นก จริยา จีนส์ จิรชยา

“แม่นก จริยา” ควงคู่ลูกสาวคนสวย “จีนส์ จิรชยา” เผยท็อปซีเคร็ตฉบับแม่ลูกสุดซี้

Alternative Textaccount_circle
นก จริยา จีนส์ จิรชยา
นก จริยา จีนส์ จิรชยา

หลังจากที่เคยมาเยือนปก แพรว เมื่อปี 2550 ผ่านไป 14 ปี คุณแม่นก – จริยา แอนโฟเน่ นักแสดงและผู้จัดละครมากความสามารถ ควงลูกสาวคนสุดท้อง จีนส์ – จิรชยา มาพบกันอีกครั้ง รอบนี้จีนส์โตเป็นสาวสวยแล้ว

“แม่นก จริยา” ควงคู่ลูกสาวคนสวย “จีนส์ จิรชยา” เผยท็อปซีเคร็ตฉบับแม่ลูกสุดซี้

จีนส์อัพเดตชีวิตให้ฟังหน่อยค่ะ

“จีนส์เพิ่งเรียนจบด้านภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัย King’s College London ค่ะที่เรียนด้านนี้เพราะชอบการเขียนบท ตอนแรกยังไม่รู้ว่าชอบด้านไหน แต่รู้ว่าไม่ถนัดออกกอง จับกล้อง เพราะไม่ใช่สายลุย และไม่ชอบทำงานกับคนเยอะ แต่จะชอบดูวิเคราะห์บท เป็นแนวโปรดิวเซอร์มากกว่า จีนส์เรียนจบช่วงที่เมืองไทยล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิดพอดีเป๊ะ ตอนนี้หลายโปรเจ็กต์ที่คิดไว้จึงต้องชะลอก่อน แล้วช่วยคุณพ่อดูธุรกิจโปรดักต์ผม Jonny Hair ไปพลางๆ ค่ะ ส่วนเรื่องในวงการ จีนส์ไม่ได้อยากมีบทบาทหน้าจอ แต่ก็ไม่ปิดกั้นนะคะ มีไปออกรายการสัมภาษณ์บ้าง”

สไตล์การเลี้ยงลูกของคุณแม่นกเป็นยังไงคะ

คุณแม่ เลี้ยงตามธรรมชาติเลยค่ะ สมัยลูกยังเล็ก นกหยุดงานบันเทิงอยู่กับลูกแบบเต็มที่ เราเป็นแม่มือใหม่ก็ศึกษาจากคู่มือและคนกล้ตั ว แต่สรุปได้ว่าทุกอย่างมาจากสัญชาตญาณ เพราะลูกแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราก็เรียนรู้จากลูกว่าควรจะดูแลเขาแบบไหน สิ่งที่เน้นคือให้เวลากับลูกมากที่สุด เรียนรู้จากเขาและใกล้ชิดกัน ไม่มีอะไรเป็นสูตรตายตัว ความที่ลูกอายุห่างแค่ 1 ปี ตอนนี้เจมส์ (จิรายุ) ลูกชายคนโต 27 ปี ส่วนเจมี่ (จอมภัค) ลูกสาวคนกลาง 26 ปี ขณะที่จีนส์อายุ 25 ปี

“ที่ว่าเลี้ยงตามธรรมชาติคือเลี้ยงเขาแบบเด็กธรรมดา ไม่ใช่ลูกดารา ไม่สปอยล์ มีขอบเขตให้เขา แต่พอโตก็ต้องพาไปเจอคนอื่นบ้าง เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ต้องเรียนรู้การเป็นลูกเรา ลูกๆ ทั้ง 3 คน จึงมีนิสัยเหมือนพ่อแม่มาก คือขี้อาย ไม่ชอบเจอคนเยอะ เก็บเนื้อเก็บตัว ชอบอยู่ในโลกของเขาที่บ้าน เพราะฉะนั้นบ้านจะเป็นสถานที่ที่เขาเดินเข้ามาแล้วรู้สึกว่านี่คือเซฟโซน พูดอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บจากไหนมา ก็ต้องสบายใจเมื่ออยู่บ้าน

