ต้อนรับวันเด็ก กับซุปตาร์ฟันน้ำนม อย่าง “น้องณดา – ปุณณดา” ที่จะมาเชิญชวนชาวไทยส่งความสุขให้กับเยาวชนที่มีปัญหาด้านสายตาทั่วประเทศใน “โครงการแว่นตาเพื่อน้อง ปี 4”
วันนี้ “แพรวดอทคอม” พาไปแอบส่องคุณแม่ยังสวย “กบ สุวนันท์” ที่พา“น้องณดา ปุณณดา ปุณณกันต์“ และพระเอกหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ร่วมกิจกรรมเปิดงานสานต่อ “โครงการแว่นตาเพื่อน้อง ปี 4” ของ ห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย สนองพระราชประสงค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย
เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่ เยาวชนที่มีปัญหาด้านสายตาในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ให้มีสุขภาพตาที่ดีขึ้นสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ และได้รับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกิจกรรมลงพื้นที่ตรวจสุขภาพดวงตาและประกอบแว่นใหม่
และเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ เชิญชวนจิตอาสาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในโครงการ พร้อมเขียนคำอวยพรเพื่อส่งให้กับน้องๆ ด้วยการกดแชร์วีดีโอ “Double Happiness”1 การแชร์มีค่าเท่ากับ 1 ความสุขแบบคูณ 2 ของน้องๆ ในFacebook TopCharoenOpticalOfficial ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม– 28 กุมภาพันธ์2560
นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ผู้อำนวยการศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ กล่าวว่า “ปัญหาทางด้านสายตาที่พบมากที่สุดในเด็กไทยที่มีอายุระหว่าง 5 – 18 ปี คือ ปัญหาสายตาสั้นเทียมโรคตาขี้เกียจ และโรคตาเข/ตาเหล่ โดยปัญหาสายตาสั้นเทียมมักพบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากในยุคนี้เราใช้การมองระยะใกล้กันมากขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์มือถือ ทั้งจอเล็กและจ้องดูใกล้ ที่สำคัญเพ่งจ้องดูกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน ไม่ละสายตา รวมถึงจ้องดูในบริเวณที่มีแสงน้อยๆ ดังนั้นดวงตาจึงต้องใช้กล้ามเนื้อเพ่งต้องทำงานเกร็งตลอดเวลา ทำให้ไม่คลายตัว
“อีกปัญหาเรื่องโรคตาขี้เกียจ มีมักพบในเด็กเล็กช่วงวัยเตรียมเข้าโรงเรียน โดยคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้จากพฤติกรรมการจ้องมองสิ่งของรอบตัวของเด็ก อาจลองปิดตาเด็กที่ละข้างแล้วตรวจดูว่าการมองเห็นใกล้เคียงกันไหม ถ้าพบลักษณะผิดปกติดังกล่าวอาจต้องพาลูกไปพบจักษุแพทย์”
“โรคตาขี้เกียจนี้มีผลทำให้ การพัฒนาซีกสมองส่วนการมองเห็นไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมองเห็นภาพข้างนั้นไม่ชัดเจน นานวันสมองซีกนั้นจะหยุดการพัฒนาการมองเห็น และเป็นผลทำให้ความสามารถในการมองเห็นสิ้นสุดลงจนอาจเป็นตาเขในระยะยาว”
“และสุดท้ายคือโรคตาเข/ตาเหล่ซึ่งเป็นอาการของการรวมภาพของดวงตาทั้งสองข้างไม่ดี โดยมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ปัญหาสายตา อุบัติเหตุที่ตาหรือโรคทางสมอง รวมทั้งพฤติกรรมของตัวเด็กเอง อาทิ การชอบนอนอ่านหนังสือ เป็นต้น ซึ่งเป็นผลทำให้เด็กกลุ่มนี้กะระยะได้ไม่ดี และเมื่อเติบโตขึ้นอาจมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ไม่มั่นใจและมักขี้อาย โรคตาเขในบางครั้งอาจเป็นตลอดเวลาหรือบางครั้งอาจเป็นแบบซ้อนเร้น ซึ่งอาจปรากฎในช่วงที่อ่อนเพลีย ส่วนการตรวจรักษาโดยจักษุแพทย์จะตรวจวินิฉัยว่าเด็กเป็นโรคตาเขประเภทใด กล้ามเนื้อกลอกตามัดไหนมีปัญหา มุมเขมากน้อยเท่าไร และมีปัญหาสายตาอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ส่วนใหญ่จักษุแพทย์จะรักษาต้นเหตุของตาเขก่อน และสุดท้ายจักษุแพทย์จะผ่าตัดกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ตาตรงต่อไป”
เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทอคอม