เจาะความสำเร็จ 8 ปี “ชุติมา อัศนีรดากร” แม่ทัพหญิงผู้เปิดโลกความงามแห่ง EDENCOLORS

account_circle

ด้วยกระแสความงามที่ปังไม่หยุด ส่งผลให้ธุรกิจด้านความงามแทบจะทุกแขนงเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ยังดีต่อใจสาวกบิวตี้ในแง่ของการมีช้อยส์ความสวยในคุณภาพสุดปังมาให้เลือกสรรเพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนจะอัพความสวยด้วยอะไร ก็ต้องเช็กให้ถ้วนถี่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง 

ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาไปทำความรู้จักกับผู้บริหารหญิงเก่งคนสำคัญแห่งวงการความงาม “คุณแตน – ชุติมา อัศนีรดากร” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอาง เวชภัณฑ์ อุปกรณ์และ Solutions เกี่ยวกับความงาม ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมความงามล้ำสมัยและมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมเจาะลึกเรื่องราวความสำเร็จตลอด 8 ปีที่ผ่านมา และการขึ้นแท่นผู้นำในการเปิดโลกความงามให้กับคนไทย

8 ปีแห่งความปัง

“ปัจจุบัน Edencolors เดินทางมาถึงปีที่ 8 แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรามุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในวงการความงาม โดยปีนี้เราถือเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่เป็นผู้นำในตลาดธุรกิจเวชภัณฑ์ เวชสำอาง อุปกรณ์และ Solution เกี่ยวกับความงาม ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ การเป็นผู้ผลิตและการเป็น Distributor 

“สำหรับในส่วนของ Distributor โปรดักต์ของเราจะมุ่งเน้นไปที่เครื่องมือแพทย์แบบ Single-use ตัวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ ไหมโครงตาข่าย ช่วยในการยกกระชับใบหน้า และหัตถการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนในผิว หรือภาษาทางการแพทย์เรียกว่า Fully Liquid PCL Collagen Stimulator ผลิตภัณฑ์งานผิวจากเกาหลี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ซึ่งเป็นตัวที่มีชื่อเสียงมากๆ ของเรา

“นอกจากนี้ในปี 2024 เรายังได้วางแผนที่จะนำเข้าโปรดักต์ใหม่เพิ่มเติมด้วยคือ Botulinum Toxin ซึ่งมาจากเกาหลีเช่นกัน เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความงามในอนาคต ที่คาดว่างานผิวยังคงมาแรงแบบต่อเนื่องอย่างแน่นอน”  

คีย์ความสำเร็จแบบ Win-Win 

“แนวคิดในการทำธุรกิจของแตนที่สามารถใช้ได้กับทุกวงการคือ การยึดคอนเซ็ปต์แบบ Win-Win ซึ่งหมายถึงเราจะนึกถึงปลายทางคือผู้บริโภคก่อนเป็นอันดับแรก ยกตัวอย่างการนำเข้าโปรดักต์ความงามหนึ่งตัว เราต้องคิดก่อนว่าผู้บริโภคจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง อันดับต่อมาคือลูกค้าตรงของเรา นั่นคือคลินิกความงามต่างๆ ที่จะต้องได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไปใช้ในการทำงาน ทำให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจในผลลัพธ์ พร้อมได้รับการซัพพอร์ตในด้านการตลาดจากเราควบคู่ไปด้วย แบบนี้ถึงจะเรียกว่า Win กันทุกฝ่าย  

“ส่วนหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจด้านความงามให้ประสบความสำเร็จ ข้อแรกคือการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ข้อสองคือการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างแตนเป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้ว บวกกับมีการเรียนรู้เพิ่มเติม พอเรามีทั้งความถนัดและความรัก จึงนำไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญหากเรารักในสิ่งที่ทำ ความรู้สึกจะไม่ใช่การทำงาน เพราะเราจะรู้สึกสนุกและมีความสุขกับมันนั่นเอง 

“นอกจากนี้อีกข้อที่สำคัญมากๆ คือการวิเคราะห์กระแสให้เป็น ทั้งเทรนด์ปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะเทรนด์ในอนาคตที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม แต่แตนจะพยายามวิเคราะห์และคาดการณ์ เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์หรือคัดสรรโปรดักต์ได้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด เพราะการเริ่มต้นก่อนมักได้เปรียบ ซึ่งถ้าถามว่าเคยพลาดไหม ก็เคยนะคะ แต่แตนถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น”

มุ่งตอบโจทย์เทรนด์ความงามเพื่อคนไทย

“ปีนี้ถือเป็นปีของงานผิว และเชื่อว่าปีหน้าก็ยังคงเป็นเทรนด์งานผิวอยู่ ดังนั้นเราจึงรู้สึกภูมิใจที่เป็นเจ้าแรกๆ ที่นำเข้า Collagen Stimulator มาช่วยเรื่องผิวพรรณ ส่วนอีกกระแสที่กำลังมาคือการดูแลสุขภาพภายในควบคู่กับความงามภายนอก และในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า คาดว่าเรื่อง Anti-aging หรือการชะลอวัยน่าจะมาแรง ซึ่งแน่นอนว่า Edencolors มีการวางแผนทั้งระยะสั้นและยาว เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความงามเหล่านี้ อย่างในปีหน้าจะเป็น Botulinum Toxin ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นงานเกาหลีพรีเมียม ที่จะได้พบกันอย่างแน่นอนค่ะ”   

เคล็ดลับความงามฉบับ CEO

“ด้วยความที่ทำธุรกิจด้านความงามมานาน เคล็ดลับความงามข้อแรกของแตนจึงเป็นแบบที่เรารู้ดีแล้ว ความหมายคือก่อนจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ความงามใดๆ แตนจะเช็กข้อมูลอย่างละเอียด จนมั่นใจจริงๆ 

“ข้อสองคือ การเข้าใจความต้องการของตัวเอง เพราะแต่ละคนมีมาตรฐานความพอใจที่แตกต่างกัน บางคนชอบความเป็นธรรมชาติ บางคนชอบความเป๊ะ ดังนั้นเราต้องหาความพอใจของตัวเองให้เจอก่อน แล้วความพอใจนั้นๆ จะนำพาความสวยที่พอดีมาให้กับเราเอง   

“ข้อสามคือ การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพราะแตนเชื่อว่าสุขภาพภายในส่งผลต่อความสดใสภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ หรือแววตา ดังนั้นหลักๆ แตนจะเน้นการพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งตั้งเป้าเป็นมาตรฐานของตัวเองเอาไว้เลยว่าต้องนอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมง นอกจากนี้คือการดื่มน้ำ การออกกำลังกาย เรื่องอาหารการกิน และไม่ลืมที่จะตรวจเช็กสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ” 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up