NIYA The Mountaintop Typica Coffee & Pyameang Tea กาแฟและชา “ณิญา” เพื่อสังคม ฝีมือนักธุรกิจหญิงเก่ง “ณิญารัจณ์ วินิจธัญนันต์”

เปิดเส้นทางสุดแกร่งของ “คุณปุ๊ก – ณิญารัจณ์ วินิจธัญนันต์” นักธุรกิจหญิงเก่งผู้บุกเบิกกาแฟและชาจากป่าบนยอดดอย ให้กลายเป็นแบรนด์กาแฟและชาระดับพรีเมียม เป็นการต่อยอดผลผลิตคุณภาพเยี่ยมจากป่าในดอยสูงสู่ตลาดกาแฟและชา ด้วยจุดเริ่มต้นและความตั้งใจที่อยากช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชาวบ้าน และชาวเขา เป็นความต้องการที่จะส่งเสริมและสนับสนุนกาแฟและชาของไทยให้คนทั่วโลกได้ลิ้มลอง เรียกได้ว่า “ณิญา”เป็นแบรนด์กาแฟและชาเพื่อสังคม ซึ่งมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากกว่าผลกำไรทางธุรกิจ 

เส้นทางนักธุรกิจหญิงเก่ง

“ก่อนทำธุรกิจของตัวเอง ปุ๊กเคยทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง กระทั่งปี 2554 ปุ๊ก มองว่าประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดความสนใจติดอันดับโลกกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ จึงมองว่าธุรกิจโรงแรมน่าจะขยายตัวและเติบโตขึ้นอีกมากมาย ซึ่งธุรกิจเกี่ยวกับการทำความสะอาดถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยซัพพอร์ตอุตสาหกรรมโรงแรม ดังนั้นความต้องการบุคลากรที่มีทักษะและความชํานาญในเรื่องการทำความสะอาดก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปุ๊กจึงเกิดไอเดียในการทำธุรกิจนี้ขึ้น”

ธุรกิจแรกคือ Natural Clean Products  ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“สะอาด สดใส ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ห่วงใยสิ่งแวดล้อม”  และเมื่อมีน้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานแล้ว ก็
คิดต่อว่าต้องมีบุคคลากรที่มีศักยภาพสูงสุดในการทำความสะอาด จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งธุรกิจถัดมา คือ Clean for
Green ซึ่งเป็น บริษัทจัดส่งบุคลากรผู้ชำนาญงานแผนกต่างๆ เช่น พนักงานทำความสะอาดห้องพัก ( RA)  พนักงาน
ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง (PA) พนักงานเสิร์ฟ พนักงานห้องจัดเลี้ยง พนักงานห้องซักผ้า คนสวน ช่างซ่อมบำรุง
ช่างซ่อมระบบ ผู้ช่วยเชฟ  ไปตามโรงแรม โรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่างๆ เพื่อตอบรับการขยายตัวของ
ภาคธุรกิจ การบริการต่างๆ ให้เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งทั้งสองธุรกิจนี้ดำเนินกิจการมานานกว่า 12 ปีแล้ว ถือว่าประสบ
ความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้เราจัดอยู่ในอันดับต้นๆของผู้ให้บริการด้านการทำความสะอาด ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 2,200 คน

จากนั้นจึงต่อยอดเพิ่มอีกหนึ่งธุรกิจคือ Go Green Cleaning ซึ่งเป็นโรงซักรีดที่จังหวัดนครสวรรค์ รับซักรีดผ้าทุกชนิดที่ใช้ในงานของโรงพยาบาล  ในเขตภาคเหนือ ครอบคลุมจังหวัด อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร อุตรดิตถ์ แพร่ ไปจนถึงพิษณุโลก

สืบเนื่องจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมโรงแรมได้รับผลกระกระทบอย่างหนักจากการปิดประเทศ ทำให้ธุรกิจของปุ๊กก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักตามไปด้วย ช่วงนั้นปุ๊กจึงคิดหาหนทางในการหล่อเลี้ยงพนักงานนับพันคนให้อยู่รอด จึงสร้างอีกหนึ่งธุรกิจขึ้นมาคือ Cleanness ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Clean for Green ที่จัดส่งบุคลากรไปทำความสะอาดและฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคตามบ้านเรือน อาคาร และสถานที่ต่างๆ เรียกว่าเป็นทีมงานให้บริการทำความสะอาดมืออาชีพแบบครบวงจรสำหรับผู้บริโภครายย่อย ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนั้นที่ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์มากที่สุด

