คู่รักยุคใหม่เลือก อยู่ก่อนแต่ง จะบอกพ่อแม่อย่างไรให้เข้าใจและไม่โกรธ

ยุคนี้ปี 2020 คู่รักหลายคนตัดสินใจมาใช้วิธี อยู่ก่อนแต่ง มากขึ้นกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ก็มักจะขัดใจผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องนี้เสมอ คู่รัก อยู่ก่อนแต่ง เปิดใจบอกพ่อแม่อย่างไรให้ท่านเข้าใจและไม่โกรธ ความต่างของยุคสมัยและวัยเป็นสิ่งที่ทำให้รุ่นพ่อแม่ยังมองการอยู่ก่อนแต่งเป็นเรื่องไม่สมควร กลัวว่าลูกเรา (โดยเฉพาะลูกสาว) จะเสียหายจากคำติฉินนินทาของคนอื่น แบบนี้คู่รักรุ่นใหม่คงต้องนั่งอธิบายเพื่อลดช่องว่างความแตกต่างทางความคิด ระหว่างคนรุ่นใหม่กับรุ่นคุณพ่อคุณแม่ ทำให้พ่อแม่มั่นใจว่าคนที่คุณอยู่ด้วยคือคนที่ดีและใช่ สิ่งแรกที่พ่อแม่คิดเวลาลูกๆ จะไปอยู่กินกับแฟนก่อนแต่งงานคือ “เป็นห่วง” ปกติของพ่อแม่ทุกคนที่จะห่วงว่า คนที่ลูกคบหาเป็นใคร เป็นคนดีหรือไม่ มีงานการที่มั่นคงไหม อายุและวุฒิภาวะพร้อมหรือยัง เพราะฉะนั้นพาแฟนไปเจอครอบครัวของคุณบ้าง แนะนำแฟนให้พ่อแม่รู้จัก และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมจะย้ายมาลองใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำให้ท่านสบายใจว่าการทดลองใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้จะราบรื่น และทำให้ท่านเป็นห่วงน้อยลง สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ คุณต้องเป็นคู่ที่คบกันมานานและมีวุฒิภาวะมากพอ คู่ไหนที่เพิ่งคบกันแปบๆ อย่าเพิ่งคิดเรื่องการย้ายมาอยู่ด้วยกันจะดีกว่า เพราะแบบนี้ไม่ใช่แค่พ่อแม่เป็นห่วง คนรอบตัวอย่างเพื่อนฝูงก็คงกังวลด้วยเช่นกัน บอกท่านว่าถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย หากว่าพวกคุณเป็นคู่ที่คบหากันมาสักระยะแล้วอยากจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน ด้วยเหตุผลเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ โดยเฉพาะคู่ที่ต่างคนก็ต่างเช่าห้องพักหรืออพาร์ทเมนต์อยู่ทั้งคู่ การอยู่ก่อนแต่ง นอกจากจะทำให้เราเรียนรู้กันและกันมากขึ้น ยังช่วยประหยัดทั้งค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ เหลือเงินเก็บไว้เตรียมแต่งงาน เรียนรู้กันและกัน ดีกว่าชีวิตพังหลังแต่งงาน ข้อนี้อีกเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ดีพอสมควรสำหรับการออกไปอยู่ก่อนแต่ง แต่คุณควรเป็นคู่รักที่คบกันมานานและวางแผนไปถึงการแต่งงานในอนาคตแล้ว บอกกับพ่อแม่ไปตรงๆ ว่า เราอยากทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะต้องแต่งงานและอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต มีหลายครั้งที่คู่รักตามขนบธรรมเนียมต้องเจอเซอร์ไพรส์หนักหลังงานแต่ง […]

5 เรื่องก่อนแต่งงานที่คู่รักควรตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันให้เสร็จ

ไม่ว่าคุณทั้งคู่จะตั้งใจอยากลองย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดู ก่อนแต่งงาน หรือจะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังเดียวกันหลังจากแต่งงานไปแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างในบางเรื่องร่วมกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ เพราะการมีข้อตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน จะนำความสบายใจมาให้คุณในเบื้องต้นอย่างแน่นอน แล้วเรื่องจุกจิกใจจะลดน้อยลง เมื่อทั้งคู่มีข้อตกลงต่อไปนี้ 1. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์ ทุกสิ่งค่ะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารเข้าบ้าน ค่าซื้อของจิปาถะ จะแบ่งกันดูแลยังไง ถ้าบ้านยังผ่อนอยู่จะต้องช่วยผ่อนไหม ใครผ่อนมากผ่อนน้อย บางคู่บอกว่าต้องจุกจิกหยุมหยิมขนาดนี้เลยหรือ ใช่ค่ะ ก็เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แล้วชีวิตจริงไม่ใช่ในละครที่จะมีพระเอกร่ำรวยมาดูแลคุณทุกอย่าง หรือจะแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ เราต้องอยู่กับโลกของความจริงค่ะ เอาเรื่องจริงมาคุยกันเลยจะได้กินอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแบบสบายใจ ไม่มีเกร็ง ไม่รู้สึกเสียเปรียบได้เปรียบ 2. หน้าที่ดูแลบ้านที่ต้องแบ่ง ยุคนี้แล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเรื่องดูแลบ้านต้องเป็นของฝ่ายหญิงเท่านั้นซะที่ไหน คุยกันเลยค่ะ เช่นเราจะมีวันทำงานบ้านด้วยกันไหม อะไรเสียอะไรต้องซ่อมจะเรียกช่างหรืออะไรยังไง ตัดต้นไม้ใครจะทำ เพราะบางอย่างผู้หญิงก็ทำไม่ไหว ผู้ชายก็ไม่ถนัดตกลงกันคร่าวๆ ไว้ก่อน อะไรช่วยกันได้ก็ลองดู แต่อย่าฝืนกำลังตัวเองซะล่ะ เพราะเดี่ยวข้าวของเสียหายไปจะเป็นเรื่อง 3. พื้นที่ส่วนตัวมีไหม ต่อให้คุณจะรักกันมากแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น คุณอาจไม่ถึงกับขีดเส้นแบ่งเขตว่าห้ามเข้ามาในโซนนี้ แต่ต้องมีมารยาทเวลาจะเข้าไปในพื้นที่ของเขา หรือแม้แต่จะเปิดกระเป๋าสตางค์ หรือหยิบดูไอแพดของเขามาเล่นก็ควรคิดสักนิดว่านั่นน่ะ พื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ ต่อให้คุณจะบอกว่า ขนาดคุณยังเปิดเผยทุกอย่าง ทำไมเขาไม่เปิดบ้างล่ะ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ […]

