account_circleหากพูดถึงนักแสดงน้องใหม่ที่กำลังมีชื่อเสียงและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คุณยายแต๋ว – อุษา เสมคำ ผู้รับบท อาม่า ในภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า ที่แม้จะประสบการณ์ทางการแสดงน้อยที่สุด เพราะไม่เคยแสดงภาพยนตร์หรือละครยาวๆ มาก่อน แต่ทักษะการแสดงทำลายล้างสูง ทำเอาผู้ชมเสียน้ำตากันไปเป็นปีบๆ
สำหรับคุณยายแต๋ว หรือ อุษา เสมคำ ปัจจุบันอายุ 78 ปี สำหรับชีวิตก่อนหน้านี้เป็นแม่บ้านธรรมดาๆ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน จนกระทั่งมีคนชักชวนให้ไปออกกำลังกายที่แถวสะพานสูง พอเป็นเล่นได้สักพักหนึ่งก็มีโมเดลิ่งทาบไปเล่น อาม่า คาเฟ่ หลังจากนั้นก็ได้งานโฆษณา ถ่ายกับ หมาก-ปริญ กระทั่งได้มีคนชักชวนให้มาแคสติ้งภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า ส่วนตัวไมมั่นใจว่าจะได้เพราะเห็นคนมาสมัครกันเยอะ แต่ก็มาลองๆ ดู ผู้กำกับคนชอบ เลยติดต่อให้เจอกับ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบมาก่อนเลยว่า บิวกิ้นคือใคร
เมื่อพูดถึงการทำงานในเรื่องนี้คุณยายแต๋วเล่าว่าต้องทำการบ้านเตรียมตัวอย่างหนัก ด้วยการคัดบทด้วยลายมือตัวเองทุกหน้า เพื่อทำความเข้าใจกับบทอาม่าที่ได้รับ
“ด้วยความที่ตัวจริงเราเป็นคนสนุกร่าเริง ซึ่งตรงข้ามกับบท อาม่า ที่ได้รับในหนัง ก็เลยต้องพยายามปรับบุคลิกทุกอย่าง บทนี้ค่อนข้างยาก เลยกังวลหลายอย่าง กลัวพูดผิด กลัวทุกคนต้องมารอ ก็เลยพยายามคิดว่าว่าเราจะทำอย่างไรให้จำบททุกอย่างได้ ก็เลยใช้วิธีจดคำพูดทีละคำ จดทุกอย่างว่าเราจะพูดกับใครช่วงไหน ขีดเส้นใต้แต่ละบท เพื่อทำความเข้าใจจนจบเล่ม พอทบทวนจนจำได้ คำพูดของอาม่าก็ค่อยๆ ซึมเข้ามาในตัวเรา ตอนจะนอนบทต่างๆ มันจะเข้ามาในสมองเรา จนจำบทได้หมดเลย เพราะมันอยู่ในสมองไปแล้ว
วันแรกที่ได้มาเจอบิวกิ้นครั้งแรก ยอมรับว่าไม่รู้จักเขามาก่อน แต่หลานๆ ที่บ้านบอกว่า เขาเป็น นักร้อง นักแสดงที่ดังมาก พอได้ร่วมงานกัน ได้เห็นความตั้งใจและเสน่ห์ของเด็กผู้ชายคนนี้ ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมบิวกิ้นถึงเป็นนักแสดงที่โด่งดังและมีคนรักมากขนาดนี้ แม้แต่เราเองยังรู้สึกรักและผูกพันกับเขาเหมือนเป็นหลานแท้ๆ รู้สึกประทับใจ เพราะเขาน่ารัก เหมือนได้อยู่กับหลานตลอดเวลา เขาคุยแหย่เล่นกับเราให้ไม่เหงา ทำให้เราได้หัวเราะสนุกสนาน แต่พอเริ่มทำงานคือจริงจัง ตั้งใจมาก สำหรับการทำงานกับคุณพัฒน์ประทับใจมากค่ะ เขาเป็นผู้กำกับที่น่ารักมาก เขาจะเดินเข้ามาให้กำลังใจเราตลอดเวลา บางทีเราเริ่มเหนื่อย แค่มองตาเขาก็จะรู้ จะบอกให้เราพักแล้วค่อยเริ่มต้นกันใหม่ ความยากอีกอย่างในหนังเรื่องนี้คือต้องโกนผม ตอนแรกแอบลังเล แต่เพื่อให้สมบทบาท ก็เลยตัดสินใจโกนผมจริง เพราะอยากถ่ายทอดความรู้สึกของอาม่าในหนังให้ออกมาให้ได้ อยากจะชวนทุกๆ ท่านที่อยู่ในสถาบันครอบครัว ให้เข้าไปดูหนังเรื่อง “หลานม่า” กันนะคะ ดูแล้วคุณจะรักครอบครัวขึ้นเยอะมาก บ้านไหนมีคนแก่ชรารอยู่ที่บ้าน ลองชวนไปดูหนังเรื่องนี้ด้วยกัน รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอนค่ะ”
ข้อมูลจาก GDH / เพจ มนุษษย์ต่างวัย