ต้นปี 2565 ธุรกิจการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมโรงแรมเริ่มกลับมา เนื่องจากประเทศไทยได้มีนโยบายเปิดประเทศ 
และจำนวนพนักงานของเรามีมากถึง 2,200 คน  ปุ๊กจึงได้เปิดกิจการร้านอาหาร ชื่อว่า NIYA Cuisine (ณิญา คูซีน)
ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 สาขา คือ สาขาพัทยา และสาขาสุขสวัสดิ์ 14 กรุงเทพฯ เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับพนักงาน และส่ง
เสริมสานฝันให้กับพนักงานที่มีความสามารถในการทำอาหาร ให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดธุรกิจ เพื่อให้บุคคลทั่วไป ได้มีโอกาสลิ้มรสชาติอาหารที่อร่อย สะอาด และมีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงผุ้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเมนูอาหารในร้าน ก็จะมีทั้งอาหารไทย อาหารอีสาน อาหารเหนือ และเมนูเด็ดของเรา ก็คือ ข้าวมันไก่ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษของเรา มีความอร่อยแบบเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร”

จุดเริ่มต้นของการเปิดโลกกาแฟและชา

“ด้วยความที่มีธุรกิจหลากหลาย จึงทำให้ชีวิตทางโลกค่อนข้างยุ่ง วุ่นวาย ปุ๊กจึงต้องหาเวลาผ่อนคลายและชาร์จพลัง
ให้กับตัวเอง ด้วยการปลีกวิเวกไปปฏิบัติธรรม และพาตัวเองเข้าหาธรรมชาติ ที่ดอยลังกา จังหวัดลำปาง  ซึ่งเป็นดอยที่
อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร ที่นี่เป็นเหมือนดินแดนสวรรค์สำหรับปุ๊ก เพราะสงบ สวยงาม และธรรมชาติมีความ
อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วย ผืนป่าต้นกาแฟ และต้นชาพญาเมี่ยง ที่เติบโตได้ดีโดยอาศัยร่มเงาไม้ใหญ่ในป่าบนยอดดอยและเทือกเขา เป็นระบบนิเวศน์แบบพึ่งพากัน ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งดินแดนแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตกาแฟและชาคุณภาพสูงสู่ตลาดไทยและตลาดโลกอย่างมากมายในแต่ละปี นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่นั้น ปุ๊กจึงอยากให้ผู้คนทั่วไปได้มาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและสูดโอโซนบริสุทธิ์ที่ดอยลังกาแห่งนี้ จึงได้เปิดอีกธุรกิจหนึ่ง คือ “บ้านณิญา” โฮมสเตย์เล็กๆ ที่หมู่บ้านแม่แจ๋ม อ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเสพสุขจากธรรมชาติที่แท้จริง ”

“ด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่ากาแฟพันธุ์อาราบิกาบนยอดดอยลังกาแห่งนี้ ที่มีบันทึกไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดชเสด็จเยี่ยมราษฎรบนพื้นที่ดอยสูงอันทุรกันดารเมื่อพ.ศ.2516 และทรงพบกาแฟเพียง2-3ต้นที่ชาวบ้าน
ปลูกไว้มีเมล็ดสมบูรณ์คุณภาพดี จึงมีพระราชดำริให้โครงการหลวงพัฒนาเมล็ดพันธุ์อาราบิกาดั้งเดิมขึ้นมาแจกจ่ายให้
ชาวเขาปลูกแทนฝิ่น มีการโปรยลงจากเฮลิคอปเตอร์ ทำให้มีกาแฟนับหมื่นนับแสนต้นเติบโตอยู่ในป่าบนดอยสูง และ
สร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวเขาเรื่อยมา นี่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ปุ๊กอยากจะสืบสานต่อพระราชปณิธาน ประกอบกับ
ปุ๊กเองก็เกิดความหลงไหลในความอุดมสมบุรณ์และคุณภาพของกาแฟและชาไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก จึงได้ทำการ
ศึกษาและค้นคว้า เรื่องของกาแฟและชา อย่างจริงจัง ตลอด 7 ปี ที่ผ่านมา ปุ๊กเรียนรู้ทุกขั้นตอนแบบลงลึก ตั้งแต่การ
เพาะราก การเก็บเมล็ดและใบ การคั่ว ไปจนถึงการส่งกาแฟไปวิจัย เพื่อให้รู้คุณภาพของกาแฟที่ปลูก และได้พัฒนาคัด
สายพันธุ์ทิปิก้า ที่เป็นสายพันธุ์แรกดั้งเดิมของอาราบิกาที่หายากยิ่งในปัจจุบัน ส่วนชานั้นเป็นชาอัสสัมของอินเดีย แต่มาเติบโตในป่าบนดอยสูงกลายเป็นชาป่าอย่างแท้จริง เราเรียกสายพันธุ์นี้ว่า ชาพญาเมี่ยง และมีการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นกาแฟและชาออแกนิกส์อย่างจริงจัง ปราศจากการใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง  จึงเป็นที่มาของกาแฟทิปิก้าและชาพญาเมี่ยงของณิญาจากป่าบนดอยสูง (NIYA The Mountaintop Typica Coffee &  Pyameang Tea) ชาและกาแฟคุณภาพเยี่ยม ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”

กว่าจะเป็นกาแฟและชาเพื่อสังคม

“เมื่อช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวมาถึง บรรดาพ่อค้าคนกลางและนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ เข้ามาซื้อกาแฟและชา จาก ”ไร่ณิญา” ของเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลผลิตแต่ละปีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดนั้นแสดงให้เห็นว่ากาแฟและชาจาก “ไร่ณิญา” ของเราคุณภาพดีในระดับพรีเมียมจริงๆ เพราะเราปลูกบนดอยสูง จึงทำให้ได้รับสารอาหารจากดินซึ่งมีแร่ธาตุภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ และปลูกภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ของป่า โดยอาศัยแหล่งน้ำจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นน้ำแร่ภูเขา หล่อเลี้ยงให้กาแฟและชาเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์  ที่สำคัญคือน้ำแร่ภูเขานั้นมาจากพื้นที่ใน “ไร่ณิญา” ที่เป็นผืนป่าต้นน้ำ ซึ่งหมายความว่ากาแฟและชาจะไม่โดนสารเคมีใดๆเลย ถือเป็นกาแฟและชาออร์แกนิกส์โดยแท้

เตรียมเผยรสชาติ NIYA The Mountaintop Typica Coffee &  Pyameang Tea สู่ตลาด

กาแฟทิปิก้า และชาพญาเมี่ยงจากป่าบนดอยสูงของ “ณิญา” จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้ กาแฟที่
จะวางขายมี 3 แบบด้วยกัน แบบแรกจะเป็นกาแฟสำเร็จรูปปรุงสำเร็จ (3 in 1) ที่ฉีกซองแล้วชงได้เลย และเป็นตลาด
ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันเน้นความสะดวกรวดเร็ว  แบบที่สองคือกาแฟสำเร็จรูป
แบบผง(Instant Coffee) ซึ่งแทบไม่มีคนทำอาราบิกา 100% ขายเลย ยิ่งเป็นพันธุ์แท้ดั้งเดิมแบบทิปิก้านี่ไม่มีใครทำเลย
เพราะต้นทุนสูงกว่า ส่วนมากจะเป็นโรบัสต้า หรือนำไปผสมกันเพื่อลดต้นทุน และแบบที่สามคือ เมล็ดกาแฟคั่ว (Coffee Bean) ซึ่งมีอาราบิกาอยู่ในตลาดก็จริง แต่ไม่มีสายพันธุ์ทิปิก้าขายเลย เพราะไม่คุ้มกับการทำเชิงพาณิชย์ ผลผลิตต่อไร่ต่ำ และเก็บยาก  นอกจากกาแฟก็จะมีชาพญาเมี่ยงทั้งชาขาวพญาเมี่ยงระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมที่เก็บยอดอ่อนบนสุดใบเดียวจากทั้งต้น และชาพญาเมี่ยงในระดับพรีเมี่ยมที่มาจากยอดอ่อนบนสุดสามใบด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งของดีจากดอยลังกา เพราะในหนึ่งปีสามารถเก็บเกี่ยวได้แค่เดือนเดียว และต้องเป็นช่วงก่อนหน้าฝนเท่านั้น

“แม้ทุกผลิตภัณฑ์ของเราจะเป็นเกรดพรีเมียมขึ้นไป แต่เราทำราคาให้จับต้องได้ ตั้งเป้าหมายว่าอยากให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติกาแฟและชาคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย เพราะหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ NIYA The Mountaintop Typica Coffee &  Pyameang Tea ไม่ใช่เรื่องผลกำไร แต่ปุ๊กต้องการให้ธุรกิจนี้สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน สร้างชื่อเสียงแบรนด์ไทยไปสู่ระดับโลกให้เป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน และปุ๊กเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา มั่นใจว่าเราได้ส่งต่อกาแฟและชาที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค   

NIYA The Mountaintop Typica Coffee &  Pyameang Tea คือความสุขทางใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายใหญ่ของชีวิต”