มอส - ปฏิภาณ

ซูมชีวิต “มอส – ปฏิภาณ” ในวัยใกล้แตะเลข 5 ทำไมใครๆ ยังเรียกเขาว่า “พี่มอส”

มอส - ปฏิภาณ
มอส - ปฏิภาณ

“มอส – ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” เขาคือไอดอลแห่งยุค 90 ที่ฮ็อตข้ามทศวรรษจนมาถึง พ.ศ. นี้ ด้วยความหล่อเหลาแบบอมตะ ชนิดที่กาลเวลาทำอะไรไม่ได้ แม้วัยใกล้แตะเลข 5 แต่ใครๆ ยังคงเรียกเขาว่า “พี่มอส” อย่างเต็มปากเต็มคำ ทำไมเวลาที่ยาวนานกว่า 30 ปี ถึงไม่สามารถทำอะไร Daddy (ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ) คนนี้ได้ การเปิดใจถึงเบื้องลึกเบื้องหลังชีวิตทุกแง่มุมครั้งนี้กับ แพรว มีคำตอบค่ะ

ซูมชีวิต “มอส – ปฏิภาณ” ในวัยใกล้แตะเลข 5 ทำไมใครๆ ยังเรียกเขาว่า “พี่มอส”

รำลึกความหลัง ไอดอลยุค 90 ขาประจำปกแพรว
“ผมเคยร่วมงานกับแพรวหลายต่อหลายครั้ง ขอบอกตามตรงว่าประทับใจทุกครั้งเลยครับ แต่ครั้งที่ประทับใจมากที่สุดคือครั้งแรก ที่ผมมีโอกาสได้ถ่ายแบบขึ้นปกแพรวในฐานะ ‘พีรพล’ จากละครซิตคอมเรื่อง 3 หนุ่ม 3 มุม ซึ่งตอนนั้นกำลังโด่งดังมากๆ ถือเป็นจุดกำเนิดของ ‘มอส ปฏิภาณ’ ในวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้

มอส - ปฏิภาณ

“แม้ว่าจะต้องย้อนเวลากลับไปนานสักหน่อย แต่ผมยังจำการร่วมงานกับแพรวครั้งแรกได้ดี ยุคนั้นแพรวถือเป็นนิตยสารอันดับหนึ่ง ผมที่เพิ่งเข้าวงการบันเทิงมาเพียงไม่กี่ปี จึงรู้สึกดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับแพรว ซึ่งพอนิตยสารวางขาย ก็ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมาก คนพูดถึงกันเยอะ หลายคนชมว่าผมดูดีมากๆ ต้องขอขอบคุณทีมงานแพรวจริงๆ ที่ทำให้ผมดูดีได้ขนาดนั้น (หัวเราะ)

“หลังจากปก 3 หนุ่ม 3 มุม ผมก็ได้ร่วมงานกับแพรวอยู่เรื่อยๆ มาโดยตลอด ได้ถ่ายแบบกับเพื่อนดารานักร้องด้วยกันหลายคน แต่ครั้งที่ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ อีกครั้ง ขอยกให้กับครั้งที่ขึ้นปกคู่กับภรรยา (เกม – ดวงพร ปฐวีกานต์) ครับ ช่วงนั้นเรากำลังจะแต่งงานกัน แพรวจึงมาชวนขึ้นปกธีมคู่รัก ถือเป็นเรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย เพราะเกมเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครรู้จัก แต่แพรวกลับให้เกียรติเรามาก จึงรู้สึกดีใจมากๆ ครับ พอนิตยสารวางขายปุ๊บ เราก็รีบซื้อเลย ดูไปก็ยิ้มไปกันอยู่สองคน” (ยิ้ม)

มอส - ปฏิภาณ

บทบาทคุณพ่อลูกสอง
“ภาพครอบครัวเริ่มผุดขึ้นมาในความคิดของผมตอนอายุ 30 ปี ผมวาดฝันเอาไว้ว่าอยากมีภรรยาที่ดี อยากมีลูกสัก 2 คน เพื่อสร้างครอบครัวที่อบอุ่น เหมือนกับตอนนี้เลยครับ ต่างกันแค่นิดเดียวคือตอนแรกผมอยากมีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 1 คน และต้องยอมรับว่าช่วง 5 ปีแรกของการแต่งงาน ภาพฝันที่ว่าอาจจะยังเลือนรางอยู่ เพราะผมทำงานหนักแบบใส่เกียร์เต็มที่ เพื่อเก็บเงินสร้างครอบครัวให้ได้มากที่สุด เรียกว่าแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวเลยครับ แต่หลังจากที่ทำตามเป้าหมายสำเร็จแล้ว ภาพที่ฝันเอาไว้ก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ครอบครัวเริ่มเป็นครอบครัวจริงๆ ได้อยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตามากขึ้น

