เจน-ทิพย์วิภา

ทำในสิ่งที่ชอบด้วยใจรัก เจน-ทิพย์วิภา ตั้งเป้าพา ลาสเทล เข้าสมาคมโอต์ กูตูร์

account_circle
เจน-ทิพย์วิภา
เจน-ทิพย์วิภา

พบกับ “เจน-ทิพย์วิภา กิตติ์อัครานนท์” หญิงสาวที่หลงใหล และรักในการออกแบบชุดเจ้าสาว เธอเป็นผู้ก่อตั้ง “ลาสเทล (L’Astelle)” แบรนด์ห้องเสื้อระดับโอต์ กูตูร์ หนึ่งเดียวในประเทศไทย

กว่าจะมาเป็นชุดเจ้าสาวสุดหรูที่เราเห็น ต้องบอกเลยว่า “เจน-ทิพย์วิภา กิตติ์อัครานนท์”  ตั้งใจเป็นอย่างมากในทุกๆ ขั้นตอน เธอได้ทุ่มทุนกว่า 20 ล้านบาท ในการขนชุดแต่งงาน และ นางแบบกว่า 10 ชีวิต รวมถึงเชิญคนดังทั้งไทยและเทศไปชมแฟชั่นโชว์เปิดตัว “Love Sonnet” คอลเล็คชั่นแรกของลาสเทลที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เจน-ทิพย์วิภา

แพรวชวนคุณเจนมานั่งคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่จะมาเป็นลาสเทล และเป้าหมายที่เธอตั้งใจไว้ว่าอยากจะพาแบรนด์เข้าสู่สมาคมโอต์ กูตูร์ ซึ่งการที่จะเป็นหนึ่งในนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปัจจุบันมีเพียง 15 แบรนด์ทั่วโลกเท่านั้นที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรมฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ

ทำในสิ่งที่ชอบด้วยใจรัก เจน-ทิพย์วิภา ตั้งเป้าพา ลาสเทล เข้าสมาคมโอต์ กูตูร์

เจน-ทิพย์วิภา

ก่อนจะมาเป็นลาสเทล

ก่อนจะเริ่มทำแบรนด์ เจนเรียนจบแฟชั่นดีไซน์ที่ London College of Fashion ประเทศอังกฤษค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เรียนที่มหิดล พอรู้สึกไม่ว่าไม่ใช่ก็ขอที่บ้านไปเรียนต่อที่อังกฤษ ตอนเรียนก็ได้เรียนออกแบบชุดผู้หญิงทุกชนิดเลย แต่ที่ชอบมากที่สุดคือชุดราตรี กับชุดแต่งงาน ซึ่งเจนก็ใช้เป็นโปรเจ็คในการเรียนจบด้วยค่ะ

กว่าจะจบก็หนักหนาเอาการอยู่ค่ะ อย่างตอนช่วงปี 1 และ ปี 2 งานหนักมาก แต่เราก็ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะว่าเจนเป็นคนที่เลือกมาเรียนเอง แต่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือพอมีปัญหาเจนจะไม่ค่อยร้องไห้ เพราะเรารู้สึกชอบที่ได้ลงมือทำ

พอมาปีสุดท้ายที่เราจะต้องทำโปรเจ็คจบ ซึ่งเจนเลือกชุดแต่งงานมาทำ ต้องบอกเลยว่าทำไปแล้วรู้สึกเหนื่อยมาก เคยคิดว่าจะไม่เอาแล้วเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเราตื่นตั้งแต่ตี 5 มาทำงาน เข้าเรียน 8โมง พอเลิกเรียนก็กลับไปทำงานต่อถึง 4-5 ทุ่ม เหนื่อยมากๆ แต่ละวันมีเวลาพักแค่ 5 นาที ซึ่งทุกชุดเจนเป็นคนออกแบบเอง ตัดเอง ตกแต่งรายละเอียดเอง ซึ่งต้องทำทั้งหมด 6 ชุดด้วยกันค่ะ

ในช่วงระหว่างเรียนเจนมีโอกาสได้ไปฝึกงานกับห้องเสื้อกูตูร์แบรนด์หนึ่ง ซึ่งที่นี่เจนได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น ทั้งเนื้อผ้าและการออกแบบ ได้เห็นเทคนิคการตัดเย็บแบบใกล้ๆ