“บ้านเราสนิทกันมาก ลูกๆ เคยบอกนกว่า หม่ามี้ไม่มีเพื่อนเลย (หัวเราะ) บางทีเขาก็อำเราว่า ‘ถ้าไอเล่นตัวขึ้นมา ยูไม่มีใครเลยนะ เพราะมีไอเป็นเพื่อนเท่านั้น’ ความจริงนกมีเพื่อนนะ แต่ชอบใช้เวลาอยู่ในบ้านมากกว่า เรารู้สึกว่าลูกเหมือนเพื่อน เพราะเลี้ยงเขาแบบนี้ด้วย ยิ่งพอเขาโต ยิ่งแชร์กันได้ทุกอย่าง นั่งคุยกันเลย 4 คนแม่ลูก อะไรใช่ไม่ใช่ เถียงกันได้

“พอลูกโตขึ้น แม้วัยจะต่างกัน แต่ก็ยอมรับความต่างว่าเจเนอเรชั่นนี้มีวิธีคิดแบบเขา ขณะเดียวกันเราก็จะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวด้วยว่าคนรุ่นแม่เจออะไรมาบ้าง หลักๆ คือต้องเคารพกันและกัน นกว่าการที่เด็กกับผู้ใหญ่คุยกัน มีประโยชน์มาก การจะไปให้เด็กรุ่นใหม่มาปรับตัวหาเราอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะโลกเดิ นไปข้างหน้า เราจะไปย้อนเข็มนาฬิกานั้นเป็นไปไม่ได้ ต้องเปิดใจกว้าง เรียนรู้เขา ไม่ฝืนโลก นกสนุกนะเวลาลูกมีข้อมูลใหม่ๆ มาบอก เช่น พอเจมี่รู้ว่าแม่ไปกินหูฉลามก็ว้ากเลย ‘ยูรู้ไหมว่าเขาฆ่าฉลามวิธีไหน’ จนแม่ต้องรีบบอก ‘จ้ะ ๆ ไม่กินก็ได้’ (หัวเราะ) หรือเวลานั่งรถไปส่งเขาที่โรงเรียนตอนเช้า เขาก็เสนอว่า ‘คุณแม่ ตอนเช้าอากาศไม่ร้อน เปิดกระจกก็ได้ ไม่ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา’ หรือ ‘คุณแม่ ถุงพลาสติกเยอะเกินไปนะ’ เรียกว่าอาจมีหลายอย่างที่เจเนอเรชั่นนกอาจจะลืมคิดไป

“ในฐานะที่เป็นผู้จัดละคร นกจะฟังความคิดเห็นของเด็กรุ่นนี้ตลอด ก่อนหน้านี้สัก 10 ปี ลูกสาวสองคนเดิ นมาบอกว่า ‘อย่าทำละครที่พระเอกปล้ำนางเอกได้ไหมมี้ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ใครคนหนึ่งมาปล้ำเราแล้วเราจะกลับไปรักมัน’ ซึ่งก็จริงนะ เราไม่ควรสนับสนุน แต่ก่อนเราไม่ได้คิด เพราะบางทีก็เผลอไผลไปกับบทประพันธ์ แล้วอารมณ์ของผู้หญิงดูละครสมัยก่อนก็ยังไม่ต่อต้าน แต่ยุคนี้ไม่ใช่ นับจากนั้นถ้าบทประพันธ์ดั้งเดิมมีมุมนี้ นกจะเปลี่ยนไม่ให้มีการปล้ำกัน จะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ นี่คือประโยชน์ของการแชร์ แม้จะต่างเจเนอเรชั่นก็ตาม

จีนส์ช่วยเสริม “เมื่อก่อนละครเกาหลียังไม่บูมมาก บางทีคุณแม่มานั่งดูด้วย เขาจะไม่เข้าใจวิธีการเล่าเรื่องหรือคาแร็คเตอร์ของตัวละคร แต่พอเปิดให้ดูว่าฉากนี้เจ๋งนะ ดูวิธีเล่าเรื่องของเขา ท่านค่อยๆ ยอมรับมากขึ้น เพราะเราก็อยากให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเหมือนกัน”

