ออย อฏิพรณ์

เปิดใจ “ออย-อฏิพรณ์” ว่าที่คุณแม่แฝด 4 เตรียมขึ้นแท่นคุณแม่สุดแข็งแกร่ง

Alternative Textaccount_circle
ออย อฏิพรณ์
ออย อฏิพรณ์

พี่ธีร์ – ธีร์ทองธรรม และน้องพีร์ – พีร์ทองธรรม ตันจรารักษ์ สองซุป’ตาร์ ฟันน้ำนม วัย 2 ขวบ 9 เดือน ลูกคุณพ่อบีม – กวี และคุณแม่ออย – อฏิพรณ์ ขวัญใจพี่ป้าน้าอา เพราะความช่างพูด หน้าตาน่ารัก ทำให้มียอดแฟนๆ ติดตามในยูทูบช่อง Beam-Oil Channel กว่า 1.15 ล้านคนแล้ว วันนี้ แพรว ชวนคุณแม่ออยมาเมาท์เบื้องหลังของคู่แฝดให้ฟังแบบจุใจ

เปิดใจ “ออย-อฏิพรณ์” ว่าที่คุณแม่แฝด 4 เตรียมขึ้นแท่นคุณแม่สุดแข็งแกร่ง

พี่ธีร์ น้องพีร์…คู่แฝดแสบซ่า

“ถ้าให้พูดถึงความเหมือน สองคนนี้อารมณ์ดี ขี้เล่นเหมือนกันค่ะ เขาชอบ ร้องเพลง อย่างน้องพีร์เห็นชัดมาก คือสามารถใช้ทำนองเมโลดี้เพลงเดียวแล้วใส่ เนื้อเพลงสลับสับเปลี่ยนไปได้ทุกวัน สมมติว่าช่วงนี้เขาติดเพลง ‘Wheels on the Bus’ เขาจะใช้เมโลดี้เพลงนี้ แต่เปลี่ยนเนื้อร้องไปเรื่อย เหมือนแต่งเพลงใหม่ รู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้าง หรือบางทีออยบอกว่าร้องเพลงให้หม่ามี้ฟังหน่อย เขาก็ใส่ คำว่าหม่ามี้ในเพลงเลย น้องพีร์จึงเป็นสายครีเอต เรื่องนี้ไม่รู้ว่ามาจากพ่อไหมนะ เพราะจริง ๆ บีมเป็นนักร้อง ไม่ได้แต่งเพลง แต่สิ่งที่เขาเหมือนพ่อคือชอบยืน เท้าสะเอวเหมือนกัน น่าจะถ่ายทอดมาทางดีเอ็นเอเลยค่ะ (หัวเราะ) ส่วนนิสัยเขาดื้อ แต่หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย สมมติว่ากำลังร้องไห้ พอออยพูด เขาก็จะหยุดฟัง หรือบอกเขาว่าไปร้องไห้เข้ามุม เขาก็จะเดินไปโดยดี

ออย อฏิพรณ์

“ขณะที่พี่ธีร์เขาร่าเริง ชอบร้องเพลงเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยให้ใครเห็น อ้อ เขาร้องคนละสไตล์กับน้องพีร์นะคะ แล้วชอบพูดคำไม่เป็นภาษา สมมติออยบอก ให้พูดว่าบุ้งกี๋ เขาก็จะพูด บุ บุ กี บุ บู ปู้กี๋ กวนไปเรื่อย คือรู้ว่าต้องพูดอย่างไร แต่ไม่พูด แล้วก็เป็นสายลื่นไหลมาก ออยเคยสอนเขาว่าเวลาเปิดตู้เย็น ต้องเรียกผู้ใหญ่นะ อย่าเปิดเอง แต่บางครั้งไม่มีผู้ใหญ่ เขากำลังจะเปิด พอออย จับได้ ถามว่าพี่ธีร์ทำอะไรน่ะ เขาบอกว่า พี่ธีร์แค่จับเฉย ๆ (หัวเราะ) เป็นวิธี เอาตัวรอดของเขา เรื่องนี้ต่างจากน้องพีร์ รายนั้นถามอะไรจะตอบกลับมาตรง ๆ สิ่งที่พี่ธีร์เหมือนออยคือหัวแข็ง เป็นสายดื้อเงียบ ถ้าบอกเขาว่า พี่ธีร์ไปยืนร้องไห้ ที่อื่น ไม่มีทางทำ เขาจะยืนร้องอยู่ตรงนั้น