พอเรียนจบ เพื่อนก็บอกว่า แบรนด์ที่เราชอบซึ่งก็เป็นแบรนด์ที่เราฝึกงานนี่ล่ะรับสมัคร เจนก็เลยรีบไปสมัครเลย สรุปว่าเรียนจบก็ได้ทำงานต่อเลย ซึ่งเจนก็อยู่กับแบรนด์นี้มาเกือบปีเลยค่ะ แต่ทำไปได้สักพัก คุณแม่ก็อยากให้กลับมาอยู่ไทย ใจจริงแล้วเราไม่อยากกลับเลย แต่ท่านก็อยากให้กลับมาช่วยธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งคุณแม่ถึงกับบินมารับเจนที่อังกฤษเลยค่ะ

เจน-ทิพย์วิภา

หลังจากกลับมา คุณแม่ก็ให้มาลองช่วยทำงาน ซึ่งที่บ้านเจนเปิดเป็นโรงงานรับผลิตกางเกงยีนส์ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ ผลิตครั้งหนึ่งเป็นพัน เป็นหมื่นตัว เจนมาลองช่วยคุณแม่ทำงานไปสักประมาณ 6 เดือนก็รู้สึกว่าไม่แฮปปี้ มันเป็นอะไรที่คนละโลกกับเราเลย มันต่างจากงานที่เราเคยทำมากๆ เพราะก่อนหน้านี้เราออกแบบหนึ่งชุด ที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งทั้งหมดมันเป็นงานศิลปะที่เราชอบ

แต่ในระหว่างที่ช่วยงานที่บ้าน เจนก็ค่อยๆ ออกแบบชุดไปเรื่อยๆ ด้วยค่ะ เจนเคยคิดว่าอยากจะทำงานที่แบรนด์ห้องเสื้อกูตูร์ที่เราเคยทำเก็บเป็นประสบการณ์ก่อนสัก 4-5ปี แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าโอเคละ ก็เลยออกมาทำแบรนด์ ลาสเทล (L’Astelle) ของตัวเองค่ะ

Love Sonnet คอลเล็คชั่นแรกของลาสเทล

คอลเล็คชั่นแรกของลาสเทลคือ “Love sonnet” ซึ่งเจนได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากงานสถาปัตยกรรมในโบสถ์ และมหาวิหารของประเทศแถบยุโรปค่ะ งานส่วนใหญ่ของลาสเทลจะมีงานศิลปะเป็นหลัก

ทุกชุดของลาสเทล เจนจะเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด แต่ละชุดใช้เวลาทำนานมาก กว่าจะออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจ ซึ่งชุดที่ใช้เวลามากที่สุดคือชุดฟินาเล่ที่ มิเรียม ศรพรหมมาศ ใส่ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,700,000 บาทค่ะ ทั้งนี้เจนยังได้นำคอลเล็คชั่นแรกไปจัดแฟชั่นโชว์ที่ InterContinental Paris le Grand กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย

จุดเด่นของลาสเทล

จุดเด่นของลาสเทลคือ งานปักค่ะ รวมถึงผ้าที่เราทำมาใช้ไม่ว่าจะเป็นผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส และผ้านำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งชุดเจ้าสาวของลาสเทลทุกชุดจะนำผ้ามาตัดที่ไทย แต่ส่งไปปักที่ฝรั่งเศส 100% เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ

นอกจากนี้เรื่องงานออกแบบก็เป็นจุดเด่นของลาสเทล เจนจะใช้เวลาออกแบบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะออกมาสวยที่สุด ซึ่งใช้เวลาขั้นต่ำอย่างน้อย 3 เดือน จากนั้นก็จะส่งไปปักที่ฝรั่งเศสซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนอยู่ที่ว่าชุดนั้นยากแค่ไหน มีดีเทลเยอะอีกไหม

เจน-ทิพย์วิภา

อย่างลูกค้าคนแรกของเจนเป็นเจ้าสาวชาวเกาหลีค่ะ เขาเห็นผลงานเราแล้วชอบมากๆ ก็เลยติดต่อมา ชุดนี้เจนมีเวลาทำแค่ 2 เดือน ซึ่งในระหว่างออกแบบเจนก็ได้คุยกับเขาว่าจะต้องมีการปรับแก้ตรงไหน และ อยากเพิ่มตรงส่วนไหนอีกบ้าง พอออกแบบเสร็จก็รีบส่งไปปักที่ฝรั่งเศส แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดและจะต้องมีการแก้ไขชุดด้วย เจนจึงต้องรีบออกวีซ่าแบบเร่งด่วนให้ทีมบินไปรับชุด และกลับมาวันนั้นเลยเพื่อนำแก้ไขที่ไทย