นก จริยา จีนส์ จิรชยา

ลูกสามคนนิสัยเป็นอย่างไรคะ

คุณแม่ “ลูกๆ ไม่ค่อยมีวีรกรรมหวือหวา เป็นเด็กเรียบๆ แต่เป็นตัวเอง เริ่มจากเจมส์ พี่ชายคนโต เขาก็มีคาแร็คเตอร์นะ มีฟีลของความเป็นพี่และเป็นตัวเองสูงมาก อะไรที่ไม่ชอบจะปฏิเสธทันที แต่ถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบจะทำออกมาได้ดี สมัยเด็กต้องเคี่ยวเข็ญเรื่องการบ้าน ซึ่งพอแม่จี้มากๆ เขาเดินไปข้างรั้วแล้วทิ้งสมุดทำการบ้านไว้ตรงนั้นเลย (หัวเราะ)

“ส่วนเจมี่รักสวยรักงามมาก แต่โตขึ้นเป็นผู้หญิงค่อนข้างจะแข็ง อยากพึ่งตัวเอง พูดตรง อาจเพราะเขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาที่เกาหลี (Ewha Woman’s University) ซึ่งเป็นยุคที่เกาหลีเน้นเรื่องสิทธิสตรีมาก เขาจึงจริงจัง เที่ยงตรง อะไรถูกต้อง ไม่ถูกต้อง พูดออกมาชัดเจน และมีความคิดเกี่ยวกับสังคมมาถกกับแม่บ่อยมาก

“ส่วนจีนส์เป็นสไตล์ลูกคนเล็ก สมัยเด็กทำอะไรตามพี่ๆ และซนเป็นลิง ชอบปีนป่ายหวาดเสียว แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องน่าปวดหัว เขาติดบ้าน ขี้อาย เรื่องหน้ากล้องไม่ค่อยถนัด ในเรื่องความคิดเขาจะคล้ายแม่

“ตอนที่ท้องจีนส์ นกไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นเริ่มกลับมาทำงาน กินยาลดความอ้วนอีกต่างหาก หัวใจจะวายเลยตอนรู้ว่าตั้งท้อง ไปถามหมอว่าควรจะเก็บลูกไว้หรือไม่ โชคดีที่พอหมอเช็กไปที่โรงงานผลิตยา ไม่มีผลกระทบกับเด็กนักจึงเก็บเขาไว้”

จีนส์แซวตัวเอง “เลยติ๊งต๊องนิดหน่อย”

คุณแม่นกขำ “เขาจะโดนอำว่าเป็นเพราะนกกินยาลดความอ้วนเลยติ๊งต๊อง ตอนที่เขายังเด็ก นกแอบรู้สึกผิดกับเขาด้วยนะ เพราะต้องตัดใจให้คุณยายกับพี่เลี้ยงช่วย เนื่องจากทิ้งงานมาหลายปี โชคดีที่เขาเลี้ยงไม่ยาก”

ครอบครัวแอนโฟเน่สนิทกันขนาดไหน

จีนส์ “มากนะคะ เคยคุยกับเพื่อนๆ ว่าขี้เกียจออกไปหาแล้ว เพราะอยู่บ้านก็เหมือนมีเพื่อนอยู่ด้วย ความที่พวกเราเกิดไล่ๆ กัน จึงเหมือนเพื่อนกันมากกว่า ขนาดคุณแม่ยังเหมือนเพื่อนเลย”

