หลากหลายด้านมืดใน วงการบันเทิงเกาหลี กว่าจะมาเป็น K-Pop Star ไม่ใช่เรื่องง่าย

account_circle

การจากไปของ คู ฮาร่า และ ซอลลี่ ซึ่งห่างกันเพียง 6 สัปดาห์สร้างความเสียใจให้กับแฟนๆ จำนวนมาก และยังเผยให้เห็นด้านมืดของ วงการบันเทิงเกาหลี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยมีผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง

หลากหลายด้านมืดใน วงการบันเทิงเกาหลี กว่าจะมาเป็น K-Pop Star ไม่ใช่เรื่องง่าย

วงการบันเทิงเกาหลี

ต้องบอกเลยว่าอุตสาหกรรมบันเทิงประเทศเกาหลีใต้มีการแข่งขันกันสูงมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักแสดง หรือ ศิลปิน จะก้าวขึ้นมาเป็น K-Pop Star อยู่บนเส้นทางนี้โดยไม่ผ่านร้อน ผ่านหนาว ซึ่งแต่ละคนนั้นก่อนที่จะมาเป็นซุปตาร์ เป็นไอดอล ต้องสั่งสมประสบการณ์ ชื่อเสียง และความสามารถ อย่างการเป็นนักแสดง นักร้องฝึกหัดตั้งแต่วัยเด็ก

เราจะเห็นได้ว่าค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้มีการเปิดออดิชั่น จัดการประกวดเพื่อค้นหาเด็กๆ เพื่อมาฝึกร้อง ฝึกเต้นกันอย่างหนักหน่วง ซึ่งกว่าจะมาเป็นไอดอลที่เราเห็นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนถอดใจไม่ไปต่อก็มีเยอะมาก เพราะต้องเผชิญกับแข่งขันที่สูง ทั้งแข่งกับตัวเอง แข่งกับคนอื่น นั่นจึงเป็นสิ่งที่สร้างความเครียดให้พวกเขามากยิ่งขึ้น รวมถึงพวกเขาต้องแลกกับอะไรหลายๆ อย่างโดยเฉพาะชีวิตความส่วนตัว….

ดารา และศิลปินเกาหลีใต้นั้น ความเป็นส่วนตัว เรียกได้ว่าเป็นศูนย์ เราคงเคยเห็นภาพศิลปินหลายๆ คนโดนจับตามองจากสื่อ โดยเฉพาะเรื่องความรัก ที่มักจะถูกจับตาเป็นพิเศษ นอกจากชีวิตส่วนตัวที่จะพบได้น้อยในชีวิตของพวกเขาแล้ว หลายคนยังต้องเจอกับเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจอย่างการโดน “Cyberbullying” การด่าทอ การใช้ถ้อยคำเสียดสี ในโลกออนไลน์ ที่ถูกสั่งสมเรื่อยมา จนเกิดเป็นบาดแผลในใจ จนทำบางคนเป็นโรคซึมเศร้า บ้างก็กำลังรักษา และหายดีเพราะได้กำลังใจจากแฟนๆ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ทนไม่ไหว และหาทางออกสุดท้ายคือการจบชีวิตตัวเองอย่าง

วงการบันเทิงเกาหลี

คิม จงฮยอน ศิลปินจาก วง SHINee ที่ตัดสินใจลาโลก อันเนื่องมากจากโรคซึมเศร้า เมื่อปี 2560 โดยเขาได้เขียนจดหมายสุดท้ายไว้ทำนองว่า เขารู้สึกหดหู่ รู้สึกเศร้า รู้สึกไร้ประโยชน์ และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่ออะไร