“ความสตรองของพี่ธีร์คืออยู่คนเดียวได้ สามารถเล่นต่อเลโก้หรือนั่งดู หนังสือนิทานคนเดียว บางครั้งเขาก็อ่านเอง ตามจินตนาการของเขา พี่ธีร์จึง ดูเหมือนเรียบร้อย ไม่ดื้อ และงอแงน้อยกว่า ขณะที่น้องพีร์ชอบวิ่งรอบบ้าน เกาะพ่อเกาะแม่ จะเอานู่นเอานี่ไปเรื่อย และงอแงมากกว่า เพราะเขาพยายาม หาเพื่อนเล่น ออยจึงต้องสอนน้องพีร์เยอะกว่า ดุเขามากกว่าพี่ธีร์ แต่เรื่องจริงคือ ถ้าหากวันไหนพี่ธีร์เขาพีคขึ้นมา นั่นคือพีคจริง แม่ก็ต้องรับบทพีคกว่า ชนิดที่ ไม่สามารถออกอากาศได้ 

ออย อฏิพรณ์

“ถ้าให้เล่าถึงมุมอ้อน สองคนนี้พอๆ กันเลยค่ะ บางทีพี่ธีร์ชอบเดินมามองหน้าใกล้ๆ แล้วจุ๊บ น้องพีร์ก็เป็นค่ะ เขาจะพูดว่า ‘รักหม่ามี้มาก’ โดยใช้เสียงสอง (ยิ้ม) ซึ่งลูกจะอ้อนออยบ่อยกว่าบีม อาจเพราะเป็นเด็กผู้ชาย เขาเลยติดแม่ ตอนนี้ก็รอ ลุ้นว่าลูกสาวจะติดพ่อไหม (ยิ้ม)

“ส่วนมุมน่ารักระหว่างพี่น้อง เขาก็มีเยอะนะ เวลาเขาเล่นกันจะเรียก สรรพนามแทนกันและกันว่าพี่ธีร์กับน้องพีร์ หรือเวลาออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน น้องพีร์เดินไปไกลแล้ว พี่ธีร์ก็จะเรียก ‘น้องพีร์รอพี่ธีร์ด้วย’ แล้วพอวิ่งไปใกล้ ๆ เขาก็จะกอดกัน ส่วนเวลาเล่นจะแบ่งของกัน บางทีก็นั่งหัวเราะกุ๊กกิ๊ก ออยรู้สึกว่า มันคือความรักระหว่างพี่น้อง พอเห็นความรักแบบนี้จึงเป็นที่มาว่าอยากให้เขา มีน้อง จะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน เพราะตอนนี้ออยอายุ 40 ปีแล้ว ห่างจากลูกเกือบ 40 ปี อยากเตรียมเพื่อน เตรียมครอบครัวให้เขา สมมติออยจากไปตอนอายุ 60 น้องพีร์กับพี่ธีร์เพิ่งอายุ 20 นิด ๆ เอง ส่วนน้องสาวอีกสองคนที่กำลังจะคลอดก็เพิ่ง อายุ 20 ปี จึงเป็นที่มาที่อยากให้พี่ ๆ น้อง ๆ อยู่ด้วยกัน ปรึกษาพูดคุยกันได้ค่ะ” 