คุณแม่นก “เราคุยกันได้ทุกเรื่อง สนิทถึงขั้นลูกก็บ่นแม่ได้ เรื่องที่ลูกชอบบ่นนกมากที่สุดคือนกขี้กลัวมากเกินไป ทั้ง 3 คนจะบอกว่า ‘ยูเลี้ยงลูกแบบเป็นห่วงลูกมากเกินไป เดี๋ยวลูกจะไม่แข็งแรงนะ’ แต่ในความเป็นแม่ มันช่วยไม่ได้ไง จนวันหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าเขาโตแล้ว อย่างเจมี่พอเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทย เขาเดินมาบอกว่าหนูไปเกาหลีนะ แม่ตกใจเลย ไม่รู้มาก่อน คือเขาวางแผนโดยไม่บอกใคร และติดต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่จะไปเรียนไว้หมดแล้วก็ไปเลย แม่ช็อก ถึงลูกจะบอกว่าต้องให้ลูกออกไปเผชิญโลก แต่ตอนนั้นทำใจอยู่นาน แอบน้ำตาร่วงด้วย แต่สิ่งที่นกรู้คือลูกไม่ใช่เด็กเกเร ต้องขอบคุณเขาเลย และในวันที่เขาออกไปเผชิญชีวิต เขาพยายามทำให้เราเห็นว่าเขาไม่เหลวไหล และที่สำคัญคือลูกบ้านนี้ไม่โกหกแม่ ถึงขั้นพูดตรงมากจนแม่นี่แหละต้องบอกว่า ช่วยพูดซอฟต์ลงหน่อย ลูกก็จะโต้ทันควันว่าชอบให้โกหกเหรอ” (หัวเราะ)

จีนส์ช่วยเล่า “บางทีพี่ๆ พูดแข็งมาก แต่จีนส์จะเข้าใจวิธีสื่อสารมากกว่า รู้ว่าจะพูดยังไงให้พ่อแม่ไม่ช็อก เพราะเราเรียนรู้จากพี่มาเยอะ หลังๆ เวลาสองคนนั้นหาคำพูดไม่ถูก เขาจะมาถามว่าควรเรียบเรียงประโยคยังไงดี ควรใช้คำยังไงไม่ให้แย่ (หัวเราะ) จีนส์จึงเป็นตัวกลางระหว่างพี่ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ เรารู้ว่าความคิดของคนอีกรุ่นไม่สามารถเปลี่ยนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สองรุ่นต้องไปด้วยกันได้ จึงต้องมีความประนีประนอม เพื่ออยู่กันได้แบบราบรื่น ก็จะคอยอธิบายแม่ว่าพี่เขาไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอก เขาแค่สื่อสารไม่ถูก”

ถ้าถูกคุณแม่บ่น จะเป็นเรื่องอะไรคะ

จีนส์ “เป็นเชิงเตือนมากกว่าค่ะ จีนส์มักจะใจร้อนเวลาขับรถ ขี้หงุดหงิด รู้ตัวเลยว่าการขับรถมันกระทบอารมณ์ง่าย แล้วก็ทำให้ทั้งวันรวนไปเลย นอกจากนี้ก็มีลังเล ตัดสินใจอะไรไม่ค่อยได้ ในหัวจะไม่เรียง 1 2 3 เพราะตีกันไปหมด คุณแม่ก็จะเตือนว่าอะไรที่ควรมาก่อนหลัง เพราะบางทีถ้าไม่เป็นตามแผน เราก็จะกระวนกระวาย แม่ก็จะบอกให้ใจเย็น”

คุณแม่นก “เขาไม่ใช่คนขับรถเร็วนะ แต่ขี้บ่น ทำไมทางมันเป็นแบบนี้ (หัวเราะ) จึงมักจะโดนอำอีกว่าเป็นคุณป้า เขาก็จะโยนมาว่าได้จากแม่นั่นแหละ”

จีนส์ “อีกเรื่องของจีนส์คือของรกค่ะ (หัวเราะ) แม่จะย้ำเวลาไปค้างบ้านเพื่อน หรือไปไหนก็ตาม คุณแม่จะบอกว่าอย่าให้คนอื่นรู้สึกรังเกียจเรา ถ้าไปกินข้าวบ้านใครต้องช่วยจัดเก็บ ช่วยล้างจานนะ ส่วนพี่ชาย แม่จะดุเรื่องสุขภาพการนอน เพราะเขาทำงานในบริษัทเกมที่อยู่อาร์เจนตินา ต้องจัดไทม์โซนกับทีมทำงานต่างประเทศ กลายเป็นว่านอนดึกมาก บางทีก็นอนตอนเช้า แล้วเขาน้ำหนักเยอะ กินทั้งคืน แม่จะดุ ถ้าเขาไม่อยากให้แม่บ่น ก็จะไม่ลงมากินข้าวเช้า” (หัวเราะ)

คุณแม่นก “นกไม่ได้เรียบร้อยหรือเป๊ะนะ แต่เป็นมนุษย์ชอบทำงานบ้าน เก็บนู่นนี่ จนลูกบอกว่าหยุดเดินสักที ต่อให้มีแม่บ้านเราก็ทำ อยากช่วยเก็บ แล้วก็อยากให้ลูกมีระเบียบกว่านี้ ฝึกนิสัยจัดเก็บ จะได้หาอะไรง่าย แล้วมันโยงไปถึงเรื่องการจัดระเบียบต่างๆ ในชีวิต ถ้าวันไหนแม่เมื่อยปาก ไม่บ่นก็ได้” (หัวเราะ)

นก จริยา จีนส์ จิรชยา

บ้านนี้เข้มงวดเรื่องอะไรบ้างคะ

“สมัยเด็กจะเป็นเรื่องไม่ชอบให้ไปค้างบ้านเพื่อน รวมถึงการเดินทางไปกลับต้องเป็นเวลา โดยเฉพาะลูกสาว แต่พอโตมาก็ปล่อยบ้าง แต่เรื่องที่เข้มงวดตั้งแต่เด็กคือการให้เกียรติคน เราสอนให้เขารู้จักเห็นใจคนอื่น แม้กระทั่งพี่เลี้ยง หรือคนทำงานในบ้าน ต้องพูดจาดีด้วย นกแคร์มากเรื่องการให้เกียรติคน ที่บริษัท ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน ถ้าใครพูดไม่ดีใส่กันโดยไม่มีเหตุผล นกไม่ชอบ ลูกทั้งสามคนก็เป็นแบบนี้ เห็นอกเห็นใจคนอื่น เป็นพวกใจอ่อน (หัวเราะ) ซึ่งเราก็รู้สึกดีกับเรื่องนี้นะคะ เพราะไม่ชอบการมองอะไรลบ มีแต่พลังงานลบใส่กัน”

แล้วมีเรื่องไหนบ้างคะที่แม่ – ลูกถอดแบบกันมา

จีนส์ “ยิ่งจีนส์โตขึ้น แม่ยิ่งเหมือนเพื่อน เขาได้นิสัยความติ๊งต๊องจากจีนส์ คือตอนเป็นเด็กจะรู้สึกว่าแม่จริงจังกว่านี้ ซึ่งจีนส์เป็นแนวไม่มานั่งพยายามจริงจังตามคนอื่น ตรงข้าม เวลาเจอใครจริงจังเราจะพยายามทำให้บรรยากาศซอฟต์ เวลาแม่เครียดเรื่องงานก็ทำให้เขาขำ เขาก็เลยติดไปด้วย กลายเป็นพยายามติ๊งต๊องไปด้วยกัน” (หัวเราะ)

คุณแม่นก ความติ๊งต๊องที่ว่าคือเหมือนเล่นกันค่ะ เช่น บางทีนอนอยู่บนเตียง ทั้ง 3 พี่น้องจะโถมมาเลย ทับแม่จนหายใจไม่ออก คือบ้านนี้ลูกชอบแกล้งแม่ อย่างพ่อก็โดน แต่เขาไม่ติ๊งต๊องกลับ (หัวเราะ) อย่างลูกชายคนโตชอบมาจุ๊บ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ไว้หนวดยาวมากจนเป็นฤาษีแล้ว แม่ก็จะรำคาญ พอเขารู้ก็ชอบมาแกล้ง ส่วนจีนส์ก็จะมาจุ๊บหน้าเวลาที่แม่เหงื่อออก ตั้งใจให้แม่รำคาญแหละ เราก็จะดันเขาออกไป ฉันเหนื่อยนะ แต่ใจจริงคือชอบ มีความสุข มันคือมุมอ้อนของลูก เวลาที่นกไม่สบายใจหรือรู้สึกไม่ดี เราจะได้รับพลังงานจากเด็กๆ ว่าเขากำลังห่วงใยนะ เขาจะเข้ามาจับมือ คอยกอดไว้ อย่างจีนส์จะเป็นแนว ไปโยคะไหม ออกไปข้างนอกไหม คนนี้เขาจะช่วยได้เยอะ เราจะรู้สึกดีขึ้น”

จีนส์เล่าความลับให้คุณแม่ฟังไหม

จีนส์ “เกือบทุกเรื่องนะ แต่ถ้าเรื่องไหนทำให้แม่กังวลก็ไม่เล่า ตอนไปเรียนที่อังกฤษ ถ้ามีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เช่น เดินถนนนี้แล้วน่ากลัว ก็จะโทร.ไปบ่นให้พี่ฟัง แล้วบอกพี่ว่าไม่ต้องบอกแม่นะ คือไม่ใช่แค่จะโดนแม่บ่นอย่างเดียว แต่เขาจะคอยกำชับว่าคราวนี้ห้ามเดินถนนนี้แล้วนะ คือเป็นห่วงมากขึ้น

“ช่วงไปเรียนที่อังกฤษ 3 ปี ต้องคุยเฟซไทม์กับแม่ทุกวัน แม่ก็จะโทร.หาบ่อย เช่น ลงรถแล้วเหรอ วันนี้เดินถนนตรงไหน กี่นาทีถึง ถ้ากินข้าวอยู่บ้าน ก็ต้องเปิดเฟซไทม์คุยกับแม่ตลอดแทบทุกมื้อ”

คุณแม่นก “แม่ติดลูกมาก จนพี่จอนนี่อำว่าเป็นทาสลูก ซึ่งเราก็…แล้วไงอะ”

คุณแม่นกหวงลูกๆ ไหมคะ

คุณแม่ “ก็จะมีหวงตามนิสัยของแม่ แต่หนักทางห่วงมากกว่า ทั้งเรื่องการดูแลตัวเอง สุขภาพ คบเพื่อน แต่ตอนนี้โตหมดแล้ว จึงไม่ได้มีข้อห้าม ก็จะบอกแค่ว่าให้คำปรึกษาได้เท่านั้นเอง เราถอยออกมาเป็นเพื่อนลูก ซัพพอร์ตลูกเท่าที่ทำได้ ยิ่งลูกเรียนจบมาในยุคโควิด อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ง่ายเลย เราก็ยิ่งต้องประคองกันไป”

จีนส์ “ถ้าเป็นเรื่องหัวใจไม่เชิงปรึกษาค่ะ แต่จะเล่าให้ฟังว่าคนนั้นคนนี้เข้ามาคุย จะปฏิเสธเขายังไงให้ดูมีมารยาทดี คุณแม่ก็จะแนะนำค่ะ”

แม่ – ลูกส่งต่อเคล็ดลับความงามประสาผู้หญิงไหมคะ

คุณแม่นกหัวเราะนำมาแต่ไกล “ต้องบอกว่าคุณแม่ไม่ได้เรื่องเลย (หัวเราะ) จีนส์สอนทุกอย่าง เขารักสวยรักงาม ชอบออร์แกนิก อะไรดีก็เอามาบอกแม่ ส่วนแม่นี่ ขอโทษนะคะ พูดไปก็อาย บางวันนอนยังไม่ล้างเมคอัพ (หัวเราะ) เพราะเราทำงานกองถ่าย เจอแดดร้อนๆ ทั้งวัน บางทีกลับบ้านสลบไปโดยไม่รู้ตัว จีนส์เลยเป็นฝ่ายดูแลแม่ ผมต้องอย่างนี้ ผิวต้องกินอันนี้นะ แม่ก็จะแบบเหรอๆ แต่ไม่ทำสักอย่าง” (หัวเราะ)

จีนส์ “เพราะคุณแม่ทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่วัยรุ่น มีคนแต่งหน้าให้ ดูแลผิวให้ ขณะที่จีนส์ไม่ได้โตในวงการนี้ ก็ต้องหาวิธีดูแลตัวเอง

