มิน พีชญา

ชีวิตรักลงตัวของ ‘มิน พีชญา’ ในวัยเลขสาม พูดได้เต็มปาก “พี่โอ๊ตเป็นคนดี”

Alternative Textaccount_circle
มิน พีชญา
มิน พีชญา

“ชีวิตตอนนี้คือช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดค่ะ” มิน พีชญา วัฒนามนตรี พูดถึงชีวิตในวัยเลข 3 ของเธอด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความสุข ความสำเร็จ และความรัก ที่องค์ประกอบทุกอย่างรวมกันลงตัวพอดี

ชีวิตในปีนี้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้างคะ

“มินรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้เป็นยุคใหม่สำหรับมินเลยนะคะ เพราะตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง จากที่หยุดพักเป็นเดือน ตอนนี้กลับมางานแน่นทุกวันแล้วค่ะ อย่างตอนนี้มินมีถ่ายภาพยนตร์กับละคร ซึ่งจะออกฉายปี 64 ปีหน้าจึงเหมือนเป็นปีแห่งความหวังที่ชีวิตน่าจะฟูขึ้นมาหน่อย ไม่เฉพาะกับมินนะ หลายคนก็น่าจะคิดแบบนี้ (ยิ้ม)

“เป้าหมายหลักในการทำงานของมินยังเหมือนเดิม คืออยากทำงานอย่างมีความสุข (ยิ้ม) เหมือนอย่างที่มาทำงานกับ แพรว วันนี้ก็แฮ็ปปี้มากๆ เพราะเราต้องทำงานทุกวัน ฉะนั้นความสุขสำคัญมากนะ อย่างมีวันหนึ่งเลิก 6 โมงเช้า กลับบ้านนอนแป๊บนึงถึง 11 โมงหรือเที่ยง แล้วออกจากบ้านประมาณบ่ายโมง เพื่อไปแต่งหน้าเตรียมไปงานอีเว้นต์ต่อ ซึ่งจริงๆ งานเริ่ม 6 โมงเย็น แต่เราก็ต้องไปซ้อมคิวก่อน จากนั้นเสร็จงานตอนค่ำๆ ก็กลับบ้านไปนอน แล้วพอ 6 โมงเช้าก็ตื่นไปถ่ายละครต่อ เป็นความรู้สึกแบบ…อาบน้ำไม่ทันนอน (หัวเราะ) คือทุกอย่างรีบไปหมด แต่ความที่เราอยู่วงการบันเทิงมาพักใหญ่แล้ว ทำให้มินพอจะเข้าใจความหมายของการทำงานอย่างมีความสุข (ยิ้ม) คือเราต้องรู้จักที่จะหาสมดุลในการทำงาน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร เราก็ต้องมีสติและหาสมดุลในทุกๆ วันให้เจอ”

มิน พีชญาชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ถ้าเทียบเป็นกราฟจะเป็นแบบไหนคะ

“กราฟของมินจะเป็นแบบหยักๆ มีขึ้นมีลง แต่ภาพรวมคือขึ้นตลอดนะ เปรียบเหมือนการที่เราได้เรียนรู้ทุกๆ อย่างในชีวิต อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างในวัยเลข 1 เลข 2 และก็มีข้อดีที่เราได้พัฒนาตัวเองให้โตขึ้นใหญ่ขึ้น หรือในเรื่องการทำงาน เราก็ได้รู้ว่าเราชอบทำอะไร ไม่ชอบอะไร ซึ่งตอนแรกอาจจะคิดไปเอง แต่พอได้ทำซำ้ๆ หลายๆ ที ก็ทำให้เราเข้าใจและชัดเจนกับตัวเองมากขึ้น

มิน พีชญา

“อย่างล่าสุด มินอินกับการเล่นหนังมากๆ เล่นแล้วสนุก ไปกองถ่ายทุกวัน คือลัลลามาก เหมือนเรากำลังเห่อสิ่งนี้อยู่ เพราะมินชอบความท้าทายใหม่ๆ ชอบทำโจทย์ใหม่ๆ ไม่ค่อยชอบทำข้อสอบที่เคยทำแล้ว มันไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจ แต่แน่นอนว่าเราจะเลือกทำงานที่ชอบทุกวันไม่ได้ ก็ต้องมีเวียนสลับกันไป

“หรือปีที่แล้วมินไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยมาก ทั้งงานที่คานส์ แล้วก็ยิงยาวอีกหลายๆ ประเทศ เหนื่อยนะ แต่สนุก ซึ่งมินไม่ได้ตั้งเป้าว่าตัวเองจะต้องเป็นไปถึงจุดนั้นจุดนี้นะคะ หรืออย่างมีคนถามว่ามินจะอยู่ในวงการนี้อีกนานไหม ก็ตอบได้เลยว่ามินไม่อยากออกจากวงการ เพราะมินรักการทำงานตรงนี้เหมือนลูก เป็นอาชีพที่เราสร้างมากับมือ ไม่ได้พึ่งพาครอบครัว ไม่ได้ขอเงินปะป๊า (สุพัฒน์ วัฒนามนตรี) ตรงกันข้าม ตอนนี้มินเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับคุณพ่อแล้ว และเป็นกำลังหลักของครอบครัว ทำให้มินรักอาชีพนี้ และรักอุตสาหกรรมนี้มาก อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับวงการบันเทิงไทยในอนาคต

มิน พีชญา

“อย่างละคร มินไม่เคยนับว่าเล่นมาแล้วกี่เรื่อง แต่ทุกเรื่องเหมือนลูก (หัวเราะ) เรารักตัวละครนั้นมาก กว่าจะคลอดออกมาเป็นละครหนึ่งเรื่องได้ มินจึงภูมิใจในทุกผลงานที่ทำ เพราะเราตั้งใจทำงานมาก ค่อนข้างเป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์เลย เรารู้ว่าเราเต็มร้อย ฉะนั้นทุกครั้งที่กลับไปดูผลงานเก่าๆ ก็จะอมยิ้มได้เสมอ” (ยิ้ม )

ชีวิตวัยเลข 3 ในมุมมองของมินเป็นอย่างไรคะ

“อืม…อ้วนง่ายขึ้นค่ะ (หัวเราะ) ปีนี้อายุ 31 แล้ว พูดจริงๆ นะ นี่เป็นสิ่งเดียวที่รู้สึกเลย เราทำงานไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รู้สึกถึงความรุ่งเรืองเต็มที่ แต่สิ่งเดียวที่สัมผัสได้ว่าเปลี่ยนไป คือเมื่อก่อนกินอะไรก็ไม่อ้วน แต่เดี๋ยวนี้ตื่นตอนเช้า จากที่เคยพุงแฟ่บหายไปได้ชั่วข้ามคืน ตอนนี้พุงยังอยู่ (หัวเราะ) จากที่ร่างกายเผาผลาญได้ 100 ตอนนี้อาจจะเหลือ 80 เศร้านะ จึงต้องดูแลสุขภาพตัวเองแบบจริงจังขึ้น คำว่าสุขภาพดีไม่ใช่การกินคลีน ออกกำลังกาย หรือนอนเร็วอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่หมายถึงทุกๆ อย่างของชีวิตต้องดี

มิน พีชญา

“อย่างช่วงนี้มินรู้ตัวเองว่าแต้มในการพักผ่อนน่าจะติดลบ เพราะนอนดึกนอนน้อย ก็จะไปเพิ่มแต้มในการกินกับการออกกำลังกาย คือกินดีอยู่ดี หมายความว่ากินผักผลไม้ให้ครบ จากเมื่อก่อนที่เขามีอะไรให้กินก็กินไปตามนั้น กลายเป็นว่าไม่ค่อยได้กินผักผลไม้ แถมยังรีบๆ กินเพื่อทำงานต่อ ทุกอย่างรีบไปหมด ซึ่งชีวิตที่รีบเกินไปหรือช้าไปไม่ดีหรอก เราต้องรู้ตัวเองแล้วว่าอะไรคือพอดีสำหรับเรา แล้วก็ต้องมีวินัยในการออกกำลังกาย อย่างเมื่อเช้าก็โยคะตอน 8 โมงแล้วค่อยมาทำงาน เดี๋ยวกลับบ้านไปก็ยืดเส้นอีกหน่อย ตัวจะได้ไม่ยึด ไม่ปวดไหล่ปวดคอ (ยิ้ม)

มิน พีชญา

“มินเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก ทำให้พอรู้วิธีจัดการร่างกายตัวเองบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องมีเทรนเนอร์ช่วยนะคะ เพราะมินเชื่อว่าถ้าอยากเก่งเรื่องอะไร ให้คนเก่งมาสอนจะเป็นเร็ว ถ้างมเองอาจต้องใช้เวลา หรืออาจพบว่า อ้าว ทำผิดมาตลอด (หัวเราะ) มินเคยเล่นฟิตเนสเองแล้วกล้ามขึ้นผิดมุม สุดท้ายต้องละลายกล้าม คือปล่อยตัวแป๊บหนึ่ง แล้วเริ่มสร้างกล้ามใหม่ ฉะนั้นจึงต้องมีเทรนเนอร์ช่วยดูแล ทั้งโยคะ ฟิตเนส และเรื่องอาหารด้วยค่ะ โดยหลักๆ เล่นฟิตเนสกับโยคะสัปดาห์ละ 5-7 วัน เสริมด้วยวิ่งกับว่ายน้ำบ้าง”

ชีวิตรักลงตัวของ ‘มิน พีชญา’ ในวัยเลขสาม พูดได้เต็มปาก “พี่โอ๊ตเป็นคนดี”

อีกองค์ประกอบสำคัญของชีวิต “ความรัก” ตอนนี้เป็นอย่างไร คะ

“ดีค่ะ (ยิ้ม) มินเชื่อเรื่องหนึ่งนะว่า ความรักที่ดีจะต้องหนุนนำให้เราก้าวหน้า เพราะมินเป็นผู้หญิงทำงาน มีการวางแผนชีวิตตัวเองและครอบครัวมาตลอด ในอดีตอาจจะมีอะไรที่ดึงเราออกไปจากเส้นทางที่เราวางไว้ หรืออาจจะทำให้เราเซไปในลู่ทางอื่น เราก็เลือกไม่ไปต่อ แต่ปัจจุบันทุกอย่างลงตัวมากๆ ความรักเป็นอะไรที่ดี น่ารัก แล้วก็เรียบง่าย มินไม่เคยต้องกังวลว่าพี่โอ๊ต (พิทักษ์ สภาธรรม) จะไปไหน ทำอะไร เพราะค่อนข้างสบายๆ ซื่อสัตย์ และเป็นคนดีค่ะ ซึ่งพอคบกันแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้ ก็ทำให้เรามีสมาธิในการทำงาน ไม่เคยต้องจู้จี้จุกจิก แล้วมินก็ไม่ใช่คนคอยตามอยู่แล้ว ฉะนั้นแค่รู้ว่าเขาปลอดภัย มินก็โอเค (ยิ้ม)

มิน พีชญา

“มินเป็นแฟนที่ค่อนข้างชิลมาก (หัวเราะ) และเราเป็นคนทำงานด้วยกันทั้งคู่ ฉะนั้นอะไรที่จะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ เราจะไม่ทำ จริงอยู่ในช่วงปีแรกที่คบกันอาจมีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้คือช่วงที่ดีที่สุดเลยค่ะ (ยิ้ม) และมินได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักด้วยว่า ไม่มีหรอกคนที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างบนโลกนี้ มันอยู่ที่การมองเห็นของเรา ซึ่งก็คือทัศนคติของเราที่เติบโตขึ้นในแต่ละวัน ฉะนั้นการศึกษาดูใจกัน คือการที่เราเรียนรู้กันและกันว่าคุณมีข้อดีอย่างไร มีอะไรที่ฉันจะซัพพอร์ตคุณได้ แล้วเราก็ให้เกียรติและมีเมตตาต่อกัน

มิน พีชญา

“เราจะไม่ตัดสินว่าเธอต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ฉันจึงจะรักเธอ มินมีมุมมองที่ค่อนข้างเปิดกว้างมานานแล้ว ไม่ได้ตั้งว่าแฟนฉันต้องเป็นแบบนี้ๆ จนวันหนึ่งได้มาเจอคนที่ดี เราก็ถามตัวเองนะว่า แล้วฉันดีพอที่จะมีใครสักคนในชีวิตหรือยัง ฉันเติบโตพอที่จะดูแลใครได้หรือยัง ฉันเข้าใจตัวเองมากพอที่จะเข้าใจผู้อื่นได้หรือยัง ซึ่งในบางเรื่องเราอาจจะไม่ได้ถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็ไม่ได้ถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเรารักกัน มันจะเยียวยากันเอง มินคิดว่า ไม่มีหรอก…อะไรที่แก้ไม่ได้ เพราะถ้าคนสองคนรักกันจริงๆ มันจะชนะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สาม สี่ ห้า ถ้าทั้งสองฝ่ายมั่นคงพอก็จะเดินไปด้วยกันได้”

มิน พีชญา

เวลาอยู่กับแฟนหวานแค่ไหน

(หัวเราะ) “เพื่อนมินบอกว่าเวลามีแฟนมินจะขี้อ้อน ไม่เหมือนเวลาปกติ (หัวเราะ) แต่แม่ก็บอกนะว่ามินขี้อ้อน ชอบนอนตักแม่ ซึ่งมินคิดว่า เวลาที่เราอยู่กับคนที่ไว้ใจ เราสามารถปล่อยตัวได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จนเราเป็นเหมือนลูกแมว (หัวเราะ) ส่วนเรื่องอนาคต มินไม่ได้ตั้งเป้าไว้ รู้แต่ว่าปัจจุบันดีมาก มินเชื่อว่าปัจจุบันที่ดีจะสร้างอนาคตที่ดีเช่นกันค่ะ”


ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 963

ภาพเพิ่มเติม : minpechaya

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นานๆ จะหวานที “มิน พีชญา” อวยพรวันเกิดแฟนหนุ่ม ไฮโซโอ๊ต พิทักษ์ สภาธรรม

มุมนักสะสมของ ‘มิน-พีชญา’ แฟนตัวยง Bvlgari สุดยอดแบรนด์เครื่องประดับ

มิน-พีชญา สวมเครื่องเพชร 100 ล้าน เดินพรมแดงคานส์ ในฐานะนักแสดงหนังจีน

Praew Recommend

keyboard_arrow_up