“สำหรับลูกสาวทั้งสองคนของผม ถือว่ามีนิสัยต่างกันแบบสุดขั้วเลยครับ โสน คนโตจะค่อนข้างเรียบร้อย ส่วนคนเล็ก สวรรค์ ขอยกให้เป็นจอมแสบประจำบ้าน เพราะซนมาก วี้ดว้ายตลอด จนผมคิดภาพตัวเองตอนแก่เอาไว้เลยว่าน่าจะโดนสวรรค์แกล้งแน่ๆ เช่น ใช้พ่อหยิบของให้หน่อย อารมณ์เหมือนกลัวลูกไปแล้วครับ (หัวเราะ)

มอส - ปฏิภาณ

“แต่ในมุมการเลี้ยงลูกอย่างจริงจัง ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่งนะครับ ซึ่งผมกับเกมจะช่วยกัน เราอาจมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว หรือคิดต่างกันอยู่บ้าง แต่เราจะคุยกันก่อนเสมอถึงเป้าหมายเดียวกัน คือช่วยกันดูแลลูกๆ ให้ไปในทิศทางที่ดี และทำให้เขาดูเป็นตัวอย่าง ทั้งเรื่องกิริยามารยาท อาหารการกิน สุขภาพ การเรียน และการใช้ชีวิตประจำวัน เริ่มจากเรื่องทั่วไป อย่างการสอนให้เขาทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นนิสัยเหมือนที่พ่อแม่ทำ เช่น ตื่นเช้า อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ส่วนในระหว่างวันถ้ามีกิจกรรมอื่นๆ เช่น เรียนออนไลน์ ทำการบ้าน ออกกำลังกาย เราก็จะช่วยกันจัดตารางให้เขาทำ เพื่อฝึกให้เขารู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง

“สำหรับเรื่องการดูแลสุขภาพของลูกๆ วัยนี้ ที่ต้องลงลึกในรายละเอียดเยอะหน่อย เราช่วยกันดูแลตั้งแต่เรื่องอาหารการกินว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายเพียงพอไหม การเคี้ยวอาหารของเขาเป็นอย่างไร ไปจนถึงฝึกให้เขาดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมกับเกมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะรอยยิ้มพิมพ์ใจที่มาจากฟันสวยๆ เหงือกแข็งแรง ช่องปากสะอาด ปราศจากกลิ่นปาก ถือเป็นบุคลิกภาพที่ดีอย่างหนึ่งเลยครับ

“ส่วนเรื่องอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าห่วง ขอปล่อยให้เป็นไปตามวัยตามธรรมชาติดีกว่าครับ แต่สิ่งสำคัญคือผมกับเกมจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขาเสมอในทุกๆ เรื่อง และจะทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด”

มอส - ปฏิภาณ

เคล็ดลับความหล่ออมตะฉบับแวมไพร์
“ตอนนี้ผมอายุ 48 ปีแล้วครับ พออายุมากขึ้นก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย บวกกับการทำงานอาชีพนี้ ทำให้ยิ่งต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกาย รูปร่าง หน้าตา และผิวพรรณ สำหรับการดูแลสุขภาพร่างกาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมเล่นกีฬาหลายชนิดมาก ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล และแบดมินตัน แต่พออายุเยอะขึ้น เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับเข่า ถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้เล่นกีฬาพวกนี้ไม่ค่อยไหวแล้ว ช่วงนี้ผมจึงหันไปปั่นจักรยานแทนครับ

“จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ชอบปั่นจักรยานมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ฝึกปั่นตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี คือพอจำความได้ก็ขอเงินแม่ซื้อจักรยานเลยครับ เวลาไปไหนมาไหนแถวบ้าน ก็จะมีจักรยานคู่ชีพไปไหนไปกัน เรียกว่าปั่นจักรยานมานานมากแล้ว ก่อนที่จะกลายเป็นกีฬายอดฮิตในสมัยนี้เสียอีก แต่สำหรับช่วงนี้ที่ออกไปปั่นนอกบ้านไม่ได้ ผมก็ใช้วิธีปั่นผ่านโปรแกรมเอาครับ ซึ่งสนุกไปอีกแบบหนึ่ง เพราะสามารถนัดเพื่อนๆ มาปั่นพร้อมกันได้ด้วย

มอส - ปฏิภาณ

“นอกจากเรื่องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากครับ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพเหงือกสุขภาพช่องปาก  อย่างที่เล่าไปแล้วว่าผมกับเกมเน้นเรื่องนี้กับลูกๆ ด้วย เพราะสุขภาพเหงือกคือฐานรากที่สำคัญของสุขภาพช่องปาก และถือเป็นการสร้างบุคลิกภาพที่ดีอย่างหนึ่ง จึงอยากให้เขาเริ่มดูแลเรื่องนี้กันตั้งเด็กๆ เลย เพราะผมสังเกตเห็นเพื่อนๆ วัยเดียวกันกับผมที่ละเลยเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเหงือกและช่องปาก เช่น เหงือกร่น มีกลิ่นปาก ซึ่งพอมาแก้ไขกันทีหลังก็ไม่ทันแล้ว ผมจึงมองว่าสุขภาพช่องปากเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญของชีวิต และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นดาราเท่านั้นถึงจะให้ความสำคัญกับการดูแลเหงือกและสุขภาพช่องปากนะครับ ทุกคนควรดูแลเรื่องนี้กันตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงจะดีที่สุดครับ”

 

วัยใกล้แตะเลข 5 แต่ใครๆ ก็ยังเรียก “พี่มอส”
“พอได้ยินว่าใครๆ ก็ยังเรียกผมว่า ‘พี่มอส’ ความรู้สึกแรกคือดีใจมากๆ ครับ ตามมาด้วยรู้สึกขอบคุณ ไม่เสียแรงที่พยายามดูแลตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมขยันดูแลตัวเองคือครอบครัวครับ คิดเสมอว่ายิ่งดูแลตัวเองดีเท่าไหร่ ก็จะได้อยู่กับครอบครัวไปนานๆ เท่านั้น ได้เห็นลูกๆ เติบโตไปพร้อมๆ กับพ่อที่ยังดูเหมือนวัยรุ่นอยู่ ประมาณว่าพอโสนกับสวรรค์เป็นวัยรุ่น เพื่อนๆ ของเขาอาจจะคิดว่าพ่อคือพี่ชายก็ได้ (หัวเราะ)

มอส - ปฏิภาณ

“ผลพลอยได้อีกอย่างของการดูแลตัวเอง คือยังสามารถทำงานในวงการบันเทิงได้อยู่ ซึ่งนับเป็นความโชคดีของผมด้วยนะครับ ที่เข้าวงการมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่ยังมีงานอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นละคร ซีรีส์ โฆษณา หรือพรีเซ็นเตอร์ อย่างล่าสุดเป็นงานพรีเซ็นเตอร์ยาสีฟัน Parodontax ซึ่งผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้ทำงานนี้ เพราะอย่างที่เล่าไปแล้วว่าผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพเหงือกและช่องปากเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว และตัวผมใช้ยาสีฟัน Parodontax เองจริงๆ ด้วย

มอส - ปฏิภาณ

เพราะปัญหาของสุขภาพช่องปาก หนึ่งในสาเหตุเกิดจากแบคทีเรียหรือคราบพลัคสะสมบริเวณขอบเหงือก ทำให้เกิดอาการเหงือกร่น เลือดออกขณะแปรงฟัน หรือมีกลิ่นปาก ผมขอแนะนำให้รีบดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะครับ เพราะสุขภาพเหงือกคือฐานรากที่สำคัญของสุขภาพช่องปาก ดังนั้นหากดูแลเหงือกไม่ดี หรือปล่อยปละละเลยจนมีอาการรุนแรง อาจทำให้สูญเสียฟันไปในที่สุด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ขอบอกเลยว่ายาสีฟัน Parodontax ช่วยได้จริงๆ ครับ เพราะมีส่วนผสมของโซเดียม ไบคาร์บอเนต ซึ่งเป็นเกลือที่มีองค์ประกอบแตกต่างจากเกลือปรุงอาหารทั่วไป ในปริมาณที่สูงถึง 67 เปอร์เซ็นต์ จึงช่วยขจัดคราบแบคทีเรียสะสมได้ดีกว่าถึง 4 เท่า* พร้อมช่วยลดและป้องกันปัญหาสุขภาพเหงือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ความรู้สึกสะอาดทั่วทั้งช่องปาก และช่วยทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น แถมยังมีฟลูออไรด์ที่ช่วยป้องกันฟันผุด้วยนะครับ

ยาสีฟัน Parodontax

“นี่แหละครับ เหตุผลที่ผมเลือกใช้ยาสีฟัน Parodontax มาเป็นประจำทุกวัน และอยากแนะนำให้คนรอบตัวใช้ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากต่างๆ เอาไว้ก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้ารอให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบก่อน แล้วค่อยดูแลรักษากันทีหลัง น่าจะไม่ทันการณ์ แถมยังอาจลุกลามไปถึงปัญหาเกี่ยวกับรากฟันได้ด้วยนะครับ ซึ่งถ้าต้องหาหมอล่ะก็ ค่ารักษาพยาบาลสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนดูแลสุขภาพเหงือกและฟันด้วยการใช้ยาสีฟัน Parodontax กันตั้งแต่วันนี้เลยครับ” (ยิ้ม)

ยาสีฟัน Parodontax

*เมื่อเทียบกับยาสีฟันที่ไม่มี Sodium Bicarbonate อ้างอิงจากการศึกษาทางคลินิกโดย บริษัท ซาลุส รีเสิร์ช จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่าง ส.ค. 57 – เม.ย. 58 ในกลุ่มตัวอย่าง 258 คน (อายุ 18-70 ปี) เมื่อได้แปรงฟันอย่างถูกต้อง วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลานาน 24 สัปดาห์

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up