บาปกรรมมีจริง! ย้อนดูคดีดัง นักการเมืองคอรัปชั่น ทุจริต โกงชาติ

ย้อนดูคดีดัง เหล่าผู้นำ นักการเมืองคอรัปชั่น ทุจริต โกงชาติ ท้ายสุดพบจุดจบที่ไม่สวย เข้าคุก เข้าตารางชื่อ(เสีย)เลื่องลือ กลายเป็นตราบาปในชีวิต เพราะบาปกรรมมีจริง

นักการเมืองคอรัปชั่น สร้างความเสียหายให้กับประเทศ เหล่านักการเมืองที่โกงกินภาษีประชาชน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศมีการพัฒนาที่ล่าช้า บางประเทศยังจัดให้อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา การโกงกินเกิดได้ทุกประเทศ ไม่เว้นแม้ประเทศไทย ที่มีข่าวให้เห็นตลอดเวลา แพรวดอทคอมพาย้อนดูคดีดังของ นักการเมือง (ต่างประเทศ) ที่โกงกินชาติบ้านเมือง ท้ายที่สุดพวกเขาและเธอเหล่านั้นก็พบจุดจบที่ไม่ค่อยสวยนัก

บาปกรรมมีจริง! ย้อนดูคดีดัง นักการเมืองคอรัปชั่น ทุจริต โกงชาติ

เกาหลีใต้

ย้อนกลับไปปี 2018 เชื่อว่าหลายคงคุ้นหูกับ ปาร์ค กึน-เฮ อดีตประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ ที่ตกเป็นจำเลยถึง 16 ข้อหาในคดีทุจริตระดับชาติ คดีของปาร์ค กึน-เฮ กลายเป็นคดีอื้อฉาวที่สร้างความวุ่นวายและความไม่พอใจให้กับคนในชาติเป็นอย่างมาก เพราะกระทบต่อเศรษฐกิจ ถึงขั้นคนเกาหลีใต้ออกมาชุมนุมและประท้วงให้เธอลาออกจากตำแหน่ง

เพื่อนรักพากันโกงกินบ้านเมือง ปาร์ค กึน-เฮ ร่วมมือกับ ชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิท เรียกรับสินบนจากบริษัทต่างๆ เพื่อแลกกับการเอื้อประโยชน์ทางการเมือง ชเว ซุน-ซิล มีอิทธิพลเป็นอย่างมากในฐานะเพื่อนสนิทของ ปาร์ค กึน-เฮ เธอสามารถเข้าถึงเอกสารของราชการในระดับประเทศได้ รวมถึงมีข้อกล่าวหาที่ว่าเธอเข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย

เวรกรรมตามติดเหมือนจรวด ไม่นานนัก ชเว ซุน-ซิล ก็ตกเป็นจำเลยในคดีทุจริต และใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ศาลตัดสินให้เธอถูกจำคุกเป็นเวลา 20 ปี ในข้อหารับสินบน , ใช้อิทธิพลความเป็นคนสนิท และล่วงละเมิดอำนาจของประธานาธิบดี อย่างการใช้ความสนิทช่วยให้ลูกสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และใช้เส้นสายกับอาจารย์ช่วยให้คะแนนลูกสาวของเธอในการทำรายงานและการสอบ นอกจากนี้เธอยังถูกปรับเงินเป็นจำนวนอีก 18,000 ล้านวอน

ด้านอดีตประธานาธิบดี ปาร์ค กึน-เฮ ภายหลังคนสนิทถูกดำเนินคดี ก็ไม่อาจรอดพ้นจากสิ่งที่ทำเช่นกัน เธอถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกนำตัวมาดำเนินคดี ภายหลังศาลไต่สวนและพบความผิดจริง จึงทำให้ปาร์ค กึน-เฮ ได้รับโทษโดยการตัดสินจำคุกเป็นเวลา 24 ปี จากข้อหาทุจริตและใช้อำนาจโดยมิชอบ

อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดี ปาร์ค กึน-เฮ ไม่ใช่ผู้นำรายแรกที่โกงกินบ้านเมือง แต่ก่อนหน้านี้ นายลี มยอง-บัก ก็ถูกศาลตัดสินจำคุก เนื่องจากรับสินบนและการใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งเขาถูกอัยการระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก DAS ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ท้องถิ่นที่เชื่อว่ามีนายอีเป็นเจ้าของ และรับสินบนจากหน่วยงานสายลับ , ซัมซุง , หัวหน้ากลุ่มธนาคารของรัฐและนักการเมือง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นายลี ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 15 ปี และถูกปรับเงินอีกเป็นจำนวน 13,000 ล้านวอน

บราซิล

บราซิลจัดว่าเป็นประเทศที่มีนักการเมืองคอรัปชั่นไม่ยิ่งหย่อนน้อยกว่าประเทศใด ดังเช่นในคดีของ “นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดาซิลวา” หรือนายลูลา อดีตประธานาธิบดีบราซิล วัย 73 ปี ที่ถูกจำคุกเป็นเวลา 12 ปี ในข้อหารับสินบนจากบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ แม้ก่อนหน้านี้จะขัดขืนไม่ยอมเข้าคุก แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอมมามอบตัว แม้เขาจะระบุว่าการตัดสินครั้งนี้ให้ตัวเขาถูกจำคุกนั้น เพื่อขัดขวางการลงเลือกตั้งจากคู่แข่ง เพราะตัวนายลูลานั้นมีคะแนนนำโด่งในทุกสำนัก

ทั้งนี้นายลูลาก็ยังไม่ใช่ผู้นำประเทศคนแรกที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาคอรัปชั่น แต่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีมิเชล เตเมร์ ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนราวๆ 500,000 เรอัลบราซิลจากอดีตประธานบริษัท ผู้จัดจำหน่ายเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก รวมถึง นางดิลมา รุสเซลฟ์ ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนหน้าที่ นายมิเชล์ จะมารับตำแหน่งแทน โดยเธอก็ถูกกล่าวว่าพัวพันคดีรับสินบนและฟอกเงินด้วยเช่นกัน

อิตาลี

นายซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี นักการเมืองเลื่องชื่อ อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี 3 สมัย ถูกศาลสั่งให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี จากข้อหา “โกงภาษี” เส้นทางชีวิตของเขายังเคยถูกนำไปเปรียบเทียบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ว่ามีคล้ายคลึงกัน โดยก่อนหน้าที่จะมาลงเล่นการเมืองนั้น นายซิลวิโอ เคยเป็นนักธุรกิจและมหาเศรษฐีที่ทำด้านสื่อมาก่อน

ทั้งนี้นายซิลวิโอถูกกล่าวหาว่าให้อาณาจักรสื่อ Mediaset ของเขา ปรับแต่งราคาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดโทรทัศน์ที่ขายแก่เหล่าบริษัทในเครือสูงกว่าปกติ จากนั้นก็จัดการขายมันกลับคืนแก่ Mediase ทำให้บริษัทมีรายได้ลดลงและเสียภาษีน้อยลงตามไปด้วย

นอกจากบทลงโทษข้างต้นแล้ว ศาลอิตาลียังสั่งให้นายแบร์ลุสโกนีและจำเลยร่วมอีก 10 คน จ่ายเงินชดเชยคืนแก่หน่วยงานด้านภาษีของอิตาลีเป็นเงินราว 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 400 ล้านบาท รวมถึงถูกห้ามไม่ให้รับตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 6 ปี

อย่างไรก็ตามภายหลังที่นายแบร์ลุสโกนีพ้นโทษ เขาก็ได้ออกมาตั้งพรรคการเมืองและลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง ชนิดที่ไม่แคร์สื่อ ไม่มีคำว่าพักก่อน ทั้งนี้เรื่องราวของเขายังถูกนำไปสร้างภาพยนตร์ใน Netflix ซึ่งอ้างอิงจากหนังสือที่ชื่อว่า My way