ด้าน คิม ดอง วัน สมาชิกบอยแบนด์ ชินฮวา (Shinhwa) ได้เขียนข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ดารานักร้องหลายคนกำลังต่อสู่อย่างโดดเดี่ยว ครุ่นคิดว่าพวกเขาจะแบกรับความทุกข์ทรมานทางจิตใจได้อีกแค่ไหน จะทำงานต่อไปดีหรือไม่ เพียงเพื่อความหอมหวานที่มาจากการมีชื่อเสียงและเงินทอง” (ฺBBC Thai)

วงการบันเทิงเกาหลี

ซึ่งจากเหตุการณ์ การเสียชีวิตของ ซอลลี่ ทำให้สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เตรียมผลักดัน Sulli Law “กฏหมายซอลลี่” เพื่อจัดการกับความคิดเห็นที่เป็นอันตรายในโลกโซเชียล หรือเรียกว่า Cyberbullying รวมถึงในกรณีของ คู ฮาร่าที่ก่อนหน้านี้พยายามฆ่าตัวตายอันเนื่องจากถูกแฟนหนุ่ม ชเวจองบอม ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ว่าจะปล่อยคลิปลับของเธอและเขา สร้างความเครียดให้กับเธอเป็นอย่างมาก แม้จะเธอจะแจ้งความ และคดีถูกตัดสินมาว่า ชเวจองบอมทำผิดจริง ซึ่งศาลได้ตัดสินให้เขาจับคุก 18 เดือน แต่เนื่องจาก ชเวจองบอมไม่เคยทำผิดมาก่อน ดังนั้นจึงสั่งรอลงอาญาเอาไว้ เป็นเวลา 3 ปี ภายหลังจากคู ฮาร่าเสียชีวิต ชาวเกาหลีจึงได้ออกมาเรียกร้องให้ลงโทษ ชเวจองบอม จนแฮชแท็ก #PunishChoiJongBum  ในทวิตเตอร์ขึ้นเป็นอันดับ 1 แต่เรื่องในตอนนี้ก็ยังอยู่ในกระบวนการอุทธรณ์เท่านั้น

ทั้งนี้เว็บไซต์ south china morning post (SCMP) ได้ออกมาวิเคราะห์ ด้านมืดของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ว่า เบื้องหลังมิวสิควิดีโอ เพลงติดหู ท่าเต้นยอดฮิต  และเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย ไม่ได้เพียงนำมาซึ่งชื่อเสียงให้ศิลปินเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องเผชิญกับความกดดัน ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัว ถูกกลั่นแกล้งทางโลกออนไลน์

แม้ว่าจะสร้างรายได้มหาศาลมากเพียงใด แต่บริษัทหรือค่ายที่ศิลปินเหล่านั้นสังกัดอยู่กลับให้ความคุ้มครองเพียงเล็กน้อยกับพวกเขา การเป็นไอดอลไม่ได้คงอยู่ตลอดไป แน่นอนว่าความนิยม ต้องมาพร้อมกับจำนวนแฟนคลับ ปัจจุบันศิลปินหน้าใหม่ที่อายุยังน้อยเกิดขึ้นเรื่อยๆ โดยมากอายุในอาชีพนี้มักจะอยู่ที่ 20 ปลายๆ จึงทำให้พวกเขาต้องหาอาชีพอื่นทำ หลายคนผันตัวเองมาเป็นนักแสดง หรือ ออกจากวงการบันเทิงไปเลยก็มี

ซึ่ง SCMP ยังสรุปอีกด้วยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องเข้ามาดูอุตสาหกรรมนี้อย่างใกล้ชิด ในประเทศนี้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วและจากการสำรวจพบว่าร้อยละ 40 เป็นศิลปินผู้ให้ความบันเทิงที่ตัดสินใจจบชีวิต ต้องมีมาตรฐานและเงื่อนไขในการทำงานที่ดีขึ้น ต้องให้ความสนใจกับสุขภาพจิตของพวกเขาให้มากขึ้นด้วย


ข้อมูล : www.scmp.com

ภาพ : koohara__, jonghyun.948, jelly_jilli

Praew Recommend

keyboard_arrow_up