ออย อฏิพรณ์

ว่าที่คุณแม่แฝด 4

“ตอนนี้ออยอายุครรภ์ 22 สัปดาห์ (เดือนกรกฎาคม) ความรู้สึกทางกายภาพเหมือนท้องแรก แต่ลักษณะสิ่งแวดล้อมต้องบอกว่าเปลี่ยนหมด เพราะตอนท้องแรก ออยออกจากงานเพื่อเตรียมตัวมีลูก อยู่บ้าน พักผ่อนเต็มที่ แต่ท้องครั้งนี้ต้อง เลี้ยงลูกไปด้วย ออยยังอาบน้ำ แต่งตัว พาเขาเข้านอนเหมือนเดิม ไม่รู้เหมือนกัน นะว่าถ้าท้องแก่กว่านี้จะทำไหวหรือเปล่า (หัวเราะ) ตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่า จะไม่ไหว เพราะฉะนั้นจึงยังดูแลลูกเกือบ 24 ชั่วโมง เพราะสอนเอง ลูกจึงค่อนข้าง ได้ดั่งใจ เราไม่ให้ใครมาสลับเลี้ยงน้องเยอะ เพราะเด็กอาจจะสับสนว่าเรื่องนี้แม่ ห้าม แต่คนอื่นไม่ห้าม อาจจะเกิดการสปอยล์กัน จึงรู้สึกว่าเราต้องอดทน เหนื่อยนิดหน่อย แต่คุ้มค่า

“อย่างการอาบน้ำให้ลูก เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้พูดคุยกับเขา เปิดการ์ตูนให้ดู สอนเรื่องต่างๆ ไปในตัว เป็นช่วงเวลาที่มีความหมาย ขณะเดียวกันกับพี่เลี้ยงเราก็พูดคุยกับเขาตลอดว่าถ้าน้องงอแงแล้วทำให้พี่เลี้ยงหงุดหงิด ให้เดิน หนีไปเลย ไม่ต้องพยายามคุยกับเขา แค่วางเขาในคอก พอใจเย็นแล้วค่อยกลับมา ดีกว่าอารมณ์เสียใส่ลูกเรา

ออย อฏิพรณ์

“แต่ช่วงนี้พอท้องเริ่มโตก็ต้องคอยระวังเด็ก ๆ อย่างพี่ธีร์ความที่ตัวโตขึ้น บวกกับเล่นแบบเด็กผู้ชาย ก็จะเล่นแรง บางทีกระโดดใส่ ออยต้องคอยหลบ ซึ่งหลบแต่ละทีก็เกร็งท้องเจ็บไปหมด ก่อนจะท้องน้องฝาแฝดคู่นี้ ออยเล่าให้ทั้งคู่ฟัง ตั้งแต่ขวบกว่า ๆ ว่าพี่ธีร์กับน้องพีร์เกิดมาอย่างไร เล่าตั้งแต่ว่าหม่ามี้ไปหาคุณหมอ คุณหมอนำไข่ออกมาผสมกับเชื้อของพ่อ แล้วคุณหมอก็นำมาใส่ในท้องหม่ามี้ จากนั้น ท้องก็ใหญ่ขึ้น ๆ ปุ๊ออกมาเป็นพี่ธีร์กับน้องพีร์ เขาฟังแล้วคงมีจินตนาการคิดอยู่ ในหัว หัวเราะ นั่งยิ้ม พอพูดว่าปุ๊ คงนึกภาพว่าพุงแตกออกมา (ยิ้ม)