จีน

แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มีกฎหมายและบทลงโทษที่เด็ดขาดต่อผู้ที่กระทำผิด แต่เชื่อหรือไม่ว่าก็ยังมีคนที่ไม่เกรงกลัวและยังกล้าที่จะทำ ดังเช่นคดีคอรัปชั่นและใช้อำนาจในทางที่มิชอบของ นายป๋อ ซีไหล อดีตนักการเมืองดาวรุ่งชื่อดังของแดนมังกร

คดีของนายซี ป๋อไหล อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมหานครฉ่งชิ่ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคดีดังและอื้อฉาวทางการเมืองมากที่สุดในศตวรรษของจีน มีการเปิดโปงว่านายป๋อใช้อำนาจในทางมิชอบ ปกปิดคดีฆาตกรรมนักธุรกิจชาวอังกฤษ ที่ภรรยาของตนเอง นางกู่ไกไหล เป็นผู้ก่อขึ้น

ตามมาด้วยการเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นอีกมากมายของนายป๋อ และยังมีข่าวลือที่ว่าแท้จริงแล้ว การเปิดโปงเรื่องนี้เป็นแผนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการกำจัดนายป๋อ คู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของนายสีจิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นกำลังจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของจีน

อย่างไรก็ตาม มีการวิจารณ์เกิดขึ้นในทางที่ว่ารัฐบาลได้เตี๊ยมกับนายซี ป๋อไหล ให้ร่วมมือในการไต่สวนเพื่อรักษาหน้าตาของประเทศ ซึ่งจะมีการลดหย่อนโทษให้น้อยลงในภายหลัง

แม้ว่าจะมีข่าววงในนี้ออกมา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นจริง นายป๋อได้ปฏิเสธทุกข้อหา และต่อว่าว่าพรรคคอมมิวนิสต์จนหน้าชา โดยเขากล่าวว่าทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะต้องการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้เขาลงจากอำนาจ

ท่าทีที่แข็งกร้าวของนายซี ป๋อไหล อาจสร้างความไม่พอใจให้กับพรรคคอมมิวนิสต์เป็นอย่างมาก ท้ายที่สุดเขาจึงถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่รอลงอาญา และยังปฏิเสธการยื่นอุทธรณ์ จบคดีมหากาพย์ที่ส่งผลกระทบต่อพรรคคอมมิวนิสต์มายาวนานถึง 2 ปี

แม้ว่าคดีของนายป๋อจะปิดฉากลงแล้ว บทบาทของเขาในการเมืองจีนก็ดูจะยังไม่หมดไปอย่างสิ้นเชิง ภายหลังจากเขาถูกจำคุกไม่นาน ก็มีปัญญาชนชาวจีนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาประกาศตั้งพรรคการเมืองที่ชื่อว่า “ฉีเชี่ยน” ซึ่งแปลว่า “ความเที่ยงตรง” โดยให้ป๋อซีไหลเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมทั้งประกาศนโยบายของพรรคว่าจะเรียกร้องการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียม และพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองกระทำตามอำเภอใจ ไม่สนใจหลักรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

กรรมคือการกระทำ หลายคนไม่เชื่อเรื่องผลของการกระทำ แต่ตัวอย่างก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง แม้จะมีช่วงเวลาที่เป็นจุดสูงสุดของชีวิต แต่สักวันหนึ่งก็อาจตกลงมาได้แบบไม่รู้ตัว นักการเมืองหลายคนที่ร่ำรวยด้วยการโกงกินผู้อื่น เสวยสุขบนความทุกข์ร้อนของประชาชน โดยที่ไม่สนใจผิดชอบชั่วดี ดังตัวอย่าง 4 ประเทศที่กล่าวมา ผลสุดท้ายก็พบจุดจบที่ไม่ต่างกัน บางคนช้า บางคนเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับวาระกรรมของคนนั้นๆ แต่จะช้าหรือเร็วชื่อของบุคคลนั้นจะถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นคน…. ไม่มีทางลบเลือนลงได้ แม้เจ้าตัวจะลาลับโลกไปแล้วก็ตาม….

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : BBC, posttoday, Thairath, Workpoint, isranews, voicetv