่าโพรไบโอติกสามารถช่วยให้ระบบทางเดินอาหารมีสุขภาพ   โพรไบโอติกคืออะไร?โพรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ “ดี” ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ด้วยการเข้ามาช่วยสร้างสมดุลให้ลำไส้ เนื่องจากในลำไส้คนเราประกอบไปด้วยแบคทีเรีย เชื้อราและจุลินทรีย์อื่นๆ หลายล้านชนิด ทำให้บางครั้งการกินอาหารหรือยาบางอย่างอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในลำไส้จนเกิดเป็นปัญหาตามมาได้ ดังนั้น โพรไบโอติกจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ประโยชน์ของโพรไบโอติกบทบาทที่สำคัญของโพรไบโอติกสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในวันทางเดินอาหารโลก 2023 (World Digestive Health Day) เมื่อองค์การระบบทางเดินอาหารโลก (WGO) ได้เลือกพูดถึงหัวข้อ “สุขภาพทางเดินอาหารดี เริ่มต้นที่ลำไส้ดี” แม้ว่าประโยชน์ของโพรไบโอติกที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารจะถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง แต่ประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ของโพรไบโอติกก็ยังคงถูกค้นพบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากมาย เช่น วิธีสร้างการเจริญเติบโตให้แบคทีเรียชนิดดี อาหารสมัยใหม่ไม่ได้มีโพรไบโอติกสูงตามธรรมชาติ ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชย มนุษย์จึงคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการเพิ่มโพรไบโอติกเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารให้มากขึ้น ทำให้อาหารที่มีโพรไบโอติกและอาหารเสริมโพรไบโอติกเป็นที่นิยมมาแรง อย่างไรก็ตาม ควรกินอาหารเสริมในปริมาณที่พอดีตามที่ระบุฉลากบนผลิตภัณฑ์ และหากมีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือแพทย์ก่อนตัดสินใจกินอาหารเสริม ข้อมูล : Alex Teo ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนากิจการวิทยาศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเฮอร์บาไลฟ์  บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

keyboard_arrow_up