ทุกสิ่งที่ว่าที่เจ้าสาวควรรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ชุดแต่งงาน

account_circle

เมื่อเจ้าสาวได้พบ ชุดแต่งงาน ที่ใช่ และต้องนำชุดแต่งงานชุดนี้ไปทำให้พอดีกับรูปร่างของคุณ นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสาวต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ หรือตัดสินใจทำ

แม้ว่าคุณจะพบกับ ชุดแต่งงาน ที่คิดว่า ชุดนี้แหละที่ฉันจะใส่ในวันงาน และมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่บอกว่าชุดนี้เหมือนจะทำขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ แต่ในทางกลับกันบางอย่างนั้นก็ยังสะกิดใจเล็กๆ ว่า เอ๊ะ? เหมือนมันจะยังขาดอะไรไปอีกนิดที่จะทำให้คุณพร้อมสวยเดินเข้างานในชุดนี้

ซึ่งนั่นก็หมายความว่าว่าที่เจ้าสาวอาจจะต้องเพิ่มเสริมเติมแต่งให้ชุดแต่งงานชุดนี้ดูมีอะไรขึ้นมา โดยปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับคุณว่าที่เจ้าสาวที่ซื้อชุดแต่งงานสำเร็จรูป และสิ่งสำคัญของการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงชุดแต่งงานนั้น ว่าที่เจ้าสาวต้องจำไว้ให้ดีว่า นี่อาจจะต้องใช้คนทำมากขึ้น ใช้เวลาทำที่มากขึ้น และจำนวนงบประมาณของเจ้าสาวก็อาจจะมากขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวสายเปย์ก็ผ่านโลด และนี่คือคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับวันแต่งงานของคุณในชุดแต่งงานที่เหมาะสมกับรูปร่างของคุณอย่างไร้ที่ติ

ใช้งานเมื่อไหร่

เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยกำหนดเวลาในการปรับเปลี่ยนชุดแต่งงานของคุณ หากคุณนำชุดแต่งงานมาเร็วเกินไป บางทีอาจจะไม่ได้รับความเหมาะสมในการทำให้พอดีกับรูปร่าง เพราะว่าที่เจ้าสาวอาจจะไปลดน้ำหนักมาจริงจังหลังจากที่ได้ชุดแต่งงาน เพราะกลัวว่าจะสวยไม่ทันในชุดนั้น ซึ่งส่งผลต่อรูปลักษณ์โดยรวมของชุดและความพอดี แต่ถ้าหากคุณนำชุดแต่งงานมาช้าเกินไป ก็อาจจะมีเวลาไม่พอให้ช่างได้เปลี่ยนแปลงสร้างสรรค์ หรือร่ายมนต์ให้กับชุดแต่งงานในฝันของคุณให้เสร็จได้ทันเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ว่าที่เจ้าสาวจะนำชุดนั้นไปมอบให้กับมืออาชีพอยู่ที่ประมาณ 2-3 เดือนจากวันที่ได้ฟิตติ้งเป็นครั้งแรก และต้องจำไว้ด้วยว่าระหว่างที่มีการปรับเปลี่ยนชุดนั้นว่าที่เจ้าสาวก็ต้องไปฟิตติ้งในระหว่างนั้นด้วย ซึ่งโดยเฉลี่ยนแล้วจะมีการฟิตติ้งประมาณ 3-4 ครั้ง

มองหาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณซื้อชุดแต่งงานจากร้านไหน คุณสามารถที่จะแก้ไขปรับเปลี่ยนชุดแต่งงานได้ที่ร้านนั้น หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าร้านชุดแต่งงานที่คุณซื้อมาอาจจะไม่รับปรับเปลี่ยนชุดแต่งงานให้กับคุณได้ ซึ่งหากเป็นในกรณีนี้ว่าที่เจ้าสาวควรจะมุ่งหน้าไปหาช่างตัดเย็บผู้เชี่ยวชาญ และหากเลือกได้ก็อาจจะเลือกเจาะจงช่างตัดเย็บที่มีจุดเด่นในด้านที่ว่าที่เจ้าสาวอยากจะปรับเปลี่ยนแก้ไขไปเลย โดยอาจจะถามร้านชุดแต่งงานร้านนั้นก็ได้ว่ามีช่างหรือร้านที่แนะนำไหม เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะสามารถชี้ให้คุณเจอกับช่างมืออาชีพที่ฝีมือยอดเยี่ยมได้ และจงจำไว้เสมอว่านี่ไม่ใช่การมองหาร้านซักรีด เพราะอย่างน้อยพวกเขาจะต้องรู้ถึงความยุ่งยากซับซ้อนของชุดแต่งงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์อันซับซ้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วงหน้าอก ตะเข็บ หรือแม้กระทั้งช่วงสะโพก ที่ล้วนต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวเพื่อทำให้เกิดความสวยงามอย่างไร้ที่ติ เพราะฉะนั้นจึงดีที่สุดที่ว่าที่เจ้าสาวควรจะหาผู้เชี่ยวชาญที่เคยทำงานลักษณะนี้มาแล้ว