อยู่ก่อนแต่งให้สบายใจกับ 6 เรื่องสำคัญที่คู่รักต้องเคลียร์ให้ชัด

คงต้องยอมรับว่า ในยุคนี้รูปแบบการลองใช้ชีวิตคู่แบบ อยู่ก่อนแต่ง ในบ้านเรามีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ซึ่งบางคู่ที่ลองแล้วดีก็นำไปสู่การแต่งงานและสร้างครอบครัวร่วมกันอย่างจริงจัง แต่บางคู่ที่ลองแล้วไม่เวิร์คก็แยกย้ายกลายเป็นเพื่อน ซึ่งแปลว่าไม่ดันทุรังแต่งงานกันให้กลายเป็นครอบครัวมีปัญหา ดังนั้นเพื่อความสบายใจของคุณทั้งคู่ แพรวเวดดิ้งขอให้คุณคุยกันให้เคลียร์ใน 6 เรื่องต่อไปนี้ก่อนจะแพ็กกระเป๋ามาอยู่ร่วมชายคา เคลียร์ใจเรื่องพ่อแม่ แจ้งบอกกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่คุณเคารพถึงการตัดสินใจของคุณในการที่จะลองอยู่ก่อนแต่งกับคนที่คุณเลือกเป็นอย่างแรก อย่างน้อยแม้ท่านจะไม่เห็นด้วยแต่การแจ้งบอกคือแสดงความเคารพ ไม่ใช่อยู่ๆ นึกจะไปอยู่ก็ไป ซึ่งการบอกนี้ควรมีเหตุผลในการตัดสินใจและรายละเอียดที่อยู่สักนิด ไม่ใช่แค่แจ้งให้ทราบว่าจะย้ายไปอยู่นะแล้วจบ นอกจากนี้ถ้าเป็นไปได้ควรพาท่านไปดูที่อยู่ใหม่ของคุณสักหน่อย เพื่อความสบายใจว่าอย่างน้อยสภาพที่อยู่อาศัยก็โอเคและรู้ว่าอยู่หนใดไม่ใช่เมืองลับแล เคลียร์ใจเรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย จะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่เพิ่งซื้อหรือบ้านเก่าของใครก็ตาม อย่าลืมเคลียร์ความสบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านให้ชัดเจน ไม่เกี่ยงว่าคุณคือฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง เปิดประเด็นนี้ก่อนได้เลย ไม่มีใครว่าผิดหรืองกแน่นอน เพราะเมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้วก็ต้องช่วยกันดูแลรับผิดชอบ อย่าเข้าใจไปเองว่าบ้านเธอ งั้นเธอต้องจ่ายสิ หรือเธอคือคนอาศัยต้องจ่ายมา ถ้ารักกันจริงและอยากสบายใจอย่าคิดเอาเอง ถามให้ชัด ตกลงให้ชัวร์ มีปัญหาติดขัดต้องบอก รวมถึงจ่ายได้มากน้อยแค่ไหนอย่ากั๊ก ทำตามนี้รับรองสบายใจทั้งสองฝ่าย เคลียร์ใจเรื่องอาหารการกิน ก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า อีกฝ่ายคิดยังไงกับบรรยากาศการทำกับข้าวที่มีควันมีกลิ่นอาหารลอยในบ้านหรือไม่ชอบทำอาหารเพราะไม่ชอบล้างจานหรือเปล่า อะไรแบบนั้น ซึ่งถ้าไลฟ์สไตล์ในเรื่องนี้ต่างกันก็ต้องคุยกันแล้วล่ะ เพราะถ้าคนนึงชอบกินแต่อาหารฟู้ดคอร์ทง่ายๆ จ่ายตังค์นั่งกินให้พ้นเป็นมื้อๆ แต่อีกคนฝันถึงความเป็นคู่รักกระหนุงกระหนิงในห้องครัว ก็ต้องหาจุดตรงกลางที่ลงตัว หรือถ้าวันไหนเราอยู่บ้านด้วยกันทั้งวัน จะเอายังไงกับอาหารทั้งสามมื้อดี ถ้าทำอาหารเธอจะทำหรือเราจะช่วยกันดี เคลียร์ใจเรื่องการสื่อสารระหว่างกัน ก่อนจะอยู่ด้วยกันคุณอาจสื่อสารกันทางมือถือเช่นโทรฯ หาหรือไลน์หาตลอดๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ไปเจอมาในแต่ละวันให้กันฟัง แต่พออยู่ด้วยกันตลอดเวลา […]

keyboard_arrow_up