“จีนส์ให้ความสำคัญเรื่องเฮลตี้มากกว่าความสวย เรื่องกิน ออกกำลังกาย และดื่มน้ำสำคัญมาก พอยิ่งโตขึ้น กลายเป็นว่าชอบอะไรง่ายๆ อย่างช่วงที่เริ่มแต่งหน้าก็ซื้อเครื่องสำอางมาลองเยอะเลย แต่ยิ่งโตยิ่งรู้สึกว่าไม่ว่าจะมีเครื่องสำอางเยอะแค่ไหน ถ้าเราไม่ดูแลผิวให้ดีแต่แรก แต่งไปก็ไม่ติด จึงควรดูแลสุขภาพองค์รวม มันไม่ได้ทำให้แค่ผิวดี แต่ยังทำให้เรารู้สึกดี จึงพยายามออกกำลังกายให้ได้ 3 วันต่อสัปดาห์ เมื่อก่อนไปยิมมีเทรนเนอร์ ช่วงนี้ต้องออกกำลังกายที่บ้าน ก็จะเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ ตามยูทูบ แต่จะยึดเล่นเวตเทรนนิ่ง เพราะกล้ามเนื้อช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ

“ครีมกันแดดก็สำคัญมาก ต้องใช้ทุกวัน ส่วนสกินแคร์เมื่อก่อนมีหลายขั้นตอน เพราะไปดูตามคนอื่นตลอด มารู้ทีหลังว่าผิวจีนส์เป็นสิวง่าย คุณหมอผิวหนังแนะนำว่าใช้ให้ง่ายไว้ดีที่สุด ทุกวันนี้จึงตื่นเช้ามาล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ทามอยส์เจอไรเซอร์กับครีมกันแดด จบเท่านี้เลยค่ะ”

นก จริยา จีนส์ จิรชยา

คู่นี้เป็นสายช็อปไหมคะ

คุณแม่นก “โอ้โฮ เป็นกิจกรรมที่สนุกมาก เราชอบไปช็อปปิ้งทุกวันอาทิตย์ จนจีนส์แซวว่า ‘ทุกวันอาทิตย์หม่ามี้เหมือนไปโบสถ์เลย’ แต่จริงๆ คือไปช็อป ซึ่งการช็อปปิ้งของเราคืออยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตนะคะ นกติดนิสัยแม่บ้าน วันอาทิตย์ชอบไปหาผลไม้ ของกินอร่อยๆ ให้คนที่บ้าน แล้วก็จะหาดอกไม้มาแต่งบ้าน เพราะติดดอกไม้มาก ส่วนจีนส์ก็จะไปดูเครื่องสำอาง เป็นความสุขจุ๊กจิ๊กสไตล์ผู้หญิง”

จีนส์ “ส่วนเสื้อผ้าเราจะดูเยอะ ลองเยอะ แต่ซื้อนิดเดียว ถ้าซื้อเยอะจะรู้สึกผิดว่าคนเราจะต้องมีเสื้อผ้าสักกี่ชิ้นกัน อีกอย่างคือจีนส์ให้ความสำคัญกับเบื้องหลังของการผลิตเสื้อผ้าด้วยค่ะ เช่น ถ้าแบรนด์นี้เจ้าของมีข่าวมองผู้หญิงในทางที่ไม่ดีหรือเอาเปรียบเรื่องแรงงาน เราก็ไม่อยากซัพพอร์ต ก็จะคอยรายงานข้อมูลคุณแม่”

คุณแม่นกแซว “เธอเป็นมนุษย์ NGO มากค่ะ เรื่องนี้นกเห็นด้วย ถ้าอะไรปรับได้ก็ปรับตามคนรุ่นใหม่”

สำหรับแม่ ลูกๆ มีเรื่องน่าประทับใจยังไงบ้างคะ

คุณแม่นก “ลูก ๆ ทั้งสามคนอาจไม่ใช่เด็กดีที่สุด แต่ก็อยู่ในร่องในรอย ไม่สร้างความหนักใจให้พ่อแม่ เป็นเด็กที่เข้าใจสถานการณ์ได้ดี และทำให้พ่อแม่วางใจในตัวเขา