สรุปชุดนี้เจนคิดราคาเขา 200,000-250,000 บาท แต่แค่ค่าตัดก็ประมาณ 2 แสนกว่าๆ แล้ว ยังไม่รวมกับค่าวีซ่า และ ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอีก งานนี้จึงเป็นบทเรียนของเจนว่าควรใช้เวลาถึง 3 เดือนขึ้นไปเผื่อมีเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ แต่สุดท้ายก็ทันเวลานะคะ ลูกค้าแฮ็ปปี้มากๆ ซึ่งตอนนี้ลูกค้าท่านนั้นก็ได้แนะนำเพื่อนๆ มาอีกประมาณ 4-5 คนเลยค่ะ

แบรนด์ไทยหนึ่งเดียวที่ได้ทำชุดให้เชื้อพระวงศ์ใส่

เจ้าหญิงมาเรีย-โอลิมเปียแห่งกรีซและเดนมาร์ก
เลดี้คิตตี้ สเปนเซอร์

เจนรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่เราเป็นแบรนด์ไทยหนึ่งเดียวที่ถูกเลือก ตอนแรกพอรู้ว่าเป็นเจ้าหญิงใส่คือกรี๊ดเลย แล้วพอไปบอกทีมงานพวกเขาก็ดีใจมากๆ

พา “ลาสเทล” เข้าสมาคมโอตกูตูร์

เจน-ทิพย์วิภา

เจนตั้งใจว่าในอนาคตอยากจะไปเปิดช็อปที่อังกฤษ อยากทำทีมแบบจริงจัง ซึ่งปัจจุบันเราก็มีทีมเล็กๆ อยู่ที่อังกฤษอยู่แล้ว แต่เป้าหมายสูงสุดในการทำแบรนด์คือการพา “ลาสเทล (L’Astelle)” เข้าสมาคมโอตกูตูร์ ซึ่งการที่จะพาแบรนด์ไปสู่จุดนั้นได้จะต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรมฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ กระบวนการการตัดเย็บทุกๆ ชุดต้องทำด้วยด้วยมือทั้งชุดตั้งแต่ขั้นตอนแรกถึงจนถึงขั้นตอนสุดท้าย งานทุกชิ้นต้องปราณีตและใช้ช่างตัดฝีมือชั้นสูง ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 15 แบรนด์เท่านั้นที่ได้การรับรองเข้าเป็นสมาชิกสมาคมโอตกูตูร์ค่ะ

คอลเล็คชั่นต่อไปของ “ลาสเทล”

คอลเล็คชั่นใหม่ที่จะออกต่อจาก Love sonnet จะมีการออกแบบให้มีสีสันมากขึ้น เน้นการปักที่แน่น และหนักกว่าเดิม โดยใช้ทีมที่อยู่อังกฤษทำทั้งหมด ซึ่งคอลเล็คชั่นนี้มาจากความรู้สึกที่ว่า การที่เราเจอช่วงเวลาที่เลวร้าย ความรู้สึกท้อ เศร้า ที่ทุกคนต่างเผชิญ ได้กลายเป็นแรงผลักดันอยากให้คอลเล็คชั่นนี้โอบรับความรู้สึกเหล่านั้นเป็นและเติมเต็มด้วยโลกแห่งจินตนาการลิ้มรสความหวัง ในช่วงเวลาที่ลำบาก

ซึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากความงดงามของพระราชวังแวร์ซายห้องบอลรูมที่เต็มไปด้วยกระจก พาเราก้าวสู่โลกอีกใบ โลกที่เต็มไปด้วยความสนุกที่มาโอบอุ้มความเศร้าหมอง พาเราไปเจอกับโลกแห่งความสุข และสีสัน ผ่านซิลลูเอท เค้าโครงเสื้อผ้าและงานปักอันประณีตตามแบบฉบับ “ลาสเทล (L’Astelle)” ค่ะ

ครอบครัวซัพพอร์ตในสิ่งที่รัก

เจน-ทิพย์วิภา

เจนมีพี่น้อง 5 คน ซึ่งรวมตัวเจนเองด้วย คุณพ่อ คุณแม่ไม่เคยบังคับลูกๆ เลยค่ะ อยากทำอะไรก็ทำเลย ท่านคอยซัพพอร์ตทุกอย่างในสิ่งที่ลูกๆ อยากทำ คอยแนะนำ และสอนเราในเรื่องการทำธุรกิจทุกอย่าง


เรื่อง : เจน-ทิพย์วิภา กิตติ์อัครานนท์

เรียบเรียง : Nitcha

ภาพ : วรสันต์ ทวีวรรธนะ, @lastelle

 

 

 

 

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up