“ทีนี้พอจะมีน้องให้เขา ก็บอกเขาว่าเดี๋ยวหม่ามี้จะไปรับตัวอ่อนน้อง ต่อไปนี้ จะอุ้มเขาไม่ได้แล้วนะ เพราะแม่จะปวดหลัง ออยบอกเขาล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือน เพราะพี่ธีร์ติดให้ออยอุ้มกล่อม เรากล่อมเขาทุกคืน เวลาจะให้กล่อมเขาจะนอน กลิ้งไปกลิ้งมา ลูบแขนเราทำหน้าอ้อนวอนแล้วพูดว่าหม่ามี้ ๆ ก็จะรู้กัน ซึ่งวันที่ออย ไปรับตัวอ่อน พอกลับมาถึงบ้าน บอกเขาว่าหม่ามี้อุ้มไม่ได้แล้วนะ พี่ธีร์ไม่งอแงเลย เขาให้ป้านุช (พี่เลี้ยง) หรือพ่ออุ้มแทน ออยคิดว่าลูกไม่ได้เสียใจ แต่บางครั้ง แม่ก็แอบเสียใจ เพราะเวลาลูกขอ เราก็อยากจะทำให้ โตขึ้นเขาคงจำไม่ได้หรอก แต่คิดว่ามันเป็นสายสัมพันธ์ที่ฝังอยู่ในใจเขา แล้วเขาจะเติบโตเป็นคนที่อ่อนโยน อบอุ่น รักครอบครัว

ออย อฏิพรณ์

“สำหรับเรื่องน้องแฝด ที่จริงออยตั้งใจมีลูก 3 คน ความที่อายุ 40 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เราก็เก็บไข่ไปเรื่อย ๆ เพราะกลัวหมด เพราะถ้าใส่เชื้อไปในไข่แล้วไม่ติด เราต้องนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง จึงบอกคุณหมอว่าขอเก็บจนกว่าคุณหมอและออย จะพอใจ เพื่อที่จะเหลือไว้ใส่ในอนาคต

“ส่วนเรื่องร่างกาย ออยดูแลตัวเองเคร่งครัด วิ่งทุกวัน กินวิตามินตามที่คุณหมอแนะนำ ไม่ดื่มน้ำเย็นเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นตัวช่วยหรือเปล่า แต่ก็ได้ ไข่มาเก็บไว้เกือบ 10 ใบ เยอะสุดเท่าที่เคยเก็บมา พอตอนที่ตั้งใจจะมีน้องคนที่ 3 ปรากฏว่าเชื้อสำเร็จได้ 2 ใบ เป็นผู้หญิงด้วย จึงมีลูกแฝดอีกคู่ ซึ่งรอบนี้ออยต้องกินยาผดุงครรภ์ด้วย เพราะอายุเยอะแล้ว คุณหมอกลัวว่าจะคลอดก่อนกำหนด เพราะตอนท้องแรกออยมีภาวะปากมดลูกสั้น อาจจะเกิดภาวะคลอดก่อนได้

“ออยคิดว่าเสน่ห์ของการมีลูกแฝดคือเขาได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปฏิสนธิ ได้เห็นหน้ากันตั้งแต่อยู่ในท้อง มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกันและกัน อย่างธีร์กับพีร์ เขาได้ออกมาเจอหน้า กินข้าวด้วยกัน ใส่เสื้อเหมือนกัน อยู่ห้องเดียวกัน เริ่ม เล่นกันเองได้ตั้งแต่ยังไม่ขวบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการมีลูกแฝดเหนื่อย เช่น ใน 3 ชั่วโมงลูกอาจตื่น 2 ครั้ง เราต้องสละเวลานอนมากขึ้น หรืออย่างเรื่อง ค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มเป็น 2 เท่า เหนื่อยนะ แต่ออยเชื่อว่าแม่ทุกคนทำได้เมื่ออยู่ ในสถานการณ์นี้”

ออย อฏิพรณ์

แม่ออยสไตล์

“ความตั้งใจของออยคือไม่ได้เลี้ยงลูกเป็นเพื่อน ออยยังเป็นคุณแม่ยุคเก่า ที่ยังอยากให้ลูกเคารพเรา มีลำดับความอาวุโสในบ้าน ถ้าสอนลูกให้เป็นเพื่อนมากไป เขาจะวางตัวไม่เป็น ยกตัวอย่างจากความสัมพันธ์ของบีมและออยก็ได้ ออยไม่เคย คิดว่าบีมเป็นเพื่อนเลย เพราะเราทั้งคู่ดูแลกันและกันแบบแฟน อะไรก็ตามที่แฟน ไม่ควรเห็น เขาจะไม่เคยได้เห็น เราไม่เคยพูดจามึงมาพาโวยใส่กัน การทำแบบนี้ เป็นการให้เกียรติกันและกัน การเลี้ยงลูกก็เช่นเดียวกัน บางบทบาทอยากให้เขารู้ว่า เราเป็นที่พึ่งของเขาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าเขาจะมีอะไรก็ตาม เช่น เวลาเขากลัวเสียง กลัวความมืด ก็จะบอกเขาว่า ‘ไม่ต้องกลัว หม่ามี้จัดการได้ทุกเรื่อง’ แต่ก็จะมีโหมดห้ามล้ำเส้น คนอื่นอาจจะมองว่าออยใจเย็น มีเหตุผล แต่ในอีกมุมบางคน ก็จะบอกว่าเป็นคุณแม่ที่ดุมาก ถ้าเด็ก ๆ เล่นแล้วทะเลาะกัน แย่งของกัน ออย จะบอกว่าแย่งไม่ได้นะ ต้องดึงคืน ถ้ายังไม่ยอมอีกก็จะเก็บของ ไม่ต้องเล่นทั้งคู่ เราต้องเด็ดขาด ถึงไหนถึงกัน เพราะอย่างที่บอก ออยอายุห่างจากลูกเกือบ 40 ปี เราคงสอนเขาได้ไม่นานหรอก พอเขาอายุ 15 ปี ออยอายุ 50 กว่า เริ่มไม่มีแรง ไปเถียงกับเขาแล้ว ออยยังอยากให้ลูกเคารพ ยังหยุดฟังที่เราพูด

“กับบีมเราไม่ถึงขนาดแบ่งหน้าที่ด้วยการพูดคุยจริงจัง แต่จะแบ่งโดย ธรรมชาติ อย่างเช่น อาบน้ำลูกก็ต้องเป็นออย เพราะบางทีเขาออกไปทำงาน กลับบ้านไม่เป็นเวลา แต่เขาก็เคยอาบน้ำให้ลูกนะคะ เขาชอบด้วย แต่อาจจะ ไม่ถนัด เขาจึงคอยเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ เช่น พออาบน้ำคนหนึ่งเสร็จ บีมก็พาไป เข้านอน กลายเป็นทีมเวิร์ค หรือถ้าวันไหนเขาเห็นออยเหนื่อย ก็จะมาช่วยอะไร เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น เทนมให้ลูก เขาจะเดินมาบอก ‘เธอไปนอนก่อน เดี๋ยว เราไปจัดการนมเอง’ ถือว่าเขาเป็นพาร์ตเนอร์ที่ใช้ได้เลยค่ะ

“ส่วนเวลาลูกทะเลาะกัน ออยไม่ได้ลงโทษรุนแรง เพียงแต่ให้เขาจำว่า นี่คือสิ่งไม่ดี หรือถ้าเขาตีอีกคนเจ็บ ออยจะบอกเขาว่า ‘เห็นไหม น้องเจ็บ พี่เจ็บ หนูเสียใจไหม’ แต่จะไม่พูดชี้นำว่าหนูไม่ได้ตั้งใจใช่ไหม เพราะรู้สึกว่าเด็กจะจำ อีกหน่อยถ้าเขาไปตีคนอื่น ก็จะอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ต้องรีบสอนตอนนี้ เพราะเขา ยังไม่มีชุดข้อมูลในการแก้ตัวอยู่ในหัว ทุกวันนี้เวลาออยถามลูกว่าใครทำผิด แล้ว เขายอมรับผิด จะรู้สึกพอใจมาก แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีการปกป้องตัวเองบ้างแล้วนะคะ สมมติเราเห็นแล้วว่าผิด แต่ไม่สารภาพ ออยก็จะบอกว่า หม่ามี้เห็นนะว่าทำแบบนี้ ใช่ไหม เขาก็จะบอกความจริงกับเรา

“นอกจากนี้ออยยังสอนเน้นเรื่องของการทำบุญ ไม่ถึงขนาดนั่งภาวนา แต่ เน้นเรื่องศีล 5 อย่างวันเกิดเขาจะพาไปทำบุญตลอด เราเชื่อเรื่องทำบุญ เหมือน การสะสมเงิน มันไม่เน่าเสีย ถ้าวันหนึ่งเราเข้าตาจน แต่อย่างน้อยก็มีบุญกุศล คอยช่วย”

ออย อฏิพรณ์

ฝาแฝดซุป’ตาร์

“ไม่คิดเลยว่าลูก ๆ จะเป็นที่รู้จักขนาดนี้ แต่อาจเป็นเพราะคนเห็นน้อง ๆ บ่อยจนรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราไปแล้ว บางคนก็เข้ามาคอมเมนต์ ว่าต้องดูทุกวัน เหมือนได้เห็นการเติบโตของน้อง บางคนก็น่ารัก คอยติง ซึ่ง ออยอ่านทุกคอมเมนต์นะคะ เพราะถ้ามีประโยชน์ก็นำมาปรับปรุง

“เวลาไปเจอคนข้างนอก ความที่เขาเล็กมาก ยังไม่รู้เรื่อง จึงไม่มีโหมด ต่อต้าน แค่งง ๆ ว่าทำไมทุกคนรู้จักเขาหมดเลย เราก็จะบอกเขาว่า ‘เวลาพี่ ๆ มาขอถ่ายรูป เขารู้จักหนูเพราะคุณพ่อเป็นดารา ถ้าหนูอยากให้พี่เขาถ่ายก็ยิ้มให้ แต่ถ้าหนูไม่อยากถ่ายก็บอกพี่เขาว่าบ๊ายบาย แล้วหนูก็เดินออกมานะลูก’ แต่ บางครั้งสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เราประเมิน บางทีน้องนั่งอยู่ในรถเข็น กำลัง ยืนรอลิฟต์ มีคนถ่ายคลิป เด็ก ๆ บอกว่าบ๊ายบาย แต่พี่ ๆ ก็ยังไม่ไป เขาก็งง ออยสงสารลูกนะ แต่ก็เข้าใจความปรารถนาดีของคนอื่น ๆ ที่ชื่นชมลูก ซึ่งเราก็ต้อง ปรับตัวไปเรื่อย ๆ”

ออย อฏิพรณ์

รักที่สุด

“ออยตั้งใจไว้แล้วว่าจะเลี้ยงดูลูก 4 คนให้เหมือนกัน เลี้ยงอย่างเต็มที่ ได้เรียนโรงเรียนเหมือนกัน ตอนนี้ก็คุยกันถึงเรื่องอนาคตกับบีมไว้แล้วว่าจะเรียน ที่ไหน ค่าเทอมเท่าไร เราวางแผนเรื่องรถ เรื่องค่าใช้จ่าย จนถึงกำลังคนที่จะมาช่วยดูแลเตรียมทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้

“ถ้าพูดเรื่องความรัก ออยไม่เคยสงสัยในความรักที่มีให้ลูกเลย ถามว่ารักใครมากกว่ากัน คงตอบไม่ได้ เพราะคนเรารักอะไรไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่ออยรักลูกมาก…มากจนไม่ต้องบอกว่ารักใครมากใครน้อย และแน่นอนว่ารักที่สุดในชีวิตและมากกว่าชีวิตตัวเอง พ่อบีมก็เหมือนกัน จะดูแลเขาให้ดีที่สุดค่ะ”  


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 985

ภาพ : @oilatiporn, @beamkawee

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up