“อย่างจีนส์จะรู้สึกตลอดว่าเขาเป็นน้องเล็ก เป็นเด็กติดบ้านมาก ตอนเขาเรียนมหาวิทยาลัยที่ไทย เขารู้สึกไม่คลิกกับสิ่งที่เรียน เลยขอไปเรียนที่อังกฤษ ซึ่งวันนั้นนกค้านหัวชนฝา เพราะรู้สึกว่าลูกติดบ้านไปแล้ว อาจจะงอแง ไม่ประสบความสำเร็จ กลัวเขาจะเรียนไม่ได้ บอกว่าให้เรียนในไทยก่อน แต่เขาพิจารณาแล้ว ตัดสินใจแล้ว ขอไปใช้ชีวิตที่อังกฤษ นกเครียดมากเลยนะ แต่ปรากฏว่าพอไปใช้ชีวิตที่นั่น เขาอยู่ได้ดีและติดต่อพ่อแม่ตลอด แสดงความเป็นผู้ใหญ่ เข้มแข็ง”

จีนส์ “ก่อนไปคิดว่าคงจะร้องไห้ โฮมซิก วันที่ไปเรียน ครอบครัวก็ไปส่งทั้งหมดเลย แล้วพี่ชายอยู่ด้วยกัน 1 สัปดาห์ เพื่อให้เราปรับตัว พอพี่ชายกลับ สนุกเลยค่ะ จีนส์แทบไม่ต้องปรับอะไร ไม่โฮมซิกด้วย ปกติทุกปิดเทอมจะกลับบ้าน ตอนหลังคือไม่กลับ ขอเที่ยวก่อนนะ

“แต่อยู่ที่นั่นจีนส์มีเรื่องประทับใจในตัวคุณแม่นะ ช่วงซัมเมอร์ไทยกับอังกฤษต่างกัน 6 ชั่วโมง พอเป็นฤดูหนาวจะต่างกัน 7 ชั่วโมง แล้วบางทีจีนส์เลิกเรียนช้า ทุกคนที่บ้านชินกับเวลาต่าง 6 ชั่วโมงที่ต้องรอคุยกับเรา แต่พอเป็น 7 ชั่วโมง เขาหลับแล้ว แต่คุณแม่อยู่รอเสมอ จนกว่าจีนส์จะเดินกลับถึงที่พัก”

คุณแม่นก “มนุษย์แม่เนอะ ลูกยังไม่ถึงห้อง เราก็ยังไม่หลับ เขา รียน 3 ปี เราก็รออย่างนี้ทุกวันจนจบ”

มีคำสอนของคุณแม่ที่จีนส์นำมาใช้ตลอดไหมคะ

“คุณแม่ให้ความสำคัญกับความสตรอง สุขภาพใจต้องมาก่อนทุกอย่าง เพราะไม่ว่าเราจะตัดสินใจอะไรในชีวิตหรือต้องออกไปผจญโลกข้างนอก เราจะปลอดภัยที่สุดถ้าเราสตรอง คุณแม่สอนให้จีนส์พึ่งตัวเองได้ และมีสติตลอดเวลา ยิ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก ท่านก็อยากให้รู้จักดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่ต้องไปพึ่งใครค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 973

ภาพเพิ่มเติม : mookmake

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อบอุ่นไปด้วยความรัก กองทัพ พีค & คุณแม่นุช-ธันยวรรณ สวยระดับนางงาม

“ตุ๊ก-นิรัตน์ชญา” แม่ผู้เอาชนะภาวะซึมเศร้าหลังคลอด สู่บทบาทแม่ไอดอลสุดสตรอง

เลี้ยงลูกแบบ อัมบานี ตระกูลที่รวยที่สุดในเอเชีย เนี้ยบเป๊ะ ระเบียบจัด ประหยัดสุด

Praew Recommend

keyboard_arrow_up