สิ่งที่ต้องนำไปด้วย

เมื่อคุณได้ไปพบกับช่างหรือร้านที่จะทำการปรับเปลี่ยนชุดแต่งงานให้กับคุณได้แล้ว ไม่ใช่ว่าจะเอาแค่ชุดแต่งงานไปให้ช่างเท่านั้นนะ แต่คุณต้องนำชุดชั้นในที่จะใส่กับชุดนั้น รองเท้า รวมไปถึงเครื่องประดับต่างๆ ที่คุณจะสวมใส่ในวันงานไปด้วย เพราะทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้คุณและช่างได้มองเห็นภาพรวมทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในวันแต่งงาน เช่น ชุดชั้นในและรองเท้าของคุณเหมาะสมและพอดีกับชุดแต่งงานหรือไม่ แม้กระทั่งแอคเซสซอรี่ประดับผมหรือเวลนั้นช่วยให้ภาพรวมของลุคและชุดเจ้าสาวออกมาดูดีหรือเปล่า แต่ถ้าในกรณีที่ว่าที่เจ้าสาวยังไม่มีรองเท้าคู่ที่จะใช้สวมในวันงาน ก็นำรองเท้าที่มีความสูงใกล้เคียงกันมาก่อนก็ได้ เพื่อที่จะได้ดูว่าความสูงนั้นพอดีกับความยาวของชุดหรือเปล่า

ใครจะมากับคุณ

ถึงแม้ว่าคุณจะมีเพื่อนเจ้าสาวหลายคน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีที่คุณจะขนเพื่อนเจ้าสาวทุกคนไปให้กำลังใจหรือแม้แต่ร่วมตัดสินใจในวันฟิตติ้ง แต่คุณควรจะเลือกเพื่อนที่จะมากับคุณแค่ 1-2 คนกำลังดี หรืออาจจะเป็นแม่ หรือญาติสนิทคนอื่นๆ ที่คุณจะสามารถเชื่อถือในสายตาและให้คำแนะนำกับคุณได้ ที่สำคัญอย่าลืมว่าบุคคลที่คุณจะพาไปด้วยนั้นจะต้องเรียนรู้วิธีการใส่ชุด เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือคุณได้อย่างมืออาชีพในวันงาน เพราะฉะนั้นเฟ้นหาผู้ช่วยมือดีเอาไว้ได้เลยค่า

ชุดแต่งงาน

เชื่อใจในตัวช่างหรือร้าน

ไม่ว่าคุณจะพบชุดแต่งงานที่ร้านชุดแต่งงานชั้นนำ หรือร้านเช่าชุดแต่งงานธรรดา ข้อเสนอสำหรับการปรับเปลี่ยนชุดแต่งงาน หรือแก้ไขนั้นมักจะมีอยู่เกือบทุกร้าน และแน่นอนว่าแต่ละร้านก็มีช่างมืออาชีพทำงานอยู่กับชุดแต่งงานมาเป็นเวลานาน เพราะนั้นจงเชื่อใจในฝีเข็ม และการลงกรรไกรของช่างว่าช่างจะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบชุดได้จริง โดยเฉพาะหากว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่จะอยากนำชุดแต่งงานของคุณแม่มารีใช้ใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ช่างตัดเย็บมืออาชีพที่มีความชำนาญก็จะสามารถปรับเปลี่ยนชุดนั้นได้ใหม่ โดยที่ยังใช้เนื้อผ้าของชุดเดิมอยู่นั่นเอง

อีกหนึ่งทิปส์เด็ดๆ ที่เราอยากให้คุณตามไปดู เลือกชุดแต่งงานที่ทั้งสวยคุ้มค่าและเป็นชุดในฝันที่อยากใส่ ทำได้ยังไง คลิกเลย

ภาพ